Category: PUBLIC ด้านอุตสาหรกรรมการผลิต และโรงงาน

Online Training หลักสูตร : เทคนิคการลดข้อผิดพลาดในการทำงาน (Mistake proofing technique) อบรม 26 ก.พ.65

Online Training หลักสูตร : เทคนิคการลดข้อผิดพลาดในการทำงาน (Mistake proofing technique) อบรม 26 ก.พ.65

 

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

Online Training  ราคา ท่านละ 1,500 บาท 13.00-16.00

หลักสูตร/วัน โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

คุณภาพของสินค้าหรือบริการคือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องสร้างให้เกิดขึ้นในการทำงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด การสร้างคนให้เข้าใจในการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและการลดความผิดพลาดในการทำงาน เพื่อให้เกิดงานเสียน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย จึงเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดของทุกองค์กร  เพราะถ้าเรามีพนักงานที่มีจิตสำนึกในการที่จะรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและลดงานเสีย คิดถึงแต่การทำงานให้มีคุณภาพแล้ว องค์กรยังจะสามารถพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อีกด้วย

ในหลายๆ องค์กรจึงให้ความสำคัญของการตรวจสอบสินค้าหรือบริการก่อนจะไปถึงลูกค้า ซึ่งความผิดพลาดในการทำงานเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) และต้องทำการแก้ไขผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้น (Rework) ซึ่งทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นไปอีก เทคนิคหนึ่งทางด้านปรับปรุงคุณภาพและมุ่งมั่นสู่ความผิดพลาดเป็นศูนย์ นั้นคือ การใช้เทคนิค POKA-YOKE ซึ่งเป็นระบบป้องกันความผิดพลาดในขบวนการทำงานที่เกิดจากคน (Human Error) หรือที่เรียกกันเป็นที่แพร่หลายว่าระบบป้องกันความผิดพลาดจากการพลั้งเผลอหรือใช้คำว่า Mistake – Proofing นั่นเอง

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ ถึงแนวคิดและหลักการของระบบป้องกันความผิดพลาด

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปรับปรุงงานเพื่อลดความผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง

    3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างถูกวิธีและ

    ทราบถึงอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

4.เพื่อเข้าใจถึงต้นทุนการผลิต ความสูญเสียจากความผิดพลาดในการทำงาน

 

หัวข้อการอบรม

  1. กำไร รายได้ และต้นทุนของทุกองค์กร

  2. ความหมายและความสำคัญของคำว่า “คุณภาพ”

  3. จิตสำนึกและจิตสำนึกคุณภาพคืออะไร

  4. ผลกระทบต่อการทำงานที่ขาด “คุณภาพ” ทั้งต่อหน่วยงานและองค์กร

  5. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานที่ผิดพลาด

        5.1 ปัจจัยการกระทำของคน ที่ทำให้เกิดความผิดพลาด

        5.2 ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน

Workshop1: แชร์ประสบการณความผิดพลาดของการทำงานปัจจุบัน

  1. สาเหตุของความผิดพลาดที่เกิดจากคน 10 ประการ

Workshop2: ระดมสมองเพื่อลดความผิดพลาดจากสาเหตุ 10 ประการ

  1. เทคนิคการลดความผิดพลาดในการทำงานเบื้องต้น

Workshop3: ป้องกันความผิดพลาดจากการทำงานเบื้องต้น

8.ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดความผิดพลาดของคน (Human Error)

        -ปัจจัยจากตัวบุคคล

        -ปัจจัยภายนอก

        -ปัจจัยจากความกดดัน

        -สภาพแวดล้อมในการทำงาน

9.ระดับของการความคุมความผิดพลาดในการทำงานทั้ง 7 ระดับและการป้องกัน

10.วิธีการใช้งานระบบ Poka Yoke และ Mistake – Proofing เพื่อลดความผิดพลาดของคน

  1. 1 กรณีศึกษาและตัวอย่างระบบป้องกันความผิดพลาด เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ถึงการวิเคราะห์ถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาจากตัวอย่างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

12.Workshop: การทำงานเป็นทีมเพื่อลดความผิดพลาด

13.Workshop: ระดมสมองเพื่อลดความผิดพลาดเป็นศูนย์

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

 

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ปรับเปลี่ยน GHP/HACCP Revision 5 อบรม 25 เม.ย.65 (09.00-16.00)

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ปรับเปลี่ยน GHP/HACCP Revision 5 อบรม 25 เม.ย.65 (09.00-16.00)

 

อัตราค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat) 09.00-16.00

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

เพื่อทราบถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน GHPs/HACCP V.5 และยกระดับมาตรฐาน ซึ่งเป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาใช้เป็นแนวทางการกำหนดระบบการควบคุมการทำงานในวงการผลิตอาหาร โดยการใช้ การจัดทำระบบเอกสารให้สอดคล้องตามมาตรฐานและใช้ระบบเอกสารดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการบริหารและติดตามประสิทธิผลของการจัดทำระบบ 

หลักสูตรนี้เน้นให้พนักงานมีความรู้และความเข้าใจในส่วนที่มาของระบบ และทฤษฎี รวมถึงการฝึกภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้ระบบพร้อมตัวอย่างจริงให้ท่านง่ายต่อการทำความเข้าใจ

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ :

      หลังจากการเรียนรู้ ผู้เข้ารับการเรียนรู้จะได้รับ

  • ความรู้ ความเข้าใจ ในการประยุกต์ใช้ และจัดทำระบบ GHPs/HACCP V.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สามารถจัดทำระบบได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์

 

สิ่งที่จะเรียนรู้ :

      ช่วงเช้า (09.00-12.00 น.)

  • การเปลี่ยนแปลง และคำนิยามที่เกิดขึ้นในมาตรฐาน GHPs 5

  • การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด GHPs

  • ข้อ วัตถุประสงค์ของการผลิตขั้นต้น

  • ข้อ สถานประกอบการ – การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์

  • ข้อ การฝึกอบรมและความสามารถ

  • ข้อ การกำหนดการบำรุงรักษาและการฆ่าเชื้อโรค

  • ข้อ สุขลักษณะส่วนบุคคล

  • ข้อ การควบคุมการปฏิบัติงาน

  • ข้อ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค

  • ข้อ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค

      ช่วงบ่าย (13.00-16.30 น.)

  • การเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในมาตรฐาน HACCP V.5

  • การศึกษาถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์และการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้และการทบทวนเอกสารแผนภูมิกระบวนการผลิต และ การทำการวิเคราะห์อันตรายและพิจารณาหามาตรการในการควบคุมอันตรายตามหลักการที่ 1 ของระบบ HACCP

  • Work shop: การวิเคราะห์หาจุด CCP ตามหลักการที่ 2 ของระบบ HACCP

  • การกำหนดเกณฑ์ค่าจำกัดวิกฤตที่เหมาะสม ตามหลักการที่ 3

  • การกำหนดการเฝ้าระวังตามหลักการที่ 4

  • การกำหนดวิธีการแก้ไขตามหลักการที่ 5

  • การกำหนดวิธีการทวนสอบ ตามหลักการที่ 6

 

แนวทางการเรียนรู้ : 

หลักสูตรนี้ สร้างการเรียนรู้โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและถ่ายทอดแนวปฏิบัติเพื่อให้นาไปใช้งานได้จริง โดยประกอบด้วย

  • การบรรยาย พร้อมตอบข้อซักถาม

  • การอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Group Discussion & Group Exercise)

  • การฝึกปฏิบัติ (Practicing) และให้คำแนะนำโดยวิทยากร

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

confirm เปิดรับสมัคร ยืนยัน  หลักสูตร วิเคราะห์การขายจริงให้ได้ตามเป้าเชิงพยากรณ์การขาย Sales Planning & Sales Forecast Analysis 31 ม.ค.66

confirm เปิดรับสมัคร ยืนยัน  หลักสูตร วิเคราะห์การขายจริงให้ได้ตามเป้าเชิงพยากรณ์การขาย Sales Planning & Sales Forecast Analysis 31 ม.ค.66

ราคาโปรโมรชั่น 2,000 บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน ท่านละ 1,900 บาท

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

ที่มาของหลักสูตร

          การขายที่เน้นขายให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรายบุคคล รายใหญ่หรือขายให้แก่องค์กร ต้องเน้นความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก พนักงานขายที่ดีต้องสร้าง Customer Value ขึ้นให้ได้ การขายสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าเราไม่ได้เน้นการขายเพื่อวันนี้เท่านั้น การขายแบบ Sales Planning & Sales Forecast Analysis จะส่งผลถึงการขายในระยะยาวเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นพนักงานขายควรจะรู้ กระบวนการวางแผนการขาย การพยากรณ์ยอดขาย เทคนิคในการวิเคราะห์คู่แข่งในการวางแผนด้านการขาย ไม่ว่าจะอยู่ในกระบวนใดๆก็ตามของการขาย เนื้อหาของการฝึกอบรมนั้นจะเน้นให้ได้เรียนรู้หลักการต่างๆ การทำกิจกรรมฝึกปฏิบัติเพื่อทำให้ผู้เข้าฝึกอบรมนั้นมีความเข้าใจในเนื้อหาอย่างแท้จริงก่อนที่จะนำความรู้นั้นไปในการทำงานเพื่อเสริมสร้างเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพนั่นเอง

 

สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม

  • ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจการบริหารงานขายอย่างเป็นระบบ

  • ผู้เข้าอบรมสามารถกระบวนการวางแผนการขายและการพยากรณ์ยอดขายอย่างเป็นขั้นตอน

  • ผู้เข้าอบรมพัฒนาประสิทธิภาพของการขายให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นเพื่อการเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่องด้วยการฝึกปฏิบัติการนำเสนอแผนการขาย

 

ระยะเวลาการฝึกอบรม :   1  วัน  (09.00-16.00 น.)

Topics

วันแรก

  • ความหมายและความเข้าใจของการบริหารการขาย

  • กระบวนการที่สร้างความสำเร็จในงานขาย

     Workshop : Sales Planning &  Forecast Problem

  • ความเกี่ยวข้องระหว่างงานด้านการตลาดและงานด้านการขาย

  • ทำไมเราต้องรู้และเป็นทั้งนักการตลาด และนักขาย

  • เทคนิคการวางแผนการขายที่สอดคล้องกับแผนการตลาดเชิงรุก

  • กลยุทธ์ในการเลือกตลาด และสร้างส่วนประสมทางการตลาด

  • เทคนิคการวางแผนก่อนเข้าพบลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน

  • การวิเคราะห์พยากรณ์ยอดขาย และการตั้งเป้าหมายการขาย

  • การกระจายเป้าหมายการขายเป็นรูปธรรม

  • การตั้งเป้าหมายผู้มุ่งหวังเพื่อรองรับเป้าหมายการขาย

  • การจัดสรรงบประมาณการขายเพื่อสนับสนุนงานขาย

  • การวิเคราะห์ Competitor for Competitive Planning

  • การระบุคู่แข่งทั้งทางตรง และทางอ้อม

  • การวิเคราะห์ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share)

  • การวิเคราะห์จุดยืนของผลิตภัณฑ์ (Product Positioning)

      Workshop : Sales Planning & Forecast Solution

 

 

วิธีการ และรูปแบบการฝึกอบรม  

  • การบรรยาย การระดมความคิดเห็น  การทำแบบฝึกปฏิบัติ  ตลอดจนการระดมปัญหาทางการขายที่เกิดขึ้นจากลูกค้าในหน่วยงานของผู้เข้าฝึกอบรม และข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทางการขายจากบริบทของหลักสูตร และนำมาทำ Workshop  

 

ผู้เข้าฝึกอบรม

พนักงานขายทุกระดับ

 

วิทยากร    :     อาจารย์ สุกิจ ตรียุทธวัฒนา 

 

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Public Training ยืนยัน หลักสูตร “การวางแผนและควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ” (Production Planning and Control)  สัมมนาวันที่ 26 ต.ค.65 เวลา 09.00-16.00น.

Public Training ยืนยัน หลักสูตร “การวางแผนและควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ” (Production Planning and Control)  สัมมนาวันที่ 26 ต.ค.65 เวลา 09.00-16.00น.

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

การวางแผนและควบคุมการผลิตผลิต (Production Planning and Control) เป็นหลักการในการกำหนดคุณค่าของการดำเนินงานผลิตและกำจัดความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตออกไปได้อย่างเหมาะสม ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และทำให้เวลาการผลิตสั้นลงหรือเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นโดยใช้เวลาเท่าเดิมหรือลดลง รวมถึงสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด การวางแผนการผลิตที่ดีจะทำให้สามารถติดตามงานการผลิตและควบคุมการผลิตให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการผลิตและส่งมอบที่ไม่ทันหรือไม่ครบถ้วนได้ ที่สำคัญแผนการผลิตที่ดีจะทำให้เราทราบถึงปัญหาก่อนที่มันจะเกิดและถูกป้องกันมิให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นมาอีกได้อีก

 

วัตถุประสงค์

เพื่อสามารถจัดระเบียบการไหลของงานในระบบผลิต และติดตามการทำงานนั้นว่าเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่ เพื่อที่จะได้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา หรือเป็นการเตรียมและจัดการทรัพยากรและความต้องการ ตลอดจนทางเลือกต่างๆให้เกิดความพร้อมสำหรับการผลิต เพื่อให้บรรลุตามแผนการที่ได้กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึง การปฏิบัติตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ในทุกขั้นตอนรายละเอียดอย่างครบถ้วน เพื่อสามารถผลิตสินค้าได้ตามแผนที่ต้องการ

 

เนื้อหาของหลักสูตร

09.00-10.30:  – ความหมายของการวางแผนและควบคุมการผลิต และคำจำกัดความที่เกี่ยวข้องกับการ

                    วางแผนและควบคุมการผลิต

                   – ความสำคัญของการผลิตและกระบวนการควบคุมการผลิต

                   – การลดความสูญเสียในการผลิต

                   – ระบบการผลิตทันเวลา (Just-in-Time หรือ JIT)

                   – ข้อกำหนดของการวางแผนและควบคุมการผลิต

                   – การกำหนดเป้าหมายการบริหารจัดการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

                   – หน้าที่และการประสานงานของฝ่ายต่าง ๆในองค์กรเพื่อการวางแผนการผลิต

                   – แนวคิดและเครื่องมือของการเสริมสร้างเสริมประสิทธิภาพในการผลิต

10.30-10.40:  พัก 10 นาที

10.40-12.00:  – ระบบการผลิตแบบผลัก (Push System) และแบบดึง (Pull System)

                   – ระบบคัมบัง (Kanban System)

                   – เทคนิคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนการผลิต เช่น การผลิตอย่างต่อเนื่อง,

                     มาตรฐานการทำงาน (Standardized Work), ผังสารธารแห่งคุณค่า (Value Stream

                     Mapping: VSM)

                   – การวัดค่า Cycle time การผลิตสินค้า

                   – การวิเคราะห์เส้นทางการผลิตสินค้าด้วยแผนการไหลของกระบวนการผลิต

12.00-13.00:  พักเที่ยง

13.00-14.30:  — การวิเคราะห์ค่า Cycle time การผลิตของกระบวนการทำงานอุตสาหกรรม

                   – Process time & Cycle time & Manpower

                   – Takt time & Cycle time

                   – ใช้หลักการการจัดลำดับงานและตารางการผลิต (Sequencing and Scheduling)

                   – การสร้างตารางแผนการผลิตหลัก MPS (Master Production Schedule)

                   – การสร้างสูตรการผลิตสินค้า (Bill of Material : BOM)

14.30-14.40: พัก 10 นาที

14.40-16.00:  – การวางแผนความต้องการวัตถุดิบ MRP (Material Resource Planning)

                   – การผลิตแบบต่อเนื่องด้วย Production Board

                   – สาเหตุของความไม่สำเร็จในการวางแผนการผลิต

                  – การใช้ระบบ ERP เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิต (Enterprise Resource

                    Planning: ERP)

 

ระยะเวลาอบรม  1 วัน วันละจำนวน 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

รูปแบบการฝึกอบรม การบรรยาย ผ่านระบบ Online ด้วย Application Zoom

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

วิทยากร :  อาจารย์ อนันต์ ดีโรจนวงศ์

             – MBA Logistics Management

             – Lean Production Consultant

             – ที่ปรึกษาสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน (A.S.I.A.)

             – ที่ปรึกษาเครือข่าย Lean Production สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น

             – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

             – อาจารย์พิเศษและวิทยากรด้านการผลิตและโลจิสติกส์ ม.รัฐฯและเอกชนหลายแห่ง

             – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม

สถานที่จัด โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก เดินทางสดวก

ราคา 3,900 บาท/ท่าน 09.00-16.00

โปรโมชั่น จ่าย 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท เข้าอบรมได้ 6 ท่าน

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

สามารถจัดอบรม In-house Training ได้ค่ะ

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 20 (Performance Appraisal : PMS Module 2) : 1 ธันวาคม 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 20 (Performance Appraisal : PMS Module 2) : 1 ธันวาคม 2564 อบรม 09.00-16.00 น.

ค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

การประเมินผลยุคปัจจุบันเน้นเรื่อง Performance / Results และ Competency แต่ก็ยังประสบกับปัญหาเหล่านี้ ?

  • บุคลากรยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน  (Performance Management System)

  • เลือกไม่ถูกว่าจะประเมินผลด้วย OKR หรือ KPI ดี ???

  • ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators และ Performance Indicators ได้

  • ในการกำหนดหัวข้อประเมินผลไม่สามารถกำหนดได้ว่า อะไรคือ KPI (Key Performance Indicators) อะไรคือ PI (Performance Indicators) ?

  • แยกไม่ออกระหว่าง Performance กับ Competency

  • จะประเมิน Competency ก็มีแต่พฤติกรรมที่จับต้องได้ยาก จะมีการประเมิน Competency ที่ชัดเจนได้อย่างไร ?

  • ประเมินผลว่ายากแล้วแต่ Performance Feedback ยิ่งยากกว่า จะ Feedback อย่างไรให้เป็นธรรมและได้รับการยอมรับจากลูกน้อง ?

  • ประเมินผลแล้ว ไม่รู้จะนำผลการประเมินไปใช้เชื่อมโยงกับการพัฒนาบุลากรได้อย่างไร ?

หากองค์กรของท่านกำลังประสบกับปัญหาดังกล่าวข้างต้น จนก่อให้เกิดอาการอื่นๆ ของปัญหาการจัดการตามมา อาทิเช่น  การประเมินผลไม่เป็นธรรม พนักงานไม่ยอมรับผลการประเมิน หัวหน้ารู้สึกอัดอัดเวลาแจ้งผลงานลูกน้อง ขวัญกำลังใจพนักงานตกต่ำ พนักงานกลุ่ม Talent ทยอยลาออก ฯลฯ

หลักสูตรที่เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ และฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่ควรพลาด ท่านจะได้เรียนเทคนิค ขั้นตอนการประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่แบบครบวงจร ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของวิทยากรในการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง”

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. สามารถอธิบายแนวคิด หลักการ กระบวนการบริหารผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Modern Performance Management Process) และ KPI ได้

  2. สามารถแยกความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง KPI กับ OKR ได้

  3. สามารถกำหนด Key Performance Indicators (KPIs) ในการประเมินผลงานให้สอดกับเป้าหมายองค์กรและงานที่รับผิดชอบ

  4. สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators, Performance Indicators และ Competency  ได้อย่างชัดเจน

  5. สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีสมัยใหม่ได้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ด้วย KPI   และ Competency

  6. เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับ Performance Feedback ที่มีประสิทธิภาพ

  7. สามารถนำผลการประเมินไปใช้ในการบริหารผลงานได้อย่างเป็นระบบ 

หัวข้อสำคัญที่ท่านจะได้เรียนรู้ : 

ส่วนที่  1  :  ปฐมบทเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Introduction to Modern Performance Appraisal)

  • ความเชื่อมโยงของการประเมินผลการปฏิบัติงานกับระระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System : PMS)

  • 6 ขั้นตอนสำคัญของระบบบริหารผลการปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Performance Management Process)

  • Key Performance Indicators และ Competency เครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมินผลยุคใหม่

  • แนวทางการกำหนดปัจจัยและค่าน้ำหนักความสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปียุคใหม่  

ส่วนที่  2  :  ความเหมือนที่แตกต่าง และความแตกต่างที่เหมือนกัน ของ KPIs (Key Performance Indicators) กับ OKRs (Objective and Key Results)

  • ความเหมือนที่แตกต่างของ KPIs กับ OKRs

  • ความแตกต่างที่เหมือนกันของ KPIs กับ OKRs

  • ถ้า OKRs ไม่นิยมใช้ประเมินผล แล้วองค์กรที่ใช้ OKRs ใช้เครื่องมือใดในการประเมินผล ???

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการกำหนด KPIs ในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ Vision และ Objective (KPIs for Performance Appraisal)

  • ความหมายและประเภทของ KPI

  • การกำหนด Corporate KPIs ด้วย Balance Scorecard (BSC)  เพื่อวัดผลการดำเนินงานทางธุรกิจขององค์กร

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายขององค์กร (Corporate KPIs)

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานของแต่ละฝ่ายงาน (Functional KPIs) ให้เชื่อมโยงกับนโยบาย (Policy) วัตถุประสงค์ (Objective) และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติกำหนด Functional KPIs ของฝ่ายงาน ให้เชื่อมโยงกับ Objective และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

  • การจัดทำบันทึกข้อตกลงผลงาน (Performance Agreement) ให้เชื่อมโยงกับนโยบาย (Policy) วัตถุประสงค์ (Objective) และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายของตำแหน่งงาน (Position KPIs / Individual KPIs)

  • ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ Performance Indicators

  • แนวทางการออกแบบและเชื่อมโยง KPIs สู่การประเมินผลงาน

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติออกแบบประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย KPI ของแต่ละตำแหน่งงาน 

ส่วนที่  4  :  วิธีการกำหนดและเชื่อมโยง Competency สู่การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Competency for Performance Appraisal)

  • ความหมายและองค์ประกอบของ Competency

  • ประเภทของ Competency และเครื่องมือในการกำหนด Competency

  • ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ และ Competency

  • แนวทางการกำหนด Competency ในการประเมินขีดความสามารถจาก Job Description Version 4

  • แนวทางการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถประจำปีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร

  • ตัวอย่างการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร 

ส่วนที่  5  :  แนวทางในการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

  • แนวทางการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

  • กระบวนการในการประเมิน และ Feedback ผลการปฏิบัติงานลูกน้องอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  6  :  แนวทางการแจ้งผลการปฏิบัติงาน (Positive Feedback) ให้ได้ทั้งใจและได้ทั้งงานจากลูกน้อง

  • เทคนิคการแจ้งผลงาน (Positive Feedback) แบบได้ทั้งใจ และได้ทั้งผลงานจากลูกน้อง 

ส่วนที่  7  :  การนำผลการประเมินไปปรับใช้งานเชื่อมโยงกับ Human Resources System

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการปฏิบัติงานกับแผนพัฒนารายบุคคล (Performance Appraisal linked to Individual Development Plan : IDP)

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Training Road Map และ Career Path

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Succession Plan ด้วย Competency และ KPI

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับการปรับค่าจ้างประจำปียุคใหม่ แบบอิงเกรด ไม่อิง Bell Curve  

รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย ผ่าน Zoom แบบ Adult Learning

  • ประกอบการแชร์ประสบการณ์ตรง

  • การทำ Workshop ในการปฏิบัติจริง

  • การระดมความคิด นำเสนอผลงาน

  • การถามตอบ

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ :

เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และผู้สนใจทั่วไป

วิทยากร (Trainer)  :  อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • ที่ปรึกษาหลักสูตร เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME) :

รุ่นที่  20  วันที่  1  ธันวาคม 2564  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

ค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : 0988209929

Facebook : tesstrainingpage

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Online Zoom หลักสูตร : การอนุรักษ์พลังงานเพื่อการพัฒนาองค์กร (Saving energy saving for improvement) ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

Online Zoom หลักสูตร : การอนุรักษ์พลังงานเพื่อการพัฒนาองค์กร (Saving energy saving for improvement) ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

ในการที่จะทำให้พนักงานในองค์กรมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์หรือการประหยัดพลังงานนั้น หลายองค์กรได้มีการพยายามรณรงค์กันอย่างหลากหลายรูปแบบ เกิดความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง บางองค์กร รณรงค์กันอย่างจริงจังอย่างต่อเนื่อง แต่พอหยุดการรณรงค์หรือหมดระยะเวลาในโครงการแล้ว ไม่นานนักพนักงานก็กลับมามีพฤติกรรมที่ไม่ประหยัดอีก อาจจะเกิดเพราะความเคยชิน หรือมองไม่เห็นความสำคัญในการประหยัดพลังงาน เพราะว่าเห็นเป็นเรื่องไกลตัวและเกิดความไม่สะดวกสบายในการทำงาน เป็นต้น

แต่ถ้าองค์กรใดให้พนักงานทุกคนได้มีความรู้ในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม องค์กรนั้นจะเกิดการใช้พลังงานได้เกิดประโยชน์สูงสุดและต่อเนื่องยั่งยืน รวมถึงสภาพแวดล้อมภายในองค์กรก็จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องอีกด้วย ดังนั้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานในองค์กร จะเป็นการฝึกอบรมที่ให้พนักงานตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและผลกระทบจากการใช้พลังงาน ขั้นตอนวิธีการในการลดการใช้พลังงานและใช้ทรัพยากรในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างเป็นระบบและง่ายในการนำไปใช้ กรณีตัวอย่างของกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้ เทคนิคการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพประสบความสำเร็จ รวมทั้งการระดมสมองในการจัดทำแผนรณรงค์ระชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้นแก่องค์ได้

หลักสูตรนี้จึงเป็นคำตอบที่ดีของการสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานในองค์กรเพื่อให้พนักงานทุกคนเกิดความตระหนักถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ทั้งต่อตนเอง องค์กร ประเทศชาติ และต่อสภาวะแวดล้อมของโลกเราได้อีกด้วย

วัตถุประสงค์

เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อย่างเป็นระบบ

เพื่อเสริมสร้างแนวคิดการป้องกัน การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้านพลังงานอย่างเป็นมีรูปแบบ

เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานและองค์กรอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจต่อผลกระทบของการใช้พลังงานในปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง
เพื่อสร้างการทำงานเป็นทีม การยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง เกิดความสามัคคี

เพื่อสร้างแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้ารับการอบรม

หัวข้อการอบรม เวลา 09.00 – 12.00 น.

  1. ผลกระทบจากการใช้พลังงานมากเกินไป

– ภาวะโลกร้อน ที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม

– ผลกระทบจากการใช้พลังงาน

– ผลกระทบจากฝุ่นละออง และ PM 2.5

– ผลกระทบด้านสภาวะอากาศของโลกและสิ่งแวดล้อม

– ฉลากเขียว กับผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย

     – ทัศนะคติเดิม ๆที่ไม่ช่วยกันอนุรักษ์พลังงาน

  1. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยหลัก 3R

       – การ Reuse

       – การ Reduce

       – การ Recycle

  1. แหล่งที่มีของพลังงานไฟฟ้า

       – การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป (น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, ถ่านหิน)

        – การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (แสงอาทิตย์, ลม, คลื่นทะเลและอื่น ๆ)       

หัวข้อการอบรม เวลา 13.00 – 16.00 น.

  1. หลักการประหยัดพลังงานเบื้องต้นและการคำนวณค่าไฟฟ้า

Workshop1: คำนวณการใช้พลังงานไฟฟ้าและวิธีการประหยัด

Workshop2: เครื่องใช้ไฟฟ้าใดกินไฟมากสุด

  1. การอนุรักษ์พลังงานในระบบต่าง ๆ ขององค์กร

– ระบบแสงสว่าง

– ระบบการปรับอากาศ

– ระบบการอัดอากาศ

– ระบบมอเตอร์

– การอนุรักษ์พลังงานในสำนักงาน

  1. แนวโน้มสถานการณ์ของการอนุรักษ์พลังงานในอนาคต

    – นโยบายไทยแลนด์ 4.0 กับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

    – โรงงานและองค์กรในยุค ไทยแลนด์ 4.0

    – การปรับตัวขององค์กรในอนาคต

    – ISO 50001 ระบบมาตรฐานการจัดการด้านพลังงาน

    – ตัวอย่างความสำเร็จของโรงงานในการอนุรักษ์พลังงาน

  1. การทำงานเป็นทีมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน

Workshop3: รวมทีมคำนวณค่าไฟ

Workshop4: ระดมสมองเพื่อให้ได้ค่าพลังงานที่ต้องการ

Workshop5: ช่วยคิด ช่วยจำ ช่วยลดใช้พลังงาน

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 40 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 10 %


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

        1.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้และเข้าใจหลักการอนุรักษ์พลังงานอย่างถูกต้อง

        2.ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการไปประยุกต์ใช้กับงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        3.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น

        4.ผู้เข้าอบรมมีจิตสำนึกเรื่องการใช้พลังงานและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

        5.ผู้เข้าอบรมมีสำนึกการรักองค์กรมากขึ้น

ระยะเวลา :  หลักสูตร 1 วัน  (6  ชั่วโมง)

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 40 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์           10 %

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM จัดหลักสูตร IN HOUSE

สอบถามข้อมูลผ่านไลน์ได้ 24 ชั่วโมง

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

(ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

ติดต่อสอบถาม

Tel : 02-577-5369 098-8209929 คุณสาลินี ,คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

 

 

Online Zoom หลักสูตร เเนวคิดเเละการบริหารการผลิตยุคใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

Online Zoom หลักสูตร เเนวคิดเเละการบริหารการผลิตยุคใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAININ

 

 

หลักการและเหตุผล

ในโลกการแข่งขันทางอุตสาหกรรมปัจจุบัน องค์กรธุรกิจต่างมุ่งแสวงหาแนวทางการผลิต, การบริหารกระบวนการที่จะสามารถตอบโจทย์ทางด้านการแข่งขันได้  ทั้งเรื่องคุณภาพ ต้นทุนการผลิต และระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตจนถึงการส่งมอบ  ดังนั้นการบริหารการผลิตในระดับต่างๆ จึงมีความสำคัญอย่างมาก การบริหารจัดการได้ดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลย่อมจะทำให้ผลลัพธ์ Q C D เป็นที่พึงพอใจจนถึงเกินความคาดหมายของลูกค้าได้ ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันได้และเติบโตอย่างยั่งยืน

หลักสูตรนี้ จึงพัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในด้านการบริหารการผลิตแก่หัวหน้างาน เพื่อมุ่งหวังให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และนำหลักการที่ได้อบรมไปปรับปรุง, เปลี่ยนแปลงแก้ไขกระบวนการผลิตที่ตนเองดูแลรับผิดชอบ สร้างนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น และช่วยในการพัฒนาผลิตภาพด้านแรงงานให้สูงขึ้นอีกด้วย

 

วัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม

  1. เข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารการผลิตสมัยใหม่

  2. 2. เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ในการบริหารการผลิตของหัวหน้างานอย่างรอบด้าน

  3. 3. มีความรู้ในการใช้เครื่องมือและเทคนิคในการบริหารการผลิต และนำไปประยุกต์ใช้

  4. 4. มีความรู้และความสามารถในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

หัวข้อการอบรม

  1. ภาพรวมของการผลิตและงานบริการ

– ความอยู่รอดขององค์กรในยุคปัจจุบัน

– ปัจจัยที่สำคัญของ กำไร รายได้ และต้นทุน ในองค์กร

– ความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของโลกต่อผลกระทบขององค์กรในปัจจุบัน

  1. การบริหารการผลิต คืออะไร?

–  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการผลิต

–  ความรู้เกี่ยวกับต้นทุนการผลิต

–  การวางแผนและควบคุมการผลิต

– ปัจจัยการผลิต และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน

  1. 3. รู้จักกระบวนการผลิตของเราดีแล้วหรือยัง?

–  ปัจจัย ตัวแปร และตัวชี้วัดความสำเร็จในสายการผลิต

–  SIPOC Model

– ความสำคัญของลูกค้าภายในและลูกค้าภายนอก

  1. 4. การเพิ่มผลผลิตทำอย่างไร?

– ทำไม? ต้องเพิ่มผลผลิต

–  แนวคิดเกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิต

–  องค์ประกอบในการเพิ่มผลิต

  1. 5. แนวคิดของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลสำเร็จในการทำงาน

–  สาเหตุของปัญหา และแนวคิดการจัดการปัญหา

–  เครื่องมือคุณภาพ

–  การแก้ไขปัญหา

–  การสร้างจิตสำนึกด้านคุณภาพและปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง

  1. 6. กิจกรรมที่นิยมใช้ในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตมีอะไรบ้าง?

– รู้จัก 5ส. เพื่อการเพิ่มผลผลิต

– รู้จัก ไคเซ็น เพื่อการปรับปรุงงาน

– รู้จัก การลดของเสียเป็นศูนย์ด้วยเทคนิค Poka-Yoke

– รู้จัก การบริหารด้วยสายตา Visual Control

– รู้จัก การแก้ไขปัญหาในหน่วยงานด้วย กิจกรรม QCC

– รู้จัก การบริหารการซ่อมบำรุงที่ทุกคนมีส่วนร่วม

  1. 7. Workshop การแก้ไขปัญหาของเสียในการผลิต

  2. 8. สรุป / ถาม-ตอบ

 

ระยะเวลา :  หลักสูตร 1 วัน  (6  ชั่วโมง)

บรรยาย :  วันที่ 16 ก.พ.61

 

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 40 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์           10 %

 

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM จัดหลักสูตร IN HOUSE

สอบถามข้อมูลผ่านไลน์ได้ 24 ชั่วโมง

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

 

(ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 02-577-5369 098-8209929 คุณสาลินี ,คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

 

Online Zoom หลักสูตร : การจัดการเพื่อลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero-Defect Management) 7 ก.พ.66 ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

Online Zoom หลักสูตร : การจัดการเพื่อลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero-Defect Management) 7 ก.พ.66 ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

 

คุณภาพของสินค้าหรือบริการคือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องสร้างให้เกิดขึ้นในการทำงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด การสร้างคนให้เข้าใจในการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและการลดความผิดพลาดในการทำงาน เพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย จึงเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดของทุกองค์กร  เพราะถ้าเรามีพนักงานที่มีจิตสำนึกในการที่จะรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและลดของเสีย คิดถึงแต่การทำงานให้มีคุณภาพแล้ว องค์กรยังจะสามารถพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อีกด้วย

 

ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้านานาชนิดบ่อยครั้งมักเกิดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดเป็นของเสียขึ้นซึ่งบางครั้งของเสียเหล่านั้นอาจเล็ดลอดผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพทางงานสถิติ(Statistical Quality Control) จากการสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจสอบไปสู่ลูกค้าได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) และต้องทำการแก้ไขผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้น (Rework) ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นไปอีก เทคนิคหนึ่งทางด้านปรับปรุงคุณภาพและมุ่งมั่นสู่ของเสียเป็นศูนย์ (Zero-Defect) นั้นคือ การใช้ระบบ POKA-YOKE ซึ่งเป็นระบบป้องกันความผิดพลาดในขบวนการผลิต ที่มีรากฐานมาจากภาษาญี่ปุ่น POKA คือ ความผิดพลาดจากการไม่เอาใจใส่
YOKE คือ ป้องกัน/ไม่ให้เกิด/หลีกเลี่ยง หรือที่เรียกกันเป็นที่แพร่หลายว่าระบบป้องกันความผิดพลาดจากการพลั้งเผลอหรือใช้คำว่า Error- Proofing ซึ่งระบบ POKA-YOKE นี้ ควบคุมให้งานในกระบวนการมีความถูกต้องมากที่สุดก่อนที่จะสามารถผ่านไปสู่กระบวนการต่อไป โดยความผิดพลาดที่เกิดจากเครื่องจักรนั้นไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนักเพราะวิศวกรที่ได้ออกแบบเครื่องจักรนั้นมักออกแบบให้ได้ตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่ง ส่วนมากที่มีปัญหาในการผลิตคือ “คน” แต่ถ้าเราออกแบบให้ดีตั้งแต่ต้นปัญหาต่างๆ เช่นของเสีย หรือปัญหาที่เกิดจากคนก็จะหมดไปทำให้ประหยัดค่าอบรมซ้ำๆและค่าความเสียหายที่เกิดจากของเสียเป็นต้น

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ ถึงแนวคิดและความเป็นมาของระบบคุณภาพ รวมถึงหลักการของระบบป้องกันความผิดพลาดหรือของเสียเป็นศูนย์

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปรับปรุงงานเพื่อลดความผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง

    3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างถูกวิธีและ

    ทราบถึงอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

4.เพื่อเข้าใจถึงต้นทุนการผลิต ความสูญเสียจากความผิดพลาดในการผลิต

 

หัวข้อการอบรม

1.ระบบการผลิตและงานบริการ

2.ต้นทุน กำไร และความอยู่รอดขององค์กรในปัจจุบัน

3.คุณภาพ คืออะไรในปัจจุบัน

4.จิตสำนึกด้านคุณภาพเพื่อการลดของเสีย

  1. 5. การควบคุมคุณภาพของเสียเป็นศูนย์ (ZQC)

  2. 6. อะไรทำให้เกิดของเสีย

  3. ปัจจัยพื้นฐานในการทำงานตามหลัก 4M

  4. ปัจจัย 4 ด้านที่ส่งผลต่อคุณภาพในองค์กร

        Workshop: วิเคราะห์ปัจจัยสี่ด้านที่ส่งผลต่อคุณภาพในการทำงาน

  1. เทคนิคในการลดความผิดพลาดเบื้อต้นของพนักงาน

        Workshop: เทคนิค 10 ประการในการลดความผิดพลาด

  1. 10. ระดับของการความคุมความผิดพลาดในการผลิตทั้ง 7 ระดับ

    11. ระบบ Poka Yoke และวิธีการใช้งานระบบ Poka Yoke เพื่อลดของเสียเป็นศูนย์

    เทคนิคการแก้ไขปัญหาและวิธีการปรับปรุงงานเพื่อลดของเสียเป็นศูนย์

  2. 13. Workshop และกรณีศึกษาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ถึงการวิเคราะห์ถึงปัญหาและ

    แนวทางแก้ไขปัญหาจากตัวอย่างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

 

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

 

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 50 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 40%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 10 %

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการใช้หลักการลดของเสียได้อย่างถูกต้องชัดเจน

  2. พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงงานเพื่อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพและลดของเสียในการทำงานอย่างต่อเนื่อง

  3. สามารถนำเทคนิคต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและเป็นต้นแบบสำหรับการขยายผลภายในองค์กรต่อไป

 

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM จัดหลักสูตร IN HOUSE

สอบถามข้อมูลผ่านไลน์ได้ 24 ชั่วโมง

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

 

(ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 02-577-5369 098-8209929 คุณสาลินี ,คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

Online Zoom หลักสูตร : Pokayoke Management (การจัดการระบบการป้องกันความผิดพลาด) อบรม 23 กันยายน 65 ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

Online Zoom หลักสูตร : Pokayoke Management (การจัดการระบบการป้องกันความผิดพลาด) อบรม 23 กันยายน 65 ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

 

คุณภาพของสินค้าหรือบริการคือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องสร้างให้เกิดขึ้นในการทำงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด การสร้างคนให้เข้าใจในการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและการลดความผิดพลาดในการทำงาน เพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย จึงเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดของทุกองค์กร  เพราะถ้าเรามีพนักงานที่มีจิตสำนึกในการที่จะรักษาไว้ซึ่งคุณภาพและลดของเสีย คิดถึงแต่การทำงานให้มีคุณภาพแล้ว องค์กรยังจะสามารถพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อีกด้วย

 

ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้านานาชนิดบ่อยครั้งมักเกิดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดเป็นของเสียขึ้นซึ่งบางครั้งของเสียเหล่านั้นอาจเล็ดลอดผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพทางงานสถิติ(Statistical Quality Control) จากการสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจสอบไปสู่ลูกค้าได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) และต้องทำการแก้ไขผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้น (Rework) ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นไปอีก เทคนิคหนึ่งทางด้านปรับปรุงคุณภาพและมุ่งมั่นสู่ของเสียเป็นศูนย์ (Zero-Defect) นั้นคือ การใช้ระบบ POKA-YOKE ซึ่งเป็นระบบป้องกันความผิดพลาดในขบวนการผลิต ที่มีรากฐานมาจากภาษาญี่ปุ่น POKA คือ ความผิดพลาดจากการไม่เอาใจใส่
YOKE คือ ป้องกัน/ไม่ให้เกิด/หลีกเลี่ยง หรือที่เรียกกันเป็นที่แพร่หลายว่าระบบป้องกันความผิดพลาดจากการพลั้งเผลอหรือใช้คำว่า Error- Proofing ซึ่งระบบ POKA-YOKE นี้ ควบคุมให้งานในกระบวนการมีความถูกต้องมากที่สุดก่อนที่จะสามารถผ่านไปสู่กระบวนการต่อไป โดยความผิดพลาดที่เกิดจากเครื่องจักรนั้นไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนักเพราะวิศวกรที่ได้ออกแบบเครื่องจักรนั้นมักออกแบบให้ได้ตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่ง ส่วนมากที่มีปัญหาในการผลิตคือ “คน” แต่ถ้าเรา

ออกแบบให้ดีตั้งแต่ต้นปัญหาต่างๆ เช่นของเสีย หรือปัญหาที่เกิดจากคนก็จะหมดไปทำให้ประหยัดค่าอบรมซ้ำๆและค่าความเสียหายที่เกิดจากของเสียเป็นต้น

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ ถึงแนวคิดและความเป็นมาของระบบคุณภาพ รวมถึงหลักการของระบบป้องกันความผิดพลาดหรือของเสียเป็นศูนย์

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปรับปรุงงานเพื่อลดความผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างถูกวิธีและทราบถึงอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

4.เพื่อเข้าใจถึงต้นทุนการผลิต ความสูญเสียจากความผิดพลาดในการผลิต

 

หัวข้อการอบรม

1.ระบบการผลิตและงานบริการ

2.ต้นทุน กำไร และความอยู่รอดขององค์กรในปัจจุบัน

3.คุณภาพ คืออะไรในปัจจุบัน

  1. 4. อะไรทำให้เกิดของเสีย

  2. 5. การควบคุมคุณภาพของเสียเป็นศูนย์ (ZQC)

  3. 6. ระดับของการความคุมความผิดพลาดในการผลิตทั้ง 7 ระดับ7. ระบบ Poka Yoke และวิธีการใช้งานระบบ Poka Yoke เพื่อลดของเสียเป็นศูนย์

7.1 วิธีตรวจสอบโดยการสัมผัส

7.2 วิธีเทียบกับค่าที่กำหนดไว้

7.3 วิธีตรวจสอบขั้นตอนการเคลื่อนไหว
8. เทคนิคการแก้ไขปัญหาและวิธีการปรับปรุงงานเพื่อลดของเสียเป็นศูนย์

  1. 9. กรณีศึกษาและตัวอย่างระบบ Poka Yokeเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ถึงการวิเคราะห์ถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาจากตัวอย่างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

Workshop ออกแบบระบบ Poka Yoke อย่างง่ายๆ

ถาม-ตอบ จบการอบรม

 

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างานฝ่ายผลิต วิศวกร พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 40 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 10 %

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการใช้หลักการลดของเสียได้อย่างถูกต้องชัดเจน

  2. พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงงานเพื่อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพและลดของเสียในการทำงานอย่างต่อเนื่อง

  3. สามารถนำเทคนิคต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและเป็นต้นแบบสำหรับการขยายผลภายในองค์กรต่อไป

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM จัดหลักสูตร IN HOUSE 

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 02-577-5369 098-8209929 คุณสาลินี ,คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบริหารคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 15 พฤศจิกายน 65 อ.ณรงค์ ตู้ทอง

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบริหารคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 15 พฤศจิกายน 65 อ.ณรงค์ ตู้ทอง

 

  • อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

    ราคา  2500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

    • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

    ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

    (ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

การจัดการคลังสินค้า (WAREHOUSE) ที่มีประสิทธิภาพนั้นคือ การวางแผนตั้งแต่การออกแบบแผนผังพื้นที่ ระบบจัดเก็บและเลือกอุปกรณ์ในคลังสินค้าที่เหมาะสม หลักสูตรนี้จะถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความ สำเร็จสามารถต่อสู้คู่แข่งขันได้ และถือเป็นเคล็ดลับองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบในด้านการบริหารและจัดการสินค้าคงคลังจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรอย่างแท้จริง

หลักสูตรนี้จะช่วยให้ท่านได้ทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปฏิบัติงานภายในคลังสินค้า ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อให้องค์กรของท่านเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าหรือผู้ที่มาติดต่อ ซึ่งจะทำภาพลักษณ์ของดีขึ้นและเป็นการลดต้นทุนในการบริหารจัดการคลังสินค้า

หัวข้ออบรม

การบริหารคลังสินค้า และความสำคัญของงานคลังสินค้า

– การจัด LAY OUT การบริหารพื้นที่คลังสินค้า

– การบริหารพัสดุคงคลัง / สินค้าคงเหลือ

– การรับ / จ่ายสินค้า และการตรวจสอบ

– การสั่งซื้อ และการกระจาย / จัดส่ง

– ระบบความปลอดภัยของคลังสินค้า

– บทบาทและความสำคัญของการจัดการคลังสินค้าในโลกแห่งการแข่งขัน (INDUSTRY 4.0 )

– ทำไมต้องมีสินค้าคงคลัง ? และความสำคัญของการจัดการสินค้าคงคลัง

– บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานคลังสินค้าสมัยใหม่

– ดัชนีชี้การวัดประสิทธิภาพ (KPIS) ในการจัดการสินค้าคงคลัง

– ปัญหาและต้นทุนประเภทต่างๆ ที่พบในการปฏิบัติงานคลังสินค้า

– แนวคิดความสูญเปล่าจากการเก็บสินค้าคงคลัง (UNNECESSARY STOCK) ที่มากเกินไปในกระบวนการผลิต

  • การค้นหาปัญหาและสาเหตุ

  • การวิเคราะห์ถึงปัญหาและสาเหตุ

  • แนวทางและการปรับปรุงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

-การวัดผลปฏิบัติงานของฝ่ายคลังสินค้า และปัญหา/อุปสรรคในการบริหารคลังสินค้า

-การจัดเก็บแบบ FIFO/FEFO/LIFO

-การแยกประเภทสินค้าในการจัดเก็บ

-WORKSHOP การค้นหาความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานในคลังสินค้า

– กลยุทธ์การวิเคราะห์และจัดการสินค้าคงคลังด้วยหลัก ABC ANALYSIS

– หลักการของการออกรูปแบบการวางและระบบการขนย้ายสินค้าคงคลัง (MATERIALS HANDLING SYSTEM) ในคลังสินค้า

– การป้องกันความผิดพลาดจากการหยิบสินค้า (ERROR PICKING) และการเติมสินค้า (REPLENISHMENT) ในคลังสินค้า

– บทบาทหน้าที่ความสำคัญของ WAREHOUSE และศูนย์กระจายสินค้า (DISTRIBUTION CENTERS; DC)

-เทคนิคการตรวจนับเช็คสินค้าคงเหลือ (STOCK) โดยไม่ต้องหยุดทำการเบิก-จ่ายสินค้า

-การตรวจนับและการตรวจสอบเพื่อป้องกันการรั่วไหล

– การจัดการข้อมูลสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์

– ระบบอัตโนมัติและและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดการคลังสินค้า

-ปฏิสัมพันธ์งานคลังสินค้ากับฝ่ายต่าง ๆ (ฝ่ายบัญชี จัดซื้อ และฝ่ายขาย)

-WORKSHOP การเพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงการจัดการคลังสินค้า

-สรุป ถาม – ตอบข้อซักถาม และทดสอบ/ประเมินผล

อาจารย์ณรงค์ ตู้ทอง

  • ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ Lean Supply Chain, Manufacturing, Logistics, TPM, TQM, QCC, 5S, Kaizen, Suggestion

  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทั้งระบบ ด้านความปลอดภัยการทำงาน การใช้งาน การบำรุงรักษารถยกอุตสาหกรรม

  • ได้รับการรับรองสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

 

  • สาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

อบรม 9.00-16.00 น.

ราคาท่าน 3,900 บาท/วัน สมัคร 4  ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

รวมอาหารกลางวัน โรงเเรมเเละเบรก 2 รันเช้าบ่าย ชากาเเฟได้ทั้งวันค่ะ

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com