เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การเจรจาต่อรองและปิดการขายอย่างมืออาชีพ 28 ม.ค.64

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การเจรจาต่อรองและปิดการขายอย่างมืออาชีพ 28 ม.ค.64

กลุ่มเป้าหมาย

เหมาะสำหรับพนักงานขายทุกระดับ โดยเน้นระดับที่ผ่านงานขายมาเบื้องต้นและต้องเผชิญกับลูกค้าหลากหลายวัย

หลักการและเหตุผล

ในปัจจุบันผู้ทำงานด้านการขายมีความเหลื่อมล้ำทางด้านอายุกับลูกค้าเป็นอย่างมาก ทำให้การขายเกิดความไม่น่าเชื่อถือ เพราะการเจรจาและการโน้มน้าวเป็นจุดอ่อนของนักขายสายเลือดใหม่ที่ขาดแต้มต่อเรื่องของความน่าเชื่อถือ อีกทั้งการเจรจาต่อรองยังหมายถึงการใช้เทคนิค บุคลิกภาพและทักษะเป็นอย่างมาก  ซึ่งการเจรจาต่อรองจำเป็นต้องพึ่งทักษะการอ่านความต้องการ การจัดการประเด็นที่เป็นปัญหา การเข้าใจในคำพูดและข้อจำกัดในข้อต่อรองจึงจะสามารถพิชิตใจลูกค้าได้ ดังนั้นนักขายสายเลือดใหม่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยกระดับทั้งวิธีการและการสร้างแต้มต่อเพื่อจะสามารถนำพาลูกค้าไปสู่ประตูปิดการขายได้แบบไม่เสียเปรียบ

สิ่งที่จะได้รับ

1) ผู้เข้าอบรมได้เสริมสร้างทักษะ และกลวิธีในการเจรจาต่อรอง

2) ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงหลักจิตวิทยาในการโน้มนาวจูงใจคน

3) ผู้เข้าอบรมได้เสริมสร้างทักษะในการพูดการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวและจูงใจคู่เจรจา

4) ผู้เข้าอบรมสามารถประยุกต์ ความรู้ และทักษะการเจรจาต่อรองและทักษะการโน้มน้าวจูงใจเพื่อการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผล

หัวข้อเนื้อหา

การเจรจาต่อรองและปิดการขายให้ได้ยอด

·      กฎการเจรจาต่อรอง สำหรับนักขาย 

·      GEN Y อย่างเรา เจรจาอย่างไรให้ได้ผล

·      กลยุทธ์การครองเกมเจรจา ด้วยหลัก 3 ประการ

·      workshop “ฝึกการเจรจาไม่ให้เสียเปรียบ”

กลยุทธ์ในการเจรจาที่มีประสิทธิผล

·      อุปสรรคที่ครอบงำเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่เจรจา

·      การแก้เกมส์การเจรจาเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ

·      workshop “อะไรคือความแตกต่างของมืออาชีพในการเจรจา”

 เทคนิคสุดยอดการเจรจา

·      เคล็ดลับการเจรจาให้ชนะแบบล้านเปอร์เซ็นต์

·      เทคนิคเจรจาเพื่อให้มีโอกาสจบการขาย

·      เทคนิคเจรจาประเภทต่างๆ สำหรับ นักขาย

·      workshop “เจรจาแบบต่างกับ CASE STUDY”

 เนรมิตประตูแห่งการปิดการขายอย่างมืออาชีพไม่ให้พลาด

·      การปิดการขาย 7 เทคนิค ปิดเพื่อชัยชนะ

·      กำหนดประเภทลูกค้าเพื่อการปิดการขาย

·      การใช้ประโยคสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าเพื่อปิดการขาย

·      เทคนิคสุดท้ายการสร้างสิ่งที่จับต้องได้เพื่อปิดการขายอย่างสมบูรณ์

·      สรุปการบรรยาย

อาจารย์ประเสริฐ สุขไพบูลย์กุล
วิทยากรและที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ความเชี่ยวชาญ ด้านการขาย ด้านการตลาด การบริการ การันตรีด้วยประสบการณ์การสอนและที่ปรึกษาองค์กรด้านการขายและการบริการมากกว่า 15 ปี จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่มีการว่าจ้างอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 100 บริษัท, ผลงานการเขียนหนังสือ: SALES 2 (กลยุทธ์นักขายในปัจจุบัน)

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

สถานที่อบรม: โรงแรมโกลด์ออร์คิด วิภาวดี

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

ืยืนยัน หลักสูตร การบริหารงานเอกสารและจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ 29 มิ.ย.63

หลักสูตร การบริหารงานเอกสารและจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ 29 มิ.ย.63

หลักการและเหตุผล

สำนักงานทั้งในภาคเอกชนและรัฐบาลมักจะมีเอกสารเข้า – ออกหลายประเภทเป็นจำนวนมาก  ซึ่งมีความสำคัญมากน้อยแตกต่างกัน  เอกสารบางชิ้นมีประโยชน์ในการนำข้อมูลไปใช้ในโอกาสต่อไป  นอกจากนั้นยังใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิง  ฉะนั้นถ้าสำนักงานแห่งใดต้องการดำเนินการด้านเอกสารอย่ามีประสิทธิภาพจำเป็นต้องใช้หลักการบริหาร  และการจัดเก็บเอกสารที่ดีมีระบบเพื่อให้นำข้อมูลมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว

  • การบริหารงานเอกสารที่ดี สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความสูญเสียเรื่องเวลา ค่าใช้จ่ายแฝง และสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยในการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
  • จะเก็บเอกสารไว้ที่ไหน? เหมาะสม ไม่สูญหาย ง่ายต่อการสืบค้น
  • เพิ่มแฟ้ม เอกสาร ทำอย่างไร? เป็นระเบียบ ไม่ยุ่งยาก
  • เข้าใจวงจรเอกสาร ระบบ และขั้นตอนการจัดเก็บและบริหารจัดการเอกสารเพื่อใช้ในการทำงานจริงอย่างเห็นผล

หลักสูตรนี้จึงได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้พนักงานธุรการ เลขานุการ พนักงานบริการ และพนักงานขายที่มีเอกสารจำนวนมาก ได้เรียนรู้ทั้งเทคนิควิธีในการจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ ทั้งการจัดเก็บเอกสารกระดาษ และเอกสารอิเลคโทรนิคส์ รวมทั้งเคล็ดลับอื่นๆ ที่จะทำให้ผู้อบรมได้เข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเองเมื่อปฏิบัติงานจริง

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

 

  1. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารงานระบบจัดเก็บเอกสาร สู่สำนักงานยุคไร้กระดาษอย่างเป็นระบบ
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้เรื่องการบริหารงานระบบจัดเก็บเอกสาร สู่สำนักงานยุคไร้กระดาษ อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

 

หัวข้อการสัมมนา เวลา 09.00-16.00 น.

  1.  ความสำคัญและประโยชน์ของระบบบริหารเอกสาร
  2.  การประเมินปัญหาต่าง ๆ ของการบริหารและจัดเก็บเอกสาร
  • ปัญหาเกี่ยวกับบุคลากร
  • ปัญหาด้านระบบ
  • ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ (สถานที่/อุปกรณ์)
  1.  กิจกรรม Workshop: บทวิเคราะห์และสรุปปัญหากลุ่ม
  2. วงจรของการบริหารงานเอกสารและจัดเก็บเอกสาร
  • ประเภทของเอกสารในการทำงาน
  • วงจรการบริหารและจัดเก็บเอกสารตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
  1. ระบบการจัดเก็บเอกสาร
  • มาตรฐานการจัดเก็บเอกสาร
  • ระบบการจัดเก็บเอกสารที่สะดวกต่อการใช้งาน และง่ายต่อการค้นหา
  • ข้อแนะนำในการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดเก็บเอกสาร-ข้อมูล
  1. ความรู้ความเข้าใจเรื่องตู้เก็บเอกสารและแฟ้มจัดเก็บเอกสาร
  2.  การสร้างระบบควบคุมในการบริหารงานเอกสาร (Document System Control)
  3.  ขั้นตอนในการจัดเก็บเอกสารที่มีประสิทธิภาพ
  • การปฏิบัติเกี่ยวกับเอกสารก่อนเก็บ
  • การวางแผนในการจัดเก็บเอกสารที่ได้ผล
  1. วิธีการจัดเก็บเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบบการจัดเรียงแฟ้มเอกสาร
  • การจัดทำดรรชนีเอกสาร/แฟ้ม (Index)
  • การจัดเก็บเอกสารตามเลขเรียงลำดับ
  • การจัดเก็บเอกสารตามเรื่องและวิธีให้สีกำกับกลุ่มเรื่อง
  • การจัดระบบการยืมเอกสารเวลาในการเก็บ
  1. กิจกรรม Workshop: การจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ
  2.  วิธีการปฏิบัติต่อเอกสาร แฟ้มเอกสาร และ ตู้เอกสาร
  3.  ความสำคัญของอายุเอกสารและการกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บ
  4.  ข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมในการจัดเก็บเอกสาร
  5. สรุป คำถามและคำตอบ

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร GMP/HACCP and GHPs/HACCP Draft Revision 5 Requirement 19 ธ.ค.63

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร GMP/HACCP and GHPs/HACCP Draft Revision 5 Requirement 19 ธ.ค.63 อ.ทิพอาภา ลี้ประเสริฐ

โรงเเรม โนโวเทลสุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

เพื่อทราบถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน GHPs/HACCP V.5 และยกระดับมาตรฐาน ซึ่งเป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาใช้เป็นแนวทางการกำหนดระบบการควบคุมการทำงานในวงการผลิตอาหาร โดยการใช้ การจัดทำระบบเอกสารให้สอดคล้องตามมาตรฐานและใช้ระบบเอกสารดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการบริหารและติดตามประสิทธิผลของการจัดทำระบบ 

หลักสูตรนี้เน้นให้พนักงานมีความรู้และความเข้าใจในส่วนที่มาของระบบ และทฤษฎี รวมถึงการฝึกภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้ระบบพร้อมตัวอย่างจริงให้ท่านง่ายต่อการทำความเข้าใจ

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ :

      หลังจากการเรียนรู้ ผู้เข้ารับการเรียนรู้จะได้รับ

  • ความรู้ ความเข้าใจ ในการประยุกต์ใช้ และจัดทำระบบ GHPs/HACCP V.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สามารถจัดทำระบบได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์

สิ่งที่จะเรียนรู้ :

      ช่วงเช้า (09.00-12.00 น.)

  • การเปลี่ยนแปลง และคำนิยามที่เกิดขึ้นในมาตรฐาน GHPs 5

  • การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด GHPs

  • ข้อ วัตถุประสงค์ของการผลิตขั้นต้น

  • ข้อ สถานประกอบการ – การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์

  • ข้อ การฝึกอบรมและความสามารถ

  • ข้อ การกำหนดการบำรุงรักษาและการฆ่าเชื้อโรค

  • ข้อ สุขลักษณะส่วนบุคคล

  • ข้อ การควบคุมการปฏิบัติงาน

  • ข้อ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค

  • ข้อ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค

    

      ช่วงบ่าย (13.00-16.30 น.)

  • การเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในมาตรฐาน HACCP V.5

  • การศึกษาถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์และการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้และการทบทวนเอกสารแผนภูมิกระบวนการผลิต และ การทำการวิเคราะห์อันตรายและพิจารณาหามาตรการในการควบคุมอันตรายตามหลักการที่ 1 ของระบบ HACCP

  • Work shop: การวิเคราะห์หาจุด CCP ตามหลักการที่ 2 ของระบบ HACCP

  • การกำหนดเกณฑ์ค่าจำกัดวิกฤตที่เหมาะสม ตามหลักการที่ 3

  • การกำหนดการเฝ้าระวังตามหลักการที่ 4

  • การกำหนดวิธีการแก้ไขตามหลักการที่ 5

  • การกำหนดวิธีการทวนสอบ ตามหลักการที่ 6

 

แนวทางการเรียนรู้ : 

หลักสูตรนี้ สร้างการเรียนรู้โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและถ่ายทอดแนวปฏิบัติเพื่อให้นาไปใช้งานได้จริง โดยประกอบด้วย

  • การบรรยาย พร้อมตอบข้อซักถาม

  • การอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Group Discussion & Group Exercise)

  • การฝึกปฏิบัติ (Practicing) และให้คำแนะนำโดยวิทยากร

วัน เวลาและสถานที่ :  

จำนวน 1 วัน ตามวัน และสถานที่ที่บริษัทกำหนด

กลุ่มเป้าหมาย :  

บุคลากรตามที่บริษัทกำหนด จานวนไม่เกิน 30 คนต่อรุ่น

 

ราคาบุคคลทั่วไป ท่านละ 3,900 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

วิทยากรมืออาชีพ อาจารย์พลกฤต โสลาพากุล

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

ยืนยัน หลักสูตร รุ่น 7 ระบบบริหารความสามารถ เพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคล (Competency Management for HRM & HRD) : วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563

ยืนยัน หลักสูตร รุ่น 7 ระบบบริหารความสามารถ เพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคล (Competency Management for HRM & HRD) : วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563

ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิคภาคปฏิบัติของวิทยากรและที่ปรึกษาที่ทำเรื่อง Competency Management มากับมือ

“บริการพิเศษให้คำแนะนำปรึกษาฟรีในวันอบรม”

หลักการและเหตุผล :

ถ้าเราอ่านหนังสือว่ายน้ำ เราจะว่ายน้ำเป็นหรือ ? ถ้าเราอ่านตำรา Competency หรือถามผู้รู้ (GURU) เราจะนำ Competency มาใช้งานได้จริงหรือ ?

ในโลกธุรกิจความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา เครื่องมือในการบริหารจัดการ ก็มีการเปลี่ยนแปลง เราจะเห็นได้จากหลายองค์กรไม่ว่า องค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ต่างก็นำ Competency มาเป็นเครื่องมือในการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล (HRM & HRD) เพื่อสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพในบริหารจัดการองค์กร

หลายองค์กรยังประสบกับอุปสรรคในการนำ Competency ไปใช้งาน อาทิเช่น

  • บุคลากรส่วนใหญ่ไม่มีพื้นความรู้หรือขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ Competency

  • ไม่รู้จะวิเคราะห์หาและกำหนด Competency อย่างไรดี

  • บุคลากรที่มีความรู้เรื่อง Competency ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไรดี ?

  • บางหน่วยงานอาจมีการดำเนินการแล้ว แต่ Competency ที่มียังไม่สอดคล้องกับงานหน้างาน หรือสิ่งที่องค์กรคาดหวัง

  • มี Competency ฉบับ Dictionary แล้ว แต่มีไว้โชว์ ไม่ได้มีไว้ใช้งาน ไม่รู้ว่าจะนำไปใช้งานได้อย่างไร ?

  • Competency ที่ได้ก็ไม่รู้จะเชื่อมโยงไปสู่การประเมินเพื่อพัฒนา หรือการประเมินผลประจำปี หรือเชื่อมโยงกับ Career Path และ Succession Plan อย่างไรดี ?  

  • หลักสูตรฝึกอบรมนี้สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ในการนำ Competency มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและพัฒนาบุคลากร ที่จะช่วยให้องค์กรของท่านสามารถกำหนด และนำ Competency ใช้งานได้อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาธุรกิจองค์กรของท่าน ในรูปแบบการเรียนรู้ที่กระชับ เข้าใจง่าย และปรับใช้งานได้ตริง พร้อมตัวอย่าง และแบบฟอร์ม โดยที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่จำเป็นต้องมีความรู้มาก่อน 

  • วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ :

    1. เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิด หลักการ และภาพรวมของ Competency ในการพัฒนาบุคลากรและพัฒนาองค์กรทั้งกระบวนการ

    2. เพื่อสร้างความตระหนักถึงของ Competency  ประโยชน์ของการนำ Competency  ไปใช้ เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนาองค์กร

    3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถกำหนดและทบทวน Core Competency ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    4. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถกำหนด Managerial Competency, Functional Competency และ Level Competency ที่คาดหวังให้สอดคล้องเหมาะสมกับตำแหน่งงานตาม Job Description, Procedure และ Work Instruction ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    5. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับเกี่ยวกับ Competency ไปประยุกต์ใช้ในงาน HRM & HRD อาทิเช่น การสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่, การจัดทำ Training Road Map, การจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (IDP), การประเมินผลการปฏิบัติงาน, การจัดทำ Career Path และ การจัดทำ Succession Plan ได้อย่างเป็นรูปธรรม

    หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ : 

    ส่วนที่  1  :  ปฐมบทเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสมรรถนะ (Overview to Competency)

    • รหัสลับของ ISO 9001 และ IATF 16949 เกี่ยวกับ Competence

    • ความหมายและประเภทของ Competency

    • ความสำคัญและประโยชน์ของการนำระบบ Competency ไปใช้ในการพัฒนาบุคลากรและพัฒนาองค์กร

    ส่วนที่  2  :  การกำหนด Level  Competency ที่คาดหวังแบบ 5 ระดับพฤติกรรม กับแบบ 4 ระดับความสามารถยุคใหม่ ในการประเมินหา Competency Gap

    • การกำหนด Level Competency ที่คาดหวังแบบ 5 ระดับพฤติกรรมตาม Competency Dictionary

    • การกำหนด Level Competency ที่คาดหวังแบบ 4 ระดับความสามารถ (รู้-พอทำได้-เก่ง-เก่งและถ่ายทอดได้)

    • Workshop 1 : เปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยการกำหนด Competency แบบ 5 ระดับพฤติกรรม กับ แบบ 4 ระดับความสามารถยุคใหม่

    ส่วนที่  3  :  เทคนิคในการกำหนดและทบทวนความสามารถหลัก (Core Competency) จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) องค์กร

    • แนวทางการกำหนดและทบทวน Core Competency จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) องค์กร

    • Workshop 2 : การกำหนด Core Competency จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission)

    ส่วนที่  4  :  เทคนิคในการกำหนดความสามารถทางการบริหาร (Managerial Competency) และความสามารถเฉพาะด้าน (Functional Competency) จากใบกำหนดหน้าที่งานสมัยใหม่ (Modern Job Description)

    • กำหนด Managerial Competency และ Functional Competency ทั้งที Copy หรือ Create ดีหนอ

    • ขั้นตอนการวิเคราะห์และกำหนด Managerial Competency และ Functional Competency ให้เหมาะสมกับงานและองค์กรด้วย Modern Job Description

    • Workshop 3: การกำหนด Managerial Competency และ Functional Competency ด้วย Modern Job Description

    ส่วนที่  5  :  เทคนิคในการกำหนดความสามารถเฉพาะด้าน (Functional Competency) จาก Procedure และ Work Instruction

    • ขั้นตอนการวิเคราะห์และกำหนด Functional Competency ให้เหมาะสมกับงานด้วย Procedure และ Work Instruction

    • Workshop 4 : การวิเคราะห์และกำหนด Functional Competency จาก Procedure และ Work Instruction

    ส่วนที่  6 : เทคนิคการสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานสมัยใหม่ด้วย Competency (Competency-based Interview and Selection : CIS)

    • ตัวอย่างแบบประเมินผลการสัมภาษณ์และคัดเลือกด้วย Competency

    ส่วนที่ 7 : เทคนิคการนำ Competency ไปจัดทำเส้นทางการพัฒนาบุคลากร (Competency-based Training Road Map : CTRM)

    • ตัวอย่างการจัดทำ Training Road Map

    • Workshop 5 : การกำหนด Proficiency Level Competency ในการจัดทำ Training Road Map

    ส่วนที่ 8 : เทคนิคการนำ Competency ไปจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลแบบกลุ่มและแบบรายบุคคล (Competency-based Individual Development Plan : CIDP)

    • ตัวอย่างแผนพัฒนารายบุคคลแบบกลุ่มและแบบรายบุคคล

    ส่วนที่ 9 : เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี (Competency-based Performance Appraisal : CPA)

    • ตัวอย่างแบบประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีด้วย Competency

    ส่วนที่ 10: เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการส่งเสริมความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Competency-based Career Path : CCP)

    • ตัวอย่างหลักเกณฑ์ของ Career Path บนพื้นฐาน Competency

    ส่วนที่ 11 : เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการจัดทำแผนสืบทอดตำแหน่ง (Competency-based Succession Plan : CSP)

    • ตัวอย่างหลักเกณฑ์ของ Succession Plan บนพื้นฐาน Competency

    รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ :

    o  การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) ที่มีการระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participative Techniques)ช่วยให้ผู้เรียนรู้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้ทันที

    o  การเล่า Case ประสบการณ์

    o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop)เชิงปฏิบัติการ: การกำหนด Core Competency, Managerial Competency และ Functional Competency เพื่อนำไปปรับใช้งานในองค์กร

    o  การแบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิด (Brain Strom) กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และการนำเสนอความคิดเห็น

    o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

    หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

    ผู้บริหาร ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายประเมินผลการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ DCC และผู้สนใจทั่วไป

    วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

    • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลองค์กรภาครัฐและเอกชน จากประสบการณ์ 30 ปี

    • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS (THAILAND) LIMITED

    • วิทยากรพิเศษ HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

    • อาจารย์พิเศษคณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) มหาวิทยาลัยภาครัฐ

    • อาจารย์พิเศษคณะรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (M.P.A.) มหาวิทยาลัยเอกชน

    • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

    วันสัมมนา  : วันเสาร์ที่  11  กรกฎาคม  2563  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

    สถานที่สัมมนา : โรงแรมอไรซ์ โฮเต็ล สุขุมวิท 26

    ค่าลงทะเบียนอบรม 

    3,900 บาท  (พิเศษเพียง 3,500 บาท เมื่อชำระค่าลงทะเบียนก่อนวันอบรมล่วงหน้า 7 วันทำการ)

  • ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

    ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

    ราคาดังกล่าว ฟรี

    1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

    2) ใบประกาศผ่านการอบรม

    3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

    ติดต่อสอบถาม

    Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

    E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

    Line id : @Tesstraining

    Facebook : tesstrainingpage

    ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

    www.tesstraining.com

    www.inwtraining.com

หลักสูตร 8 ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ (Modern Supervisory Skills) : 23 กรกฎาคม 2563

หลักสูตร 8 ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ (Modern Supervisory Skills) : 23 กรกฎาคม 2563

องค์กรของท่านเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้บ้างไหม ?

  • ผู้บริหารระดับต้นหรือหัวหน้างานไม่รู้บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตนในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
  • ผู้บริหารระดับต้นหรือหัวหน้างานมีความชํานาญในงานที่ปฏิบัติ แต่ขาดทักษะการบริหารงานและบริหารคนเรียกว่า “เก่งแต่งานของตน แต่ไม่เก่งการบริหารงาน และการบริหารคน”

หัวหน้างานนับว่าเป็นทรัพยากรบุคคลอันสําคัญยิ่ง ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้องค์กรประสบความสําเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การเป็นหัวหน้างานถ้าแค่แต่งตั้งคนที่ “ทำงานเก่งและขยัน” ใครก็เป็นได้ แต่การเป็นหัวหน้างานที่ดีมีประสิทธิภาพนั้น ต้องใช้ความรู้และทักษะในด้านการบริหารงาน และการบริหารคน เพราะหัวหน้าต้องรับผิดชอบทั้งเป้าหมายของตนเอง (Individual KPIs) และเชื่อมโยงนโยบายและเป้าหมายขององค์กรไปสู่การปฏิบัติงานจริง   จึงมีความเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาทักษะ “หัวหน้างานยุคใหม่ให้เก่งทั้ง การบริหารงานให้เพิ่มผล และเก่งทั้งการบริหารคนให้เพิ่มค่า” เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร (Competitive Advantage)

จากหลักสูตร In-house Training ยอดนิยมของสถาบันฯ  ได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่ จากประสบการณ์ของวิทยากรในการพัฒนาสมรรถนะ (Competency) ของหัวหน้างานในองค์กรธุรกิจชั้นนำขนาดใหญ่มากลั่นกรองและถ่ายทอด ที่จะช่วยให้ท่านและหัวหน้าในองค์กรของท่านมีความรู้ความเข้าใจ ในบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง และมีความสามารถรอบด้านสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร 

วัตถุประสงค์ของการอบรม :

  1. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในงาน
  2. เสริมสร้างทักษะในการบริหารงาน สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ เพื่อความสำเร็จของตนเองและหน่วยงาน
  3. เสริมสร้างทักษะในการบริหารคน สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ เพื่อความสำเร็จของตนเองและหน่วยงาน
  4. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการบริหารงานและบริหารคน ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

หัวข้อสำคัญของการอบรม (Course Outline) : 

ส่วนที่  1  :  ทักษะการเป็นผู้นำในการบริหารทีมงานให้อยากทำงาน (Leadership and Teamwork Skill)

  • 5 บทบาท 12 หน้าที่ และ 4 ความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะผู้บริหารระดับต้นขององค์กร
  • Head-Hand-Heart คุณลักษณะ (Attribute) ของหัวหน้างานที่ดี
  • Workshop 1 : คุณลักษณะของผู้นำองค์กรแบบ 3H
  • รู้เขา รู้เรา รู้องค์กร จิตวิทยาการบริหาร สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่
  • Workshop 2 : รู้เขา-รู้เรา หัวหน้า 4 ประเภท VS ลูกน้อง 4 ประเภทบทบาทของผู้นำแบบ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ในการบริหารทีมงานให้คนอยากทำงาน
  • บทบาทของผู้นำแบบ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ในการบริหารทีมงานให้คนอยากทำงาน

ส่วนที่  2  :  ทักษะการสื่อสารระหว่างหัวหน้างานและพนักงานที่มีประสิทธิผล (Effective Communication and Coordination Skill) 

  • หลักในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิผล
  • แนวทางการสื่อสารและประสานงาน เพื่อความสำเร็จในการทำงาน ด้วยประตูใจ…แบบ  สานสัมพันธ์ (Positive Communication)
  • แนวทางการสื่อสารกับทีมงานแต่ละ Generation

ส่วนที่  3  :  ทักษะการจูงใจทีมงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความสำเร็จในการทำงาน (Positive Motivation Skill)

  • จูงใจ (Motivation) อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ?
  • 8 เทคนิคการจูงใจสำหรับผู้บังคับบัญชา

ส่วนที่  4  :  ทักษะการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Skill)

  • 4 ความรักที่การสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร
  • Workshop 3 : แนวทางการสร้างความรัก 4 ประเภท ในองค์กร
  • 10 เทคนิคของหัวหน้างานยุคใหม่ในการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร

ส่วนที่  5  :  ทักษะการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงาน (Goal Setting and Planning Skill)

  • การกำหนดเป้าหมายในการทำงานด้วย KPI กับประเภทของแผนงานตามระดับของการจัดการ
  • กุญแจทอง 3 ดอกของการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • กระบวนการจัดทำแผนปฏิบัติงานแบบ PDCA
  • Workshop  4 : ฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่
  • 4 แผนปฏิบัติงาน ที่ผู้บริหารและหัวหน้างานต้องจัดทำ 

ส่วนที่  6  :  ทักษะการสอนและพัฒนางาน (Coaching and Development Skill)

  •  การวิเคราะห์ความสามารถลูกน้องก่อนการ OJT และ Coaching
  • 12 กรณีที่ต้องพัฒนาลูกน้อง
  • Tactic ของการ OJT
  • การพัฒนาทีมงาน ด้วย Training Road Map/Training Matrix  

ส่วนที่  7  :  ทักษะการสั่งงาน มอบหมายงาน และติดตามงาน (Directing, Delegation and Following Skill)

  • 5 ขั้นตอนในการสั่งการ (Directing) ให้ได้ผลดี
  • 9 เทคนิคในการควบคุมและติดตามงาน (Following) ให้ได้ผล
  • Workshop 5 : Case Study การสั่งงาน มอบหมาย และติดตามงาน 

ส่วนที่  8  :  ทักษะการปรับปรุงงาน เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน (Work Improvement Skill)

  • เทคนิคการปรับปรุงงานด้วย ข้อเสนอแนะ (Kaizen)
  • เทคนิคการปรับปรุงการประสานงานภายในองค์กรด้วย Red Tag

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรมสัมมนา :

ผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน และผู้ที่กำลังจะก้าวสู่ตำแหน่งระดับหัวหน้า

***มอบวุฒิบัตรการฝึกอบรม (Certificate)

รูปแบบการอบรม :

o  การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) ที่มีการระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participate Techniques) ช่วยให้ผู้เรียนรู้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้ทันที

o  การแชร์ Case ประสบการณ์ตรง

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) และการระดมความคิด (Brain Stroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

สถานที่อบรม (VENUE) : 

อไรซ์ โฮเต็ล สุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ  ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ท่านละ 3,900 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

 

ยืนยัน หลักสูตร นักพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ(Professional HRD) หลักสูตร 1 วันสำหรับปูพื้นฐาน HRD ปรับปรุงเนื้อหาให้เข้มข้นมากขึ้น 18 ก.ค.63

ยืนยัน หลักสูตร นักพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ(Professional HRD) หลักสูตร 1 วันสำหรับปูพื้นฐาน HRD ปรับปรุงเนื้อหาให้เข้มข้นมากขึ้น 18 ก.ค.63

ทุกองค์กรต่างให้ความสำคัญกับคนว่าเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าและเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว  แต่กลับพบว่ามีองค์กรไม่มากนักที่จัดได้ว่าให้ความสำคัญต่องานด้านการพัฒนาบุคลากรอย่างจริงจัง  และหนึ่งในปัญหาที่มักพบในองค์กรที่ไม่อาจขับเคลื่อนงานการพัฒนาบุคลากรให้ประสบผลสำเร็จนั้นได้แก่ การที่ HRD เองยังขาดความรู้ความเข้าใจในเชิงลึกในเทคนิค วิธีการและแนวทางการพัฒนาบุคลากรที่สอดคล้องกับการดำเนินกลยุทธ์จึงไม่อาจปฏิบัติงานด้าน HRD ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ความสำคัญของงาน HRD กับองค์กร

เครื่องมือและแนวทางพัฒนาบุคลากรที่ HRD ต้องรู้

แนวทางพัฒนาบุคลากรยุค HR 4.0

Agile People Development  NEW  

แนวทางการบริหารงานฝึกอบรม/สัมมนาให้ได้ผล

ประเด็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการพัฒนาบุคลากร

หัวข้ออบรม

ความสำคัญของงาน HRD ที่มีต่อองค์กร

การเปลี่ยนแปลงของแนวคิดการพัฒนาบุคลากรในยุคธุรกิจ 4.0

กรณีศึกษาขององค์กรที่ปรับแนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่น่าสนใจ และแนวทางปรับใช้งาน

บทบาทของ HRD และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรขององค์กร

สมรรถนะหรือคุณลักษณะของนัก HRD ที่เป็นมืออาชีพ

ทบทวนเครื่องมือและแนวทางพัฒนาบุคลากรที่ HRD ต้องรู้

Competency หรือสมรรถนะกับการพัฒนาบุคลากร 

■ การทำ Competency Assessment เพื่อการวางแผนพัฒนาบุคลากร  

■ การประเมินศักยภาพของ Talent และวางแผนพัฒนาแบบเร่งรัด (Accelerated Program) และกรณีศึกษา

วิธีการเรียนรู้แบบผสมผสาน 70 : 20 : 10 (70 : 20 : 10 Learning Method)                                                               และวิธีการนำไปใช้จริงในการพัฒนาบุคลากร

■ การพัฒนาพนักงานโดย OJT หรือ On-the-Job Training ที่ได้ผล

■ รู้จักกับ Talent Management

■ รู้จักกับ Succession Planning  

■ การพัฒนาบุคลากรเป็นรายบุคคล (Individual Development) 

Agile People Development หรือการพัฒนาบุคลากรตามแนวคิด Agile เป็นต้น

 

แนวทางการบริหารงานฝึกอบรม/สัมมนาให้ได้ผล

       ■ วางแผนการพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับ Competency ที่ต้องการเพื่อให้ทำงานได้ผล

■ การกำหนดหลักสูตรฝึกอบรมที่มีประสิทธิผล (Effective Training Course Design)

■ แนวทางการออกแบบหลักสูตรฝึกอบรมและการเลือกใช้วิทยากรที่ตอบโจทย์การพัฒนา

■ การเลือกใช้ช่องทางการเรียนรู้ของพนักงานในโลกยุค Digital Age

■ การกำหนดหลักสูตรฝึกอบรมที่มีประสิทธิผล (Effective Training Course Design)

■ การติดตามผลหลังการฝึกอบรมที่จะช่วยให้ Train และไม่ –ning 

 

ประเด็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการพัฒนาบุคลากร และแนวทางการแก้ไข

สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และถาม-ตอบ  

วิธีการเรียนรู้ :

บรรยายอย่างย่อและซักถาม

อภิปรายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

กรณีตัวอย่าง พร้อมคำแนะนำ

การบ้านนำส่งหลังฝึกอบรม

 

กลุ่มเป้าหมาย :

 เจ้าของธุรกิจขนาด SME    

 HRD Manager / Supervisor

 HRD Supervisor

 พนักงานตำแหน่งอื่นที่ได้รับมอบหมายให้มาทำงาน HR    ผู้สนใจทั่วไป

 

ดร.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต

วิทยากรและที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและบุคลากร

ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการพัฒนาบุคลากรที่มีประสบการณ์ให้กับองค์กรในธุรกิจบริการและโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

สมาชิกบริษัท โอนก่อน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

 

                     

 

หลักสูตร การบริหารผลงานสำหรับหัวหน้างานมืออาชีพ” (Performance Management for Professional Supervisor/Manager) 14 ก.ค.63

หลักสูตร การบริหารผลงานสำหรับหัวหน้างานมืออาชีพ” (Performance Management for Professional Supervisor/Manager) 14 ก.ค.63

หัวข้อการเรียนรู้ (Course Outline) :

=> คุณค่าบทบาทของผู้บังคับบัญชา (ผู้จัดการ/หัวหน้างาน)  ในการบริหารผลงาน (Performance Management)

=> ภาพรวมและขั้นตอนของกระบวนการบริหารผลงาน  (Performance Management Process)

=> สาเหตุและแนวทางแก้ไจปัญหาพนักงานผลงานต่ำกว่าเป้าหมาย

=> แนวปฏิบัติในการกำหนดปรับปรุงผลงานและการจัดทำแผนปรับปรุงผลงาน (Performance Improvement Practices & Performance Improvement Plan-PIP)

=> แนวทางดำเนินการทางวินัยที่เหมาะสมกับกรณีพนักงาน  ผลงานต่ำ กว่าเป้าหมาย

=> การพูด การฟังและการตั้งคำถามที่ผู้บังคับบัญชาควรต้อง “เป็น”

=>พื้นฐานของการโค้ชงาน (Performance Coaching)เพื่อปรับปรุงผลงานลูกน้อง

=> แนวทางสะท้อนผลงานพนักงาน (Performance Feedback)ด้วยเทคนิคA-I-D

=> แนวทางการติติงผลการปฏิบัติงานของลูกน้องอย่างเชิงสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคSandwich

=> ฝึกปฏิบัติในเรื่อง

    + การจัดทำแผนปรับปรุงผลงานลูกน้อง (PIP Practices)

    + การพูดสะท้อนผลงานด้วยA-I-D

    +การพูดเพื่อติติงผลงานลูกน้องด้วยเทคนิคSandwich

    +การรับฟังและตั้งคำถามเพื่อให้ลูกน้องแก้ไขปัญหาอย่างโค้ช

 

=> สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และถาม-ตอบ  

 —————-

วิธีการเรียนรู้ :
– บรรยายอย่างย่อและซักถาม
– อภิปรายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
– กรณีตัวอย่างและแบบฟอร์ม

– ฝึกปฏิบัติการพร้อมคำแนะนำ

กลุ่มเป้าหมาย :
– เจ้าของธุรกิจขนาดSME

– ผู้จัดการและหัวหน้างานในสายงานHR

– ผู้จัดการและหัวหน้างานทุกสายงาน

– Senior HR / HR Executive / HRBP

 

วิทยากร : ดร.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต
วิทยากรและที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากร เพื่อการเพิ่มผลผลิตที่มีประสบการณ์มากมายจากองค์กรทั้งในธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมหลายองค์กรชั้นนำ

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

 

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

หลักสูตร เทคนิคการลดความสูญเสีย 7 ประการ (7 Wastes) : 15 กรกฎาคม 2563

หลักสูตร เทคนิคการลดความสูญเสีย 7 ประการ (7 Wastes) : 15 กรกฎาคม 2563

หลักการและเหตุผล

ปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันสูง องค์กรต้องปรับตัวหลายๆ ด้านเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด กลยุทธ์ที่สามารถทำได้ผลดีคือ การลดต้นทุนความสูญเสียและความสูญเปล่า ในกระบวนการ ซึ่งความสูญเสียที่เป็นสาเหตุที่ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในกระบวนการคือ ความผิดพลาดของพนักงาน (Error) ส่วนความสูญเปล่า (Waste) การเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และส่งมอบได้ทันเวลา สามารถทำให้องค์การลดความสูญเสียทุกรูปแบบในกระบวนการทำงานทุกสายงาน ซึ่งหากไม่ให้ความสนใจสังเกต และพยายามปรับปรุง แก้ไขวิธีการทำงานนั้นๆ ให้ดีขึ้น ความสูญเสียก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต้องสูญเสียลูกค้าและกำไรที่ควรได้ไป การลดความสูญเสียถือเป็นหน้าที่ของพนักงานและผู้บริหารทุกคน ดังนั้น ทุกคนต้องมีความรู้และมี จิตสำนึก การสังเกต หาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขป้องกัน เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นหนทางที่ใช้ในการปรับปรุงการเพิ่มผลผลิต เพื่อความอยู่รอด

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในการทำงาน
  2. เพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจเทคนิคการสังเกตลดความสูญเปล่าค้นหาความสูญเสีย 7 ประการ
  3. เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในทางปฏิบัติเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  4. เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกในการลดความสูญเสียและความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต

 

กลุ่มเป้าหมาย

พนักงานทุกระดับ หัวหน้างาน ผู้จัดการ หรือผู้ที่สนใจ 

 

รายละเอียดเนื้อหาของหลักสูตร

  1. ความหมายของความสูญเสีย
  2. ประเภทของความสูญเสีย
  3. เทคนิคการลดความสูญเสีย 7ประการ พร้อมตัวอย่าง
  • ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction)
  • ความสูญเสียเนื่องจากการเก็บวัสดุคงคลัง (Inventory)
  • ความสูญเสียเนื่องจากการขนส่ง (Transpiration)
  • ความสูญเสียเนื่องจากการเคลื่อนไหว (Motion)
  • ความสูญเสียเนื่องจากกระบวนการผลิต (Processing)
  • ความสูญเสียเนื่องจากการรอคอย (Delay)
  • ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตของเสีย (Defect)
  1. การประยุกต์ใช้คุณค่าภายในตนเอง (Value) เพื่อลดความสูญเปล่า
  • Workshop 1 : การพัฒนาศักยภาพในการลดความสูญเปล่าของตนเอง
  • Workshop 2 : การค้นหาและลดความสูญเปล่าในกระบวนการ

 

วิธีการฝึกอบรม

  • การบรรยาย
  • การฝึกปฏิบัติโดยใช้กรณีศึกษา
  • การนำเสนอผลงาน 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

หลักสูตร : หลักสูตร การเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิง Professional Beyond Tactfully Negotiation 20 ส.ค.63

หลักสูตร : หลักสูตร การเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิง Professional Beyond Tactfully Negotiation 20 ส.ค.63

หลักสูตร :  การเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิง

                 Professional Beyond Tactfully Negotiation

ที่มาของหลักสูตร                  

กระบวนการทางการเจรจาต่อรอง เป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนการเจรจาต่อรอง การวิเคราะห์ และเพื่อค้นหาความต้องการ เป็นการส่งสัญญาณให้เคลื่อนไหวในการเจรจาต่อรอง การพิจารณาข้อเสนอ การแลกเปลี่ยนข้อตกลง รวมทั้งการปิดการเจรจา สิ่งต่างๆที่กล่าวมา เป็นกระบวนการทางเจรจาต่อรองที่เชื่อมโยงและมีความต่อเนื่องกัน จึงทำให้ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้ ถ้าขาด ก็จะทำให้กระบวนการทางการเจรจาต่อรองนั้น ไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิง การเข้าใจและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเพื่อเข้าใจวิธีคิดและความต้องการของคู่เจรจา เพื่อให้การเจรจาต่อรองลดน้อยลง จนไปถึงสามารถบรรลุเป้าหมายของการเจรจาแบบ Win-Win ในที่สุด

สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม

เพื่อให้ผู้เข้าฝึกอบรมและสัมมนาได้เพิ่มพูนความรู้ และทักษะความเข้าใจหลักการและข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิง ตลอดจนมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็น  เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อการบรรลุเป้าหมายของงานและผู้เจรจาได้ในที่สุด

ระยะเวลาการฝึกอบรม   :       1 วัน  (09.00-16.00 น.)  

หัวข้อและกิจกรรมการเรียนรู้

09.00 – 12.00 น.

  • แนวคิดว่าด้วยการเจรจาต่อรองเชิงกลยุทธ์
  • Workshop : Professional Negotiation Problem
  • แนวทางการเจรจาต่อรองเพื่อค้นหาแนวทางการปฏิบัติ
  • กลยุทธ์ และกระบวนการเจรจาต่อรอง (RESPECT)
  • ขั้นตอนการเตรียมการเพื่อความพร้อมการเจรจา
  • ยุทธวิธีของอำนาจต่อรอง (การเจรจา)
  • สำรวจความต้องการด้วยการตั้งคำถาม
  • การสืบเสาะสัญญาณเพื่อส่งสัญญาณการเจรจา
  • Workshop –> Signal : ส่งสัญญาณการเจรจา

13.00 – 16.00 น.

  • การเตรียมและดำเนินการทำข้อเสนอการเจรจา
  • ขั้นตอนการแลกเปลี่ยนข้อตกลงด้วยขอบเขตการต่อรอง
  • Workshop –> Exchange : แลกเปลี่ยนข้อตกลง
  • การปิดการเจรจาต่อรองแบบสมบูรณ์แบบ
  • ยืนยันให้กระชับด้วยการทำข้อตกลงการเจรจา
  • ประเภทของการเจรจาต่อรองตามสถานการณ์ต่างๆ
  • Workshop –> Professional Negotiation Solution

 

วิธีการและรูปแบบการฝึกอบรม

            – การบรรยาย

– แบบทดสอบฝึกปฏิบัติ (Best in Practice)

– การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และฝึกปฏิบัติร่วมกัน (Workshop)

– ขอบเขตเวลาการฝึกอบรม –>บรรยาย : 60 % Workshop : 40%

– สรุป และ ถาม – ตอบคำถาม

ผู้เข้าฝึกอบรม

ผู้มีหน้าที่และเกี่ยวข้องกับการใช้ทักษะการเจรจาต่อรองแบบไม่เป็นรองอย่างมีชั้นเชิงในหลายๆหน่วยงานในองค์กรไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาทุกระดับ พนักงานทุกระดับในองค์กร

 

วิทยากร   :      อาจารย์ สุกิจ ตรียุทธวัฒนา

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

หลักสูตร การสร้างทัศนคติเชิงบวก ฝ่าวิกฤตการขาย Positive Attitude with Want to Sell and Successful in Sales 23 ก.ค.63

หลักสูตร การสร้างทัศนคติเชิงบวก ฝ่าวิกฤตการขาย Positive Attitude with Want to Sell and Successful in Sales 23 ก.ค.63

อาจารย์ สุกิจ ตรียุทธวัฒนา

ที่มาของหลักสูตร

  • ถ้าจะทำให้งานขายเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องท้อแท้ใจ แถมยังขายได้ประสบความสำเร็จ นักขายจำเป็นต้องมีพื้นฐานหนึ่งซึ่งเป็นต้นทุนหลักที่จะทำให้งานขายนั้นๆยังสามารถดำเนินก้าวหน้าต่อยอดขึ้นเป็นลำดับต่อไปได้ นั่นก็คือ การมีทัศนคติเชิงบวกเพื่อฝ่าวิกฤตการขาย ทัศนคติเกี่ยวกับงานขายเป็นเรื่องที่ต้องมาทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้เข้าใจถึงต้นทุนพื้นฐานนี้ที่ต้องมี และต้องมีให้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย การมีทัศนคติที่ดีกับงานขายไม่ใช่การหลอกตนเองว่างานขายมันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เพื่อให้ตนเองสบายใจในเบื้องต้น แล้วก็มากลุ้มใจในตอนท้าย แต่การมีทัศนคติที่ดีกับงานขายจะช่วยให้ทราบว่า หลายต่อหลายครั้งที่งานขายไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการที่ตนเองคิดเอง ตัดสินเอง สรุปเอง ไปแล้วแทบทั้งสิ้น ซึ่งจริงๆลูกค้าอาจจะไม่ได้คิดอย่างที่เราคิดก็เป็นได้นั่นเอง

สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม

  • เพื่อสร้างแนวความคิดต่องานขายด้วยต้นทุนทางความคิด
  • เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมองเห็นประโยชน์ของการมีทัศนคติเชิงบวก ฝ่าวิกฤตการขาย
  • เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดแรงบันดาลใจและช่วยส่งผลลัพธ์ที่ดีต่องานขาย
  • เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถพัฒนาตนเองให้อยากขาย งานขายเป็นงานแห่งความสุขและอยากสำเร็จในงานขาย

ระยะเวลาการฝึกอบรม   :       1 วัน  (09.00-16.00 น.)

 

หัวข้อและกิจกรรมการเรียนรู้

  • เรียนรู้และเข้าใจตนเอง
  • เรียนรู้และเข้าใจผู้อื่น
  • เรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาติของงานขาย
  • ทัศนคติในการมองโลก มองตนเอง มองผู้อื่นรับวิกฤตการขาย
  • ทำไมต้องสร้างต้นทุนทางความคิดก่อนการขาย
  • การสร้างทัศนคติเชิงบวกแบบคิดอยากขายฝ่าวิกฤตการขาย
  • เทคนิคการตรวจจับทัศนคติเชิงลบ
  • เทคนิคการปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงลบไปเป็นเชิงบวก
  • ทัศนคติที่ดีต่อการร่วมกันทำงานเป็นทีมในการขาย
  • แนวคิดดีๆต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งในงานขาย
  • องค์กรแห่งความสุข สร้างได้ด้วยทัศนคติเชิงบวก
  • กรณีศึกษาจากประสบการณ์ตรงของวิทยากร
  • Workshop แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ
  • สรุปเนื้อหาแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์จากผู้เข้ารับการอบรม
  • ข้อคิดฝากให้กับผู้เข้ารับการอบรม เพื่อนำกลับไปฝึกปฏิบัติให้เกิดการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น

ผู้เข้าฝึกอบรม  เหมาะสำหรับหัวหน้างาน และพนักงานขายทุกระดับ

วิธีการและรูปแบบการฝึกอบรม

1.บรรยาย 60% : กิจกรรมการเรียนรู้ 40%

2.การอภิปรายร่วมและกิจกรรมกลุ่มแบบระดมความคิดตลอดการฝึกอบรม

3.กรณีศึกษาแบบยกตัวอย่างเป็น Model Case Study (Workshop)

4.สรุปและถาม-ตอบ เพื่อทดสอบความเข้าใจ

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com