PUBLIC TRAINING หลักสูตร : การลดความสูญเสียทั้ง 7 ประการ เพื่อลดต้นทุนการผลิต 7 Waste for cost reduction อ.อนันต์ ยืนยันจัด เปิด 4 ตุลาคม 2567

PUBLIC TRAINING หลักสูตร : การลดความสูญเสียทั้ง 7 ประการ เพื่อลดต้นทุนการผลิต

7 Waste for cost reduction  อ.อนันต์ ยืนยันจัด เปิด 4 ตุลาคม 2567  

ณ.โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

หลักสูตรการลดความสูญเสีย ทั้ง 7 ประการนี้  จึงเป็นสิ่งสำคัญหนึ่งในระบบการผลิตและงานบริการ เป็นการกำจัดความสูญเสียและปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องในกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกิจกรรมหรืองานที่ดำเนินการให้ดีขึ้น

การลดต้นทุนเป็นเรื่องที่หลายองค์กรให้ความสนใจ เพราะมีผลต่อทั้งประสิทธิภาพในการผลิต ลดความสูญเสีย รวมถึงการทำกำไร นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงเรื่องคุณภาพของผลผลิต การปฏิบัติงานอีกด้วย

หากขาดซึ่งการพยายามปรับปรุงแก้ไขวิธีการทำงาน ให้ดีขึ้น ความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นตามมา อาจทำให้องค์กรต้องสูญเสียลูกค้าและกำไร การลดความสูญเสียถือเป็นหน้าที่ของพนักงานและผู้บริหารทุกคน ดังนั้น ทุกคนต้องมีความรู้ จิตสำนึก การสังเกต หาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขป้องกัน เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

สภาวะปัจจุบันที่มีการแข่งขันทางด้านธุรกิจกันอย่างรุ่นแรง ทั้งจากภายในและต่างประเทศ ทำให้สถานประกอบการต่าง ๆ ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตต้องการปรับตัวเป็นอย่างมาก การสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันโดยการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง(High Quality) ต้นทุนการผลิตที่ต่ำอย่างเหมาะสม (Low Cost) และส่งมอบสินค้าได้ตรงกำหนดเวลา (On Time Delivery) จึงมีความจำเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มศักยภาพบริหารการผลิตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบขององค์กร โดยนำแนวคิดการบริหารจัดการระบบ LEAN มาใช้เพื่อควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต 7 + 1 ประการสำคัญที่มีอยู่ในองค์กร ได้แก่ ความสูญเสียจากการผลิตมากเกินไป (Over Production Waste) ความสูญเสียจากการขนส่ง (Transportation Waste) ความสูญเสียจากการรอคอย (Waiting Waste) ความสูญเสียจากสินค้าคงคลัง (Inventory Waste) ความสูญเสียจากผลิตภัณฑ์บกพร่อง (Defects Waste) ความสูญเสียจากการเคลื่อนไหว (Motion Waste) และ ความสูญเสียจากกระบวนการมากเกินไป (Over processing Waste) และความสูญเสียจากการขาดความคิดสร้างสรรค์และใช้คนที่ไม่เหมาะสมกับงาน (Non-Utilized Talent)

LEAN คือ ปรัชญาในการผลิต ที่ถือว่าความสูญเปล่าเป็นตัวทำให้เวลาที่ใช้ในการผลิตยาวนานขึ้น และควรที่จะมีการนำเทคนิคต่าง ๆมาใช้ในการกำจัดความสูญเปล่าเหล่านั้นออกไป การผลิตแบบ Lean คือ การใช้หลักการชุดหนึ่งในการระบุและกำจัดความสูญเปล่า เพื่อส่งมอบสินค้าที่ลูกค้าต้องการทันเวลาที่ต้องการ Lean คือ แนวทางที่จะพัฒนา จังหวะ (RHYTM), การไหล (FLOW) และ สมดุล (BALANCE) ในกระบวนการผลิตใด ๆ และสามารถนำระบบ LEAN มาใช้เพื่อลดความสูญเปล่าโดยมีจุดประสงค์ในการลดต้นทุนการผลิตและสามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานให้ดี มีประสิทธิภาพ มีต้นทุนที่ต่ำอย่างเหมาะสม สร้างศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้องค์กรมีผลกำไรในการดำเนินธุรกิจได้เพิ่มขึ้น

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้เข้าใจถึงเหตุผล และความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการผลิต
  • เพื่อทราบถึงความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตและแนวทางในการลดความสูญเปล่าเหล่านั้น
  • เพื่อลดระยะเวลาการผลิตได้ตามที่ลูกค้าต้องการอย่างต่อเนื่อง
  • เพื่อได้รู้ถึงเทคนิคการลดต้นทุนการผลิตในธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม
  • เพื่อการวิเคราะห์เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เป็นเลิศ (The Best Practice)
  • เพื่อการปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง

รายละเอียดของหลักสูตร (Key Contents)

  • หลักการ LEAN (LEAN Principles)
  • การวิเคราะห์ผลิตภาพด้วยแผนภูมิสายธารแห่งคุณค่า (Value Stream Mapping)
  • การจัดสมดุลสายงาน (Line Balancing)
  • การผลิตอย่างต่อเนื่อง (Continuous Flow)
  • การลดความสูญเปล่า 7 + 1 ประการ (8 Wastes)
  • การทำงานอย่างเป็นมาตรฐาน (Standardized Works)
  • การปรับเปลี่ยนรุ่นการผลิต (Single Minute Exchange of Dies : SMED)
  • การควบคุมคุณภาพด้วยหลักการ QC 7 Tools
  • ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time)
  • กิจกรรม 5ส.
  • Kaizen (การปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง)
  • A3 form
  • Work Instruction
  • แนวความคิดหลักเกี่ยวกับความสูญเปล่าเปล่าและต้นทุน 7+1 Waste
  • การประยุกต์ใช้เครื่องมือ ไคเซ็น , Visual control และ Poka Yoke เพื่อลดความสูญเสีย
  • เทคนิคของการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องด้วยหลัก PDCA เพื่อลดความสูญเปล่าในการทำงาน
  • ตัวอย่างต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการลด Waste ขององค์กรอื่นๆ
  • Work Shop1 “ระดมสมองเพื่อวิเคราะห์ความสูญเสียในการทำงาน”
  • Work Shop2 “ใจเขาใจเรากับคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ”
  • Work Shop3 “มาสร้างเป้าหมายการทำงานร่วมกันด้วยการทำงานเป็นทีม”
  • แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถามตอบ

วิธีการสัมมนา   การบรรยาย การให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และถาม-ตอบ

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ ฝ่ายซ่อมบำรุง ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

ระยะเวลา        1 วัน จำนวนวันละ 6 ชั่วโมง  เวลา 9.00 – 16.00 น.

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการสั่งงาน มอบหมายงาน และติดตามงานอย่างมีประสิทธิผล อบรม 3 ตุลาคม 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการสั่งงาน มอบหมายงาน และติดตามงานอย่างมีประสิทธิผล  อบรม 3 ตุลาคม 2567

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการคิดอย่างเป็นระบบ การวางแผนให้เป็นรูปธรรม การสื่อสาร สั่งการ และการมอบหมายชัดเจน รวมทั้งการติดตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อการบริหารและการจัดการที่ดี
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมฝึกทักษะขั้นตอนหลักการคิดอย่างเป็นระบบ การวางแผนให้เป็นรูปธรรม การสื่อสารสั่งการ และการมอบหมายชัดเจน รวมทั้งการติดตามแผนงานอย่างมืออาชีพ
  3.  เพื่อให้ผู้เข้าอบรมตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของหลักการคิดอย่างเป็นระบบ การวางแผนให้เป็นรูปธรรม การสื่อสาร สั่งการ และการมอบหมายชัดเจน รวมทั้งการติดตามแผนงาน การมอบหมาย การสั่งงานและการติดตามงานต่อตัวบุคคล (individual) ต่อกลุ่ม (group & team) และต่อองค์กร (organization)

รายละเอียดของหลักสูตร (Key Contents)

  • กรอบการเรียนรู้ที่ 1 : การคิดอย่างเป็นระบบ (Thinking Through)
  • กระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creative Thinking Process)
  • ขั้นที่ 1 การค้นพบความจริง
  • ขั้นที่ 2 การค้นพบปัญหา
  • ขั้นที่ 3 การตั้งสมมติฐาน
  • ขั้นที่ 4 การค้นพบคำตอบ

ขั้นที่ 5 ยอมรับจากการค้นพบ

  • ผลลัทธ์ที่ได้จากความคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic Thinking Outcomes)
  • ลักษณะทางกระบวนการ (Process)
  • ลักษณะของบุคคล (Person)
  • ลักษณะทางผลผลิต (Product)
  • กรอบการเรียนรู้ที่ 2 : การวางแผน การสั่งการ มอบหมายอย่างเป็นรูปธรรม (Planning)
  • แนวคิดการจัดทำแผนงานให้ลงมือปฏิบัติ
  • การเตรียมตัววางแผนอย่างมีหลักการ
    – Workshop 1: กำหนดวัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด เป้าหมายกำหนดแผนงานเริ่มต้น จัดทำแผนปฏิบัติการ
  • การนำแผนไปปฏิบัติ การทบทวน ติดตาม และประเมินแผนปฏิบัติการ
  • กรอบการเรียนรู้ที่ 3 : การสื่อสารและการสั่งการ (Communication & Command)
  • ศิลปะการสื่อสาร การสั่งการและมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพ
  • การสั่งงานด้วยลายลักษณ์อักษร
  • การสั่งงานด้วยวาจา
  • ประเภทของการสื่อสารงาน 4 แบบ
  • แบบออกคำสั่ง
  • แบบขอร้อง
  • แบบให้คำแนะนำ
  • แบบอาสาสมัคร
  • การแก้ไขและแก้ปัญหาระหว่างการสั่งการ มอบหมายงาน
  • หลักการพูดและการนำเสนอ
  • การควบคุมตนเองและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
  • จิตวิทยาการโน้มน้าวและให้กำลังใจผู้ฟัง

Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติขั้นตอนการนำเสนองานต่อหน้าคณะกรรมบริหาร

  • กรอบการเรียนรู้ที่ 4 : การมอบหมาย (Assignment and Delegation)
  • หลักการการมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพ
  • การเข้าใจกระบวนการมอบหมายงาน
  • หลักการ Put the Right Man to the Right Job
  • ประเภทของการมอบหมายงาน
  • Assignment (งานตามปกติ)
  • Delegation (งานตามอำนาจหน้าที่)
  • ขั้นตอนการมอบหมายงาน
  • อธิบายเหตุผล/ความสำคัญ
  • ระบุผลงาน
  • บอกเงื่อนไข
  • ถามวิธีปฏิบัติการ
  • เสนอความช่วยเหลือ
  • ทำแผนปฏิบัติการ
  • ทบทวนขั้นตอน
  • ประเมินผล
  • กรอบการเรียนรู้ที่ 5 : การติดตามงานและการควบคุมงาน (Monitoring and Controlling)
  • กระบวนการติดตามและการควบคุมงานให้ได้ผลสำเร็จ
  • การแจ้งผลการปฏิบัติงานเมื่อมีการติดตามผลงาน
  • การแจ้งผลการที่จะมีผลกระทบทางบวก
  • การแจ้งผลการที่จะมีผลกระทบทางลบ
  • เรื่องที่หัวหน้าพึงระมัดระวังในการแจ้งผล
  • การแจ้งผลการควบคุม และติดตามงานของลูกน้องในการปฏิบัติงาน
  • เพื่อการแก้ไขปรับปรุง
  • เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการปฏิบัติงาน
  • เพื่อบรรลุเป้าหมาย หรือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่กำหนด
  • Workshop 5 : ฝึกปฏิบัติวิธีการแจ้งผลตรวจติดตาม การควบคุมงานของลูกน้อง
  • สรุปประเด็น/คำถามแลกเปลี่ยนประสบการณ์/ปิดการสัมมนา

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Public Training ยืนยันจัด หลักสูตร เทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงานและการแจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา 3 ตุลาคม 2567

Public Training ยืนยันจัด หลักสูตร เทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงานและการแจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา 3 ตุลาคม 2567

หลักการและเหตุผล

การบริหารจัดการงานทรัพยากรบุคคลทุกๆ องค์กรจะมีทิศทางและกลยุทธ์การจัดการที่ดี ด้วยการจัดสรร ออกแบบเครื่องต่างๆ ในการวัดผล ประเมินการทำงานให้ได้ผลความสำเร็จ และนำข้อมูลที่ได้รับมาจัดการบริหารทรัพยากรมนุษย์ภายในองค์กรได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม เพื่อหาคนเก่งงาน เก่งคิด กล้าแสดงออก และกล้าตัดสินใจงานที่รับมอบหมาย มีแรงจูงใจทำผลงานได้วมบูรณ์แบบตามเป้าหมาย อยากร่วมงานกับองค์กรที่ยาวนาน การเข้าใจพนักงานของตนเอง ผู้บริหารจึงต้องเข้าใจลูกน้องของตนเองได้อย่างดี ด้วยการใช้เครื่องมือ “การประเมินผลและการให้คำแนะนำย้อนกลับ” จากผู้บังคับบัญชาโดยตรง ตนเอง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยเรียกวิธีการนี้ว่า “การประเมินผลแบบ 360 องศา”

หลักสูตร เทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงานและการแจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา เพื่อปรับปรุงผลงาน จึงได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ทางด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานให้กับผู้บริหารและหัวหน้างาน โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้หลักการและเทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงานและการให้ข้อมูล การแจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา พร้อมส่งเสริมให้มีการพูดคุยและการให้ feedback ผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสอนงานและปรับปรุงผลงานระหว่างผู้บังคับบัญชาและพนักงาน รวมทั้งระบุและประเมินทักษะ ความรู้ ความสามารถที่สำคัญต่องานที่รับผิดชอบทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีเป้าหมาย และเป็นรูปธรรม

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจแนวทางการกำหนดปัจจัยผลงานและสมรรถนะที่

จำเป็นในการบริหารผลงานได้อย่างเป็นรูปธรรม

  1. เพื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมเข้าใจทักษะสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานและการให้แจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา ในตำแหน่งงานต่างๆ ที่จำเป็นของหัวหน้างานที่ต้องใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน รวมถึงมีแนวทางการนำผลการประเมินไปใช้ในทางปฏิบัติให้เข้าใจ แนวคิด หลักการ วัตถุประสงค์ และกระบวนการบริหารผลงาน ได้ตรงตามที่ต้องการ และสอดคล้องกับความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน
  2. เพื่อให้รู้จักการใช้เครื่องมือ ขั้นตอนและแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานและการแจ้งผลย้อนกลับแบบ 360 องศา ที่มีประสิทธิผล พร้อมทั้งมีแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ใช้ให้ดีขึ้น รวมถึงการนำผลการประเมินไปใช้ได้ถูกต้อง
  3. เพื่อส่งเสริมและเพิ่มทักษะการให้ Feedback ผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสอนงานและปรับปรุงผลงานระหว่างผู้บังคับบัญชาและพนักงาน ไปประยุกต์ใช้ให้ได้อย่างมีประสิทธิผลและเป็นไปใน ทิศทางที่องค์กรต้องการ

ประเด็นการสนทนา/ฝึกปฏิบัติ

หน่วยการเรียนที่ 1 : การพัฒนาการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 360 องศา (Effective Performance Appraisal Evaluation)

  1. แนวคิด หลักการ ความสำคัญและประโยชน์การบริหารผลการปฏิบัติงาน
  2. วิธีการให้เกณฑ์คะแนนความสามารถอย่างเป็นธรรม และเป็นมาตรฐานเดียวกันตามข้อกำหนดตัวชี้วัดผลงานระดับหน่วยงานและรายบุคคล  (KPIs : Key Performance Indicator)
  3. รูปแบบการจัดหมวดความรู้ ความสามารถสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Competency Allocation)
  4. การออกแบบเครื่องมือสำหรับการประเมินผลวัดความรู้ ทักษะการทำงาน คุณลักษณะและทัศนคติการปฎิบัติงานแบบ 360 องศา
  • การสัมภาษณ์รายบุคคลและกลุ่ม (Progressive Interview)
  • การทำข้อสอบวิชาชีพ (Knowledge Test)
  • การประชุมกลุ่ม (Group Dynamic Discussion)
  • การสังเกตการณ์ในพื้นที่ (On-site Observation)
  • การสื่อสารและนำเสนอผลงาน (Job Story Telling)
  1. WORKSHOP : กรณีศึกษาการประเมินศักยภาพของพนักงาน และการออกแบบเครื่องมือต่างๆ สำหรับการประเมินผลงานการปฏิบัติงานแบบ 360 องศา การวิเคราะห์ผลการประเมินและความสัมพันธ์ ของการนำผลการประเมินมาวิเคราะห์ ชั่งน้ำหนัก จัดลำดับ ของตัวชี้วัดในการประเมินแบบ 360 องศา
  2. เทคนิคการประเมินผลงานให้เชื่อมโยงกับเป้าหมาย และแผนขององค์กร
  • การปฏิบัติตนก่อน ระหว่าง และหลังการประเมินผลการปฏิบัติงาน
  • มาตรฐานเป้าหมายต่างๆ ขององค์กร เช่น Goal Setting, Core Value, Competency, หรือ Quality Statemen
  • การกับการพัฒนาบุคลากร การขึ้นเงินเดือนและจ่ายโบนัส การเลื่อนตำแหน่ง และ/หรือการรักษาบุคลากร

 

หน่วยการเรียนที่ 2 : การแจ้งผลการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 360 องศา (Effective Feedback & Counselling)

  1. ข้อปฏิบัติของผลการปฏิบัติงานและแจ้งผลการปฏิบัติงานอย่างสร้างสรรค์
  2. วิธีการและขั้นตอนการแจ้งผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน การทดสอบประเมินอย่างสร้างสรรค์
  • การแจ้งผลการที่จะมีผลกระทบทางบวก
  • การแจ้งผลการที่จะมีผลกระทบทางลบ
  • การแจ้งเรื่องที่พึงระมัดระวังในการแจ้งผล
  1. เทคนิคการแจ้งผลการประเมินต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกน้องทราบจุดแข็งและจุดอ่อนในการปฏิบัติงานการทดสอบประเมินอย่างมีประสิทธิภาพ                          
  2. เทคนิคการให้คำปรึกษากับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกน้องเพื่อพัฒนา “คน” และ “ผลงาน”

WORKSHOP : กรณีศึกษา-บทบาทสมมุติ (Role-Play) การแจ้งผลการปฏิบัติงาน และการให้คำ

ปรึกษาในรูปแบบต่างๆ ในการพัฒนาบุคลากรในลักษณะต่างๆ

  1. เทคนิคการประเมินผลงานประจำปี และการให้ Feedback ผลการปฏิบัติงาน
  • การให้Feedback พนักงาน เพื่อพัฒนาผลการปฏิบัติงาน
  • การให้ Feedback ผลการปฏิบัติงานพนักงานในสถานการณ์ต่างๆ
  • การรักษา ดูแล และกระตุ้นจูงใจพนักงาน ให้ได้ใจ

สรุปประเด็น/คำถามแลกเปลี่ยนประสบการณ์/ปิดการสัมมนา

วิธีการฝึกอบรม – สัมมนา

เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Dynamic & Workshop) เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน (Learning by Doing and Participating with Experiences) ซึ่งประกอบด้วย

{ การบรรยาย       { กิจกรรม และเกม    { การแสดงออก

{ กลุ่มสัมพันธ์       { การแสดงความคิด ถาม – ตอบ

วิทยากรนำการสัมมนา

ดร.พิพัฒน์พล  เพ็ชรเที่ยง (อ.ปีเตอร์/ดร.ปื๊ด)

  • Managing Director : PLAN AND WORK CENTER
  • ที่ปรึกษาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร : DE WISDOM Training Institute
  • ที่ปรึกษาอิสระพัฒนาพนักงานขายและพนักงานสัมพันธ์ลูกค้าด้วยกระบวนการ

Sales Consultant, Customer Service and Call Center Assessment or Development Center

  • ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบหลักสูตร และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาบุคลากรมากกว่า 10 ปี

อดีตที่ทำงาน

  • ที่ปรึกษาอาวุโสด้านพัฒนาบุคลากร Adecco Consulting Limited (Thailand)
  • ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาบุคลาการ Thailand Duty Free Shop Co., Ltd. (ททท.)
  • ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล King Power Duty Free Co., Ltd. (เอกชน)
  • ผู้จัดการฝ่ายบริการส่วนหน้า และผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรม Bangkapi Royal Rose Hotel

Kasikorn Thai Bank, Ambassador Hotel Bangkok

การศึกษา

– ปริญญาเอก สาขาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

  (HUMAN RESOURCES DEVELOPMENT )  มหาวิทยาลัยรามคำแหง

   ชื่อเรื่องดุษฎีนิพนธ์ การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการสอนงานของหัวหน้างานในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ไทย

A Development of the Coaching Training Curriculum for Supervisor in Thai Electronic Industries.

– ปริญญาโท สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

  (HUMAN RESOURCES DEVELOPMENT )  มหาวิทยาลัยรามคำแหง

– ปริญญาตรี สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (ENGLISH COMMUNICATION ART)

  มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ศิษย์เก่าดีเด่นปี พ.ศ. 2539 รางวัลนพรัตน์เชิดชูเกียรติ ประเภทผู้ให้บริการสังคม

Certificated to Mini Master of Management (MMM) NIDA

Certificated to Service Plus as Service Training for Trainer

DDI-Development Dimensions International (Thailand)

Certified to DJ Professional Training KPN MUSIC ACADEMY

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining  

Line id : @inwtraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร กระบวนการนำเข้า-ส่งออก ภาษีศุลกากร และข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อบรม 2-3 ตุลาคม 2567

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร กระบวนการนำเข้า-ส่งออก ภาษีศุลกากร และข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อบรม 2-3 ตุลาคม 2567

 

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

 

อบรมแบบ On-Site

ราคา โปรโมรชั่น 3,500 บาท/วัน อบรม 2 วัน 7,000 บาท/2 วัน

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

หลักการและเหตุผล 

          การส่งออกและนำเข้าสินค้าในปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของประเทศและของโลก ประกอบกับการค้าวิถีใหม่ NEW NORMAL  เป็นการค้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์  ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผู้ปฏิบัติต้องมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจอย่างชาญฉลาด ทันสมัย ตามการค้าของโลกที่เปลี่ยนไปเร็วมาก

สิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออก, นักธุรกิจ, ผู้ผลิต, ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ, นายหน้าหรือตัวแทนการค้า, รวมทั้งพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวและผู้สนใจทั่วไป จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของการค้ายุคใหม่ที่นำเอาระบบ Logistics & Supply Chain มาบริหารจัดการให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกและได้รับผลสำเร็จคุ้ม ค่ากับการลงทุน

 

วันที่ 1 (บรรยายโดย อ.วิรัตน์ บาหยัน)

เนื้อหาการอบรมมีดังนี้

– การเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจส่งออกและนำเข้าในระบบโลจิสติกส์ ภายใต้พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560

– หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้าตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

– ความรับผิดในการเสียค่าอากร การคำนวณค่าภาษีอากร

– อายุความในการประเมินอากรหลังการตรวจปล่อย (Post Clearance Audit)

– ความรู้ทางด้านการค้าระหว่างประเทศ (Import -Export Operations)

  1. สินค้าที่มีมาตรการนำเข้าและส่งออกตามพระราชบัญญัติ ฯ พ.ศ.2558
  • สินค้าต้องห้าม-ต้องกำกัด
  • สินค้าที่ห้ามนำผ่านและผ่านได้
  • สินค้าที่ต้องมีมาตรฐาน
  1. e-Import : การผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการนำเข้า
  2. หลักเกณฑ์ด้านพิกัดอัตราศุลกากร (HS Code) พิกัดอัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน (AHTN)
  3. หลักเกณฑ์ด้านราคาศุลกากร Gatt Valuation ในการประเมินภาษีอากรในการนำเข้า
  4. หลักเกณฑ์การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีอากรว่าด้วยการเปิดเสรีทางการค้า

– การยกเว้นหรือลดอัตราอากรสำหรับเขตการค้าเสรี (FTA)

–  การตรวจสอบสิทธิก่อนและหลังการนำสินค้าเข้า

–  การรับรองแหล่งกำเนิดด้วยตนเอง (Self Certification)

  1. e-Export: พิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสินค้าส่งออก
  2. การยกเว้นอากรสำหรับของส่งออกแล้วจะนำกับเข้ามาในภายหลัง (สุทธินำกลับ)
  3. การขอคืนอากรสำหรับสินค้าที่นำเข้ามาแล้วส่งกลับออกไป (Re-Export)
  4. การคืนอากรสำหรับของที่นำเข้ามาผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด(มาตรา 29)
  5. การใช้สิทธิประโยชน์ของคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) เขตปลอดอากร (Free Zone) เขตประกอบการเสรี (I-EAT Free Zone)
  6. การขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออก (Tax Coupon)
  7. ปัญหา ข้อควรระวัง และแนวทางในการแก้ไขข้อผิดพลาดการนำเข้า-ส่งออก
  8. การรับรองป้องกันภัยจากการก่อการร้ายจากมาตรฐานเออีโอ (AEO) and (C-TPAT)

ดูเเลให้คำปรึกษาหลังอบรมฟรี สำหรับลูกค้าอบรม

 

วันที่ 2 โดย อาจารย์ มนตรี ยุวชาติ

1 .ความหมายของการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

–  ขั้นตอนในการติดตามการทำการค้า และการส่งสินค้าระหว่างประเทศ

–  วงจรการชำระเงิน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการชำระเงินระหว่างประเทศ

–  เทคนิคในการพิจารณาผู้ซื้อ และผู้ขาย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียเปรียบในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ
2.  การเลือกใช้ข้อตกลงในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ International Commercial Terms  (Incoterms® 2020) ตามเกณฑ์ของ

สภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce)

– Any Mode : EXW, FCA, CPT, CIP, DAP, DPU, DDP

–  Water Mode: FAS, FOB, CFR, CIF.

  1. 3. รู้จักความหมายของผู้จัดทำเอกสารการค้าระหว่างประเทศ และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำเอกสารผิดพลาด

3.1  เอกสารทางการเงิน (Financial Document)

–  Draft or Bills of Exchange

–  Promissory Note (P/N)

3.2  เอกสารทางการขนส่ง (Transport Document)

–  Bills for Lading

–  Multimodal Transport Documents

–  Air Waybills

–  Railway Receipt

–  Truck Receipt

–  Courier Receipt

3.3  เอกสารการประกันภัย (Insurance Documents)

–   กรมธรรม์ประกันภัย (Insurance Policy)

–   ใบรับรองการประกันภัย (Insurance Certificate)

3.3  เอกสารทางการค้า (Commercial Document)

–  ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)

–   ใบบรรจุหีบห่อสินค้า (Packing List)

–    ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin)

–     ใบวิเคราะห์สินค้า (Certificate of Analysis) ฯลฯ

  1. กฎเกณฑ์ที่ควรเข้าใจก่อนการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ
  2. ข้อห้ามในการทำการค้าระหว่างประเทศกับประเทศที่มีความเสี่ยง (High Risks Countries) หรือประเทศต้องห้าม
  3. สิ่งที่ควรทราบถึงกฎเกณฑ์ภาครัฐในการนำเข้า ส่งออกสินค้านอกเหนือจากกฎเกณฑ์ของกรมศุลกากร
  4. กรณีศึกษาการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ผิดวิธี

 

วิทยากรผู้บรรยาย

ภาคแรก อาจารย์วิรัตน์ บาหยัน อาจารย์มนตรี ยุวชาติ

อดีตเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และการให้คำปรึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ  มีความชำนาญในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมามากกว่า 40 ปี อีกทั้งยังเป็นวิทยากรผู้บรรยายในหัวข้อการค้าระหว่างประเทศในภาครัฐ และเอกชนมามากกว่า 30 ปี

 

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท20 ติด BTS อโศก

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการใช้ Microsoft Excel แบบ Advanced ฝึกปฏิบัติจริง อบรม 27 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการใช้ Microsoft Excel แบบ Advanced ฝึกปฏิบัติจริง อบรม  27 กันยายน 2567

โปรแกรม Microsoft  Excel  นับว่าเป็นโปรแกรมสามัญประจำเครื่องที่มีประโยชน์มากมาย มีความสามารถรอบด้าน นำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย หากใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น สะดวก และรวดเร็ว  หลักสูตรนี้ มุ่งให้คำแนะนำและฝึกปฏิบัติให้กลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมได้ทราบและเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือและสูตรต่างๆ ในโปรแกรม Microsoft  Excel  เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

  

วัตถุประสงค์ : หลักสูตรนี้ มุ่งหมายให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้…

+  มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือและสูตรต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Excel

+  ฝึกทักษะการใช้เครื่องมือและสูตรของโปรแกรม Microsoft Excel

+  สามารถนำเอาเทคนิคการใช้เครื่องมือและสูตรของโปรแกรม Microsoft Excel

ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้โปรแกรมในการทำงานปัจจุบัน

 

หัวข้อเรียนรู้ :

เวลา    กิจกรรมการเรียนรู้

08.30 – 09.00 น.   ลงทะเบียน

09.00 – 12.00 น.    การใช้โปรแกรม Microsoft Excel แบบ Advanced

  1. การสร้างสูตรและฟังก์ชั่นในระดับสูง
  • ทบทวนการสร้างสูตรและฟังก์ชั่นบน Excel
  • การประยุกต์ใช้ฟังก์ชั่น SUMIF(S), COUNTIF(S), COUNTA
  • การประยุกต์ใช้ฟังก์ชั่น AND, OR, NOT เพื่อเปรียบเทียบเงื่อนไข
  • การซ้อนฟังก์ชั่น, การใช้ฟังก์ชั่น VLOOKUP และ HLOOKUP ซ้อน IF
  • การประยุกต์ใชัฟังก์ชั่น INDEX, MATCH, OFFSET และ TRANSPOSE
  • แนะนำการ Format และการสร้างสูตรคำนวณทางด้านวันและเวลาได้อย่างถูกต้อง  (NOW, TODAY, DATE, TIME, DATEDIF, YEAR, MONTH, DAY, WEEKDAY, HOUR, MINUTE, SECOND)

12.00 – 13.00 น.   พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 16.00 น.    2. การใช้เครื่องมือทำงานกับฐานข้อมูลบน Excel

  • แนะนำเครื่องมือการทำงานกับฐานข้อมูลบน Excel (Database Management Tools)
  • การใช้ Auto Filter เพื่อค้นหาข้อมูลและกรองข้อมูล
  • การใช้ Advanced Filter เพื่อจัดการกับข้อจำกัดของ Auto Filter
  • การ Sort แบบ Single-Field, Multi-Field และ Special-Field
  1. การใช้เครื่องมือตรวจสอบข้อมูลบน Excel
  • การสร้าง Data Validation เพื่อป้องกันข้อมูลที่ผิดพลาดเข้าสู่ระบบข้อมูลบน Excel
  • การสร้าง Data Validation เพื่อแสดงข้อมูลในเซลล์แบบ List Item ช่วยให้ใช้ข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • การใช้ Text to Columns เพื่อแบ่งข้อมูลเป็นหลายๆ Column แบบอัตโนมัติ
  1. การใช้เครื่องมือจัดรูปแบบข้อมูลตามเงื่อนไขที่กำหนด (Conditional Formatting)
  • เรียนรู้การจัดรูปแบบของข้อมูลตามเงื่อนไขที่กำหนดขั้นพื้นฐาน (Basic Conditional Formatting)
  • เรียนรู้การจัดรูปแบบของข้อมูลตามเงื่อนไขที่กำหนดขั้นซับซ้อน (Advanced Conditional Formatting)
  1. การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล (What-If Analysis) ด้วย Data Table
  • เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Data Table
  • เทคนิคการหาค่าผลลัพธ์ที่ต้องการแบบอัตโนมัติด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล Goal Seek
  • การสร้างแผ่นงานพยากรณ์ ( Forcast Sheet) สำหรับคาดการณ์มูลค่าตัวเลขในอนาคต
  1. 6การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย PivotTable และ PivotChart
  • การใช้เครื่องมือ Releationship สำหรับสร้างความเชื่อมโยงในการสรุป Pivot Table ของข้อมูลที่มาจากหลายๆ Sheet

 

รูปแบบการเรียนรู้ :

+  บรรยายแบบกระชับและการฝึกปฏิบัติการ (Mini-Lecture and Workshops)

+  การถาม-ตอบ (Question & Answer)

+  วิทยากรให้คำแนะนำ (Practices with Recommendation)

รูปแบบการเรียนรู้ :

+  บรรยายแบบกระชับและการฝึกปฏิบัติการ (Mini-Lecture and Workshops)

+  การถาม-ตอบ (Question & Answer)

+  วิทยากรให้คำแนะนำ (Practices with Recommendation)

 

อาจารย์ ทิพอาภา ลี้ประเสริฐ

ปริญญาโท การบริหารธุรกิจ (MBA สาขาการจัดการ)

ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (เทคโนโลยีอุตสาหกรรม)

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานคุณภาพ และผู้ตรวจประเมินระบบมาตรฐานคุณภาพ

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรม Microsoft Office

เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรโรงงานอุตสาหกรรม

พร้อมด้วยผู้ช่วยวิทยากรอีกหนึ่งคนที่ทำหน้าที่ให้คำแนะนำระหว่างฝึกปฏิบัติ 

 

โรงเเรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ท่านละ 3,900 บาท

สมาชิกบริษัท ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การวางแผนความต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิต (Material Requirements Planning) 18/10/2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การวางแผนความต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิต (Material Requirements Planning)

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

หลักการและเหตุผล

 

    MRP (Material Requirements Planning)คือ แผนหรือตารางความต้องการวัตถุดิบ(Items) ในแต่ละวันของการผลิต และตามสูตรการผลิต(Bill of Material: BOM)ของสินค้าหนึ่ง ๆ ดังนั้นMRPจึงขึ้นอยู่กับความต้องการวัตถุดิบจากสูตรการผลิตและตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ (dependent demand)เช่น แผนความต้องการขวดเปล่าเพื่อบรรจุน้ำอัดลม หรือ ฝาขวด, ฉลากปิดขวด,น้ำตาล และแก๊ส รวมถึงแผนความต้องการน้ำดิบบริสุทธิ์เพื่อนำไปกรองและผสมตามสูตรการผลิต โดยสามารถบรรจุขวดและวางลงในกล่องหีบห่อได้อย่างเพียงพอ โดยตารางความต้องการวัตถุดิบหรือ MRPมีหัวข้อที่สำคัญคือ

1. Gross Requirementsคือ จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

2. Scheduled Receipts คือ ตารางการรับวัสดุที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

3. Projected Stock Balanceคือ จำนวนวัตถุดิบที่คาดหวังว่าต้องมีให้พร้อมเพื่อรองรับการผลิตในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

4.Net Requirements คือ จำนวนวัตถุดิบที่ต้องการสุทธิทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

5.Planned Order Receipts คือ แผนการรับวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

6.Planned Order Releases คือ แผนการสั่งวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

           หัวข้อต่าง ๆเหล่านี้ล้วนนำมาใช้ในการสร้างตารางMRP ให้เกิดความสมบูรณ์ โดยมีข้อมูลประกอบเพิ่มเติมคือLead time ของการจัดส่งสินค้าของแต่ละSupplierและ ปริมาณสินค้าคงคลังที่นับได้ล่าสุดอีกด้วย

วัตถุประสงค์

1.เพื่อสามารถผลิตสินค้าและส่งมอบได้ทันตามที่ลูกค้ากำหนด

2.เพื่อลดเวลาการรอคอยวัตถุดิบจากSupplierที่มีLead timeการส่งมอบที่ยาวนานได้

3.ลดเวลาการDowntimeของเครื่องจักรที่เกิดจากการป้อนวัตถุดิบไม่ทันหรือไม่เพียงพอ

4.ลดปริมาณและต้นทุนสินค้าคงคลังทั้งวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป และสินค้าสำเร็จรูปลงได้

5.ลดต้นทุนการผลิตสินค้าจากการผลิตแบบJust in time (JIT)

6.ลดต้นทุนการจัดซื้อ จัดหา

7.ลดความแปรปรวนของการผลิตและแผนการผลิตประจำวัน

8.ลดปริมาณสินค้าSafety Stock

9.ลดพื้นที่การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10.          สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

หัวข้อเนื้อหา   

1.ระบบMRP (Material Requirements Planning)คืออะไร วัตถุประสงค์และประโยชน์

2.ระบบMRP (Material Requirements Planning)และS&OP (Sales and Operation Planning)

3.การพยากรณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้า(Customer Demand Forecasting)กับการพยากรณ์การขาย(Sales Forecasting)

4.การวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดขายสินค้า(Sales Predictive Analytics)

5.ขั้นตอนของกระบวนการทำระบบMRP

6.ความแตกต่างระหว่างMPS (Master Production Schedule)กับMRP (Material Requirements Planning)

7.การคำนวณตารางMRP (Master Production Schedule)

8.การตั้งสูตรการผลิตสินค้า(Bill of Material: BOM)

9.การคำนวณตารางMRP (Material Requirements Planning)

10.          MRP กับการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง

11.          ต้นทุนสินค้าคงคลัง (Cost of Inventory)

12.          ระบบEOQ (Economic Order Quantity)

13.          การหาจุดการสั่งซื้อซ้ำ(Re-order Point: ROP)

14.          การกำหนดปริมาณสินค้าในคลังสินค้าเพื่อความปลอดภัย(Safety Stock)

15.          กลยุทธ์การวางแผนการผลิตและการจัดซื้อแบบJust in Time (JIT for Planning & Purchasing)

ระยะเวลาอบรม      1 วัน เวลาอบรมจำนวน 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. 

รูปแบบการฝึกอบรมการบรรยาย,อภิปรายเชิงปฏิบัติการให้คำปรึกษา

กลุ่มเป้าหมายกลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

ระยะเวลาอบรม           1 วัน เวลาอบรมจำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  

 

วิทยากร          อาจารย์อนันต์  ดีโรจนวงศ์

 

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, อภิปรายเชิงปฏิบัติการ, ให้คำปรึกษา

 

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

                                      มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี     

                                      ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                                    – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์    

                                      โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การวางแผนความต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิต (Material Requirements Planning) 18 กันยายน 2567 อ.อนันต์

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การวางแผนความต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิต (Material Requirements Planning)

18 กันยายน 2567 อ.อนันต์

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

หลักการและเหตุผล

 

    MRP (Material Requirements Planning)คือ แผนหรือตารางความต้องการวัตถุดิบ(Items) ในแต่ละวันของการผลิต และตามสูตรการผลิต(Bill of Material: BOM)ของสินค้าหนึ่ง ๆ ดังนั้นMRPจึงขึ้นอยู่กับความต้องการวัตถุดิบจากสูตรการผลิตและตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ (dependent demand)เช่น แผนความต้องการขวดเปล่าเพื่อบรรจุน้ำอัดลม หรือ ฝาขวด, ฉลากปิดขวด,น้ำตาล และแก๊ส รวมถึงแผนความต้องการน้ำดิบบริสุทธิ์เพื่อนำไปกรองและผสมตามสูตรการผลิต โดยสามารถบรรจุขวดและวางลงในกล่องหีบห่อได้อย่างเพียงพอ โดยตารางความต้องการวัตถุดิบหรือ MRPมีหัวข้อที่สำคัญคือ

1. Gross Requirementsคือ จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

2. Scheduled Receipts คือ ตารางการรับวัสดุที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

3. Projected Stock Balanceคือ จำนวนวัตถุดิบที่คาดหวังว่าต้องมีให้พร้อมเพื่อรองรับการผลิตในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

4.Net Requirements คือ จำนวนวัตถุดิบที่ต้องการสุทธิทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

5.Planned Order Receipts คือ แผนการรับวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

6.Planned Order Releases คือ แผนการสั่งวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

           หัวข้อต่าง ๆเหล่านี้ล้วนนำมาใช้ในการสร้างตารางMRP ให้เกิดความสมบูรณ์ โดยมีข้อมูลประกอบเพิ่มเติมคือLead time ของการจัดส่งสินค้าของแต่ละSupplierและ ปริมาณสินค้าคงคลังที่นับได้ล่าสุดอีกด้วย

วัตถุประสงค์

1.เพื่อสามารถผลิตสินค้าและส่งมอบได้ทันตามที่ลูกค้ากำหนด

2.เพื่อลดเวลาการรอคอยวัตถุดิบจากSupplierที่มีLead timeการส่งมอบที่ยาวนานได้

3.ลดเวลาการDowntimeของเครื่องจักรที่เกิดจากการป้อนวัตถุดิบไม่ทันหรือไม่เพียงพอ

4.ลดปริมาณและต้นทุนสินค้าคงคลังทั้งวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป และสินค้าสำเร็จรูปลงได้

5.ลดต้นทุนการผลิตสินค้าจากการผลิตแบบJust in time (JIT)

6.ลดต้นทุนการจัดซื้อ จัดหา

7.ลดความแปรปรวนของการผลิตและแผนการผลิตประจำวัน

8.ลดปริมาณสินค้าSafety Stock

9.ลดพื้นที่การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10.          สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

หัวข้อเนื้อหา   

1.ระบบMRP (Material Requirements Planning)คืออะไร วัตถุประสงค์และประโยชน์

2.ระบบMRP (Material Requirements Planning)และS&OP (Sales and Operation Planning)

3.การพยากรณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้า(Customer Demand Forecasting)กับการพยากรณ์การขาย(Sales Forecasting)

4.การวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดขายสินค้า(Sales Predictive Analytics)

5.ขั้นตอนของกระบวนการทำระบบMRP

6.ความแตกต่างระหว่างMPS (Master Production Schedule)กับMRP (Material Requirements Planning)

7.การคำนวณตารางMRP (Master Production Schedule)

8.การตั้งสูตรการผลิตสินค้า(Bill of Material: BOM)

9.การคำนวณตารางMRP (Material Requirements Planning)

10.          MRP กับการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง

11.          ต้นทุนสินค้าคงคลัง (Cost of Inventory)

12.          ระบบEOQ (Economic Order Quantity)

13.          การหาจุดการสั่งซื้อซ้ำ(Re-order Point: ROP)

14.          การกำหนดปริมาณสินค้าในคลังสินค้าเพื่อความปลอดภัย(Safety Stock)

15.          กลยุทธ์การวางแผนการผลิตและการจัดซื้อแบบJust in Time (JIT for Planning & Purchasing)

ระยะเวลาอบรม      1 วัน เวลาอบรมจำนวน 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. 

รูปแบบการฝึกอบรมการบรรยาย,อภิปรายเชิงปฏิบัติการให้คำปรึกษา

กลุ่มเป้าหมายกลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

ระยะเวลาอบรม           1 วัน เวลาอบรมจำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  

 

วิทยากร          อาจารย์อนันต์  ดีโรจนวงศ์

 

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, อภิปรายเชิงปฏิบัติการ, ให้คำปรึกษา

 

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

                                      มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี     

                                      ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                                    – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์    

                                      โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Spare Part อย่างมีประสิทธิภาพ (Spare Part Inventory Management) : 30 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Spare Part อย่างมีประสิทธิภาพ (Spare Part Inventory Management) : 30 กันยายน 2567

การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Spare Part อย่างมีประสิทธิภาพ อ.อนันต์ ดีโรจนวงศ์_people develop center
การจัดการสินค้าคงคลังวัสดุ (Spare Part Inventory Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าประเภทวัสดุได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งวัสดุให้ผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในคลังสินค้าวัสดุก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำอย่างเหมาะสม เพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งานได้ และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้าวัสดุ การจัดการคลังสินค้าวัดสุจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปทาน รวมถึงการควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังวัสดุ (Spare Part Inventory Control)ซึ่งต้นทุนสินค้าคงคลังวัสดุเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังวัสดุมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังวัสดุบริการให้กับผู้ใช้งานในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการอยู่เสมอ สามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังวัสดุให้ต่ำอย่างเหมาะสม และเพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงได้อีกด้วย

วัตถุประสงค์ :

เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะคลังสินค้าวัสดุ (Spare Part) และสามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วนในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้าวัสดุได้
เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังวัสดุจำนวนมาก
เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าประเภทวัสดุในคลังสินค้าได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังวัสดุได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
สามารถเติมเต็มสินค้าคงคลังวัสดุได้ทันเวลาและอย่างเพียงพอ และสามารถจัดเก็บสินค้าวัสดุได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า
เพื่อลดเวลา Breakdown Maintenance และงาน Preventive Maintenance ว่าเมื่อใดก็ตามที่ต้องการใช้อะไหล่เพื่อการซ่อม หรือเพื่อการบำรุงรักษา ต้องหาได้ในทันทีหรือใช้เวลาน้อยที่สุด

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :
1. หลักการพื้นฐานการจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง

ความสำคัญและประโยชน์ของการบริหารสินค้าคงคลัง
ระบบการบริหารคลังสินค้ากับบริหารสินค้าคงคลัง
ประเภทของสินค้าคงคลัง และการบริหารจัดการสินค้าคงคลังสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบและวัสดุ อุปกรณ์
การวิเคราะห์ต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลัง
2. การวิเคราะห์ความสำคัญของสินค้าคงคลังวัสดุ
การวิเคราะห์สินค้าคงคลังวัสดุด้วยแนวคิด ABC Analysis
การวิเคราะห์จัดแบ่งวัสดุตามความสำคัญกับการผลิต (VED Analysis)
การวิเคราะห์จัดแบ่งวัสดุตามความถี่ในการใช้ (FSN Analysis)
การวิเคราะห์จัดแบ่งวัสดุตามมูลค่าราคา (HML Analysis)
การวิเคราะห์จัดแบ่งวัสดุตามระยะเวลาในการส่งมอบ (SDE Analysis)
3. การวางแผน ควบคุม และการคำนวณปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม
การวิเคราะห์จุดสั่งซื้อซ้ำ (Re-Order Point: ROP) และการคำนวณ
การคำนวณปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (Economic Order Quantity: EOQ) และข้อจำกัด
สินค้าเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock : SS) และปริมาณที่เหมาะสม
วิธีการลดปริมาณสินค้าคงคลังวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ
4. การประเมินความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลัง
ดัชนีชี้วัดการดำเนินงานการบริหารสินค้าคงคลัง (KPIs) และการวิเคราะห์
กรณีศึกษาการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :
ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ฝ่ายคลังสินค้าวัสดุ สินค้าสำเร็จรูป สินค้าวัตถุดิบ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต ฝ่ายซ่อมบำรุง วิศวกร

รูปแบบ/วิธีการในการเรียนรู้ :
การบรรยาย
การให้คำปรึกษา
ให้คำแนะนำ-ร่วมอภิปราย
วิทยากร :อาจารย์ อนันต์ ดีโรจนวงศ์
ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น
ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน
อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรีปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต
ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

ลงทะเบียนOnline คลิ๊ก !!

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด

รูปเเบบ Public Training
ราคาออนไลน์ ท่านละ 2500 บาท

ราคา โปรโมรชั่น 3,500 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การเปลี่ยนแปลง ข้อร้องเรียนของลูกค้าให้เป็นโอกาส” ดร.จรีพร โชติพิบูลย์ทรัพย์ อบรม 30 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การเปลี่ยนแปลง ข้อร้องเรียนของลูกค้าให้เป็นโอกาส” ดร.จรีพร โชติพิบูลย์ทรัพย์ อบรม 30 กันยายน 2567

หลักการและเหตุผล

ข้อร้องเรียนของลูกค้า ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเชิงลบในภาคธุรกิจอีกต่อไป ในทางกลับกันเราสามารถนำข้อร้องเรียนต่าง ๆ เหล่านั้นมาพลิกให้เป็นโอกาส ที่เราจะสนองตอบต่อลูกค้าให้เกิดความประทับใจได้

หลักสูตร การเปลี่ยนแปลงข้อร้องเรียนของลูกค้าให้เป็นโอกาส จึงเป็นหลักสูตรที่มุ่งไปที่การยกระดับแนวคิดการให้บริการที่มุ่งเน้นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รวมไปถึงการสร้างทักษะการบริการอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าประทับใจในภาวะวิกฤต

วัตถุประสงค์

  1.       เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ทราบและเข้าใจถึงหลักการคิดเมื่อได้รับข้อร้องเรียนของลูกค้า
  2.    เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เกิดทักษะในการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับลูกค้า
  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะการเปลี่ยนข้อร้องเรียนไปสู่นวัตกรรมและโอกาสในการพัฒนา ในขณะที่รักษาความภักดีของลูกค้าไว้ด้วย

รายละเอียดการฝึกอบรม

ทดสอบก่อนการอบรม  Pre Test

  • ลูกค้าคือใคร…? ความคาดหวังของลูกค้า??
  • การอ่านความต้องการของลูกค้า
  • รู้จักและเตรียมรับมือกับลูกค้าแต่ละประเภท
  • ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) กับการเผชิญกับลูกค้าที่ยุ่งยาก
  • เทคนิคการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • ทักษะการฟังที่มีประสิทธิภาพ
  • เทคนิคการรับมือ ,แก้ปัญหา และจัดการ เมื่อลูกค้าไม่พอใจ
  • การแก้ปัญหาระยะยาว
  • แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
  • ขั้นตอนการแก้ปัญหา (Customer Handling)

Workshop, เกม, กิจกรรมบทบาทสมมุติ

พักกลางวัน

  • เทคนิคการแก้ไข ความทรงจำ ประสบการณ์ที่ไม่ดีของลูกค้า (Customer Experience)
  • Trust – การสร้างความไว้วางใจ
  • เทคนิคการรับมือ ,แก้ปัญหา และจัดการ เมื่อลูกค้าแสดงความไม่พอใจ ผ่านช่องทางต่างๆ
  • – แบบเผชิญหน้า (Face to Face)
  • – ผ่านทางโทรศัพท์ (Telephone Complain)
  • – ผ่าน Online เช่น อีเมล, ไลน์ (Online Complain)
  • เทคนิคการติดตามผล (Follow Up) ที่

Workshop, เกมกิจกรรมบทบาทสมมุติ

สรุปถาม-ตอบปัญหา

 

สถานที่อบรม โรงแรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด Bts อโศก

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบริหารจัดการคน (People Management Skills) อบรม 30 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบริหารจัดการคน (People Management Skills)  อบรม  30 กันยายน 2567

 

หลักสูตรการบริหารจัดการคน (People Management Skills)

หลักการและเหตุผล

การบริหารจัดการคนเป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้นำและผู้จัดการในการทำงานทุกประเภท การมีทักษะการจัดการคนที่ดีจะช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการบริหารจัดการคนในหลากหลายด้าน เช่น การสื่อสาร การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาทีม

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

  1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการคน
  2. เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
  3. เพื่อเสริมสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจ
  4. เพื่อเพิ่มความสามารถในการพัฒนาทีมและการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
  5. เพื่อส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวกและมีความสุข

เนื้อหาของหลักสูตร (9.00-16.00 น.)

เวลา 9.00-10.30 น.: บทนำและการสื่อสารในทีม

  • แนะนำหลักสูตรและวัตถุประสงค์
  • ความสำคัญของการสื่อสารในการบริหารจัดการคน
  • เทคนิคการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • กิจกรรม: การฝึกการสื่อสารในสถานการณ์จำลอง

เวลา 10.30-10.45 น.: พักเบรก

เวลา 10.45-12.00 น.: การสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อถือ

  • การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
  • การพัฒนาและรักษาความเชื่อถือ
  • การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
  • กิจกรรม: การสร้างความสัมพันธ์ผ่านการทำงานร่วมกัน

เวลา 12.00-13.00 น.: พักกลางวัน

เวลา 13.00-14.30 น.: การแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจ

  • การวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขปัญหา
  • เทคนิคการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
  • การจัดการความขัดแย้งในทีม
  • กิจกรรม: การฝึกการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจในสถานการณ์จริง

เวลา 14.30-14.45 น.: พักเบรก

เวลา 14.45-16.00 น.: การพัฒนาทีมและการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

  • การพัฒนาทีมและการเสริมสร้างทักษะสมาชิกทีม
  • การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
  • การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวกและมีความสุข
  • สรุปและการอภิปราย

เวลา 16.00 น.: ปิดหลักสูตร

  • ถามตอบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • ประเมินผลและขอข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วม

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้ ทักษะ และการฝึกปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในการบริหารจัดการคนในทีมและองค์กร

 

 

รูปแบบการสัมมนา

  • บรรยาย ระดมสมอง กรณีศึกษา (สามารถฝึกอบรมได้ทั้ง Online และ In-House Training)

 

  • จำนวน 1 วัน ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น 3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร