Online Zoom หลักสูตร : การบริหารงานแบบคล่องตัวสำหรับโครงการ (Agile Project Management) 8 ส.ค.64

Online Zoom หลักสูตร : การบริหารงานแบบคล่องตัวสำหรับโครงการ (Agile Project Management) 8 ส.ค.64 09,00-16.00

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

โปรโมชั่นOnline Training  ราคา ท่านละ 2,500 บาท  09.00-16.00

 

เคยไหม? ที่เจองานหลายๆงานแล้วงานเสร็จล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด งบประมาณบานปลาย ทีมงานทำงานยุ่งทำงานไม่เสร็จกับทีมงานที่ว่างไม่รู้จะทำอย่างไร? จะรักษา balance ในการทำงานของทีมงานได้อย่างไร? เพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้
การทำงานแบบ Agile ถือเป็นอีกทางรอดขององค์กรให้เกิดการทำงานที่เร็วขึ้น และตอบสนองความต้องการกับกลุ่มเป้าหมายสูงสุด เนื่องจากมีหลายๆคนที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านช่วยกันวางแผน พัฒนานำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักบริหาร ผู้จัดการ หัวหน้างาน ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่สนใจที่จะพัฒนาทักษะการทำงานแนวใหม่แบบ Agile โดยนำเทคนิคมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการวางแผน และทำงานไปทีละนิดๆ และค่อยๆ ประเมินว่า “ไปต่อดีหรือถูกทางไหม” แล้วจึงเดินหน้าต่อนั่น หมายถึง การกำหนดเป้าระยะสั้นและค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเจอปัญหาหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงจะสามารถรับมือแก้ไขได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
การที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ของการดำเนินงานตามนโยบายและเป้าหมาย ที่บริษัทกำหนด และสิ่งสำคัญคือการอบรมให้พนักงานทุกคนทราบขั้นตอนการดำเนินงานตามหลักคิดนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้พนักงานดำเนินกิจกรรมไปในทิศทางเดียวกันก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและทำให้บริษัท ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และสอดคล้องกับนโยบายขององค์กร ที่สามารถต่อยอดเพื่อสร้างประสิทธิภาพให้แก่องค์กร ไปสู่โครงการอื่น ๆ ต่อไป

วัตถุประสงค์
เพื่อสร้างความเข้าใจต่อต้นทุนการผลิต และสร้างผลกำไรให้กับบริษัท
เพื่อสร้างแนวคิดในการประยุกต์ใช้ หลักการ Agile ในการสร้างประสิทธิผลต่องานที่ทำ
เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานและบริษัทอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเชื่อมั่นและกล้าถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ ความชำนาญในการทำงานร่วมกัน
เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับผู้เข้ารับการอบรม

หัวข้อการอบรม
1. Agile การบริหารอย่างคล่องตัว และฉับไว
– อะไรคือแนวคิดการบริหารงานแบบ Agile
– แนวคิดการบริหารงานขององค์กรยุคใหม่ และตัวอย่างขององค์กรที่นำ “Agile” เข้ามาใช้ในการทำงาน
– ความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบทั่วไปกับแบบ Agile
– Agile Mind-set
– Waterfall Process
– ข้อดี-ข้อเสียของการทำงานแบบทั่วไปกับแบบ Agile
– แบบสำรวจความเหมาะสมในการใช้ Agile ในองค์กร
รายละเอียด อธิบายถึงที่มาของการทำ Agile ทำไมจึงเกิดแนวคิดนี้ขึ้น และแนวคิด Agile เหมาะสมกับองค์กรแบบไหน ทำไมบางองค์กรใช้แล้วสำเร็จ บางองค์กรใช้แล้วไม่ได้ผล ซึ่งการทำ Agile สิ่งสำคัญที่สุดคือ การปรับ Mindset ของคนทำงาน ไม่ให้ยึดติดวิธีการเดิม แต่ต้องปรับตังให้รวดเร็วตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
2. การบริหารโครงการแบบ Agile วิธีการทำงานตามแนวคิดของ Agile
– ไม่เน้นกระบวนการและเอกสาร
– ยอมรับความเปลี่ยนแปลง
– ทำทีละนิดแต่ทำบ่อย ๆ
– ผิดพลาดให้เร็ว
– ทำงานเป็นทีมมากกว่าที่จะสนใจกระบวนการ
– Framework และ SCRUM

รายละเอียด อธิบายถึงองค์ประกอบของการทำ Agile และแนวคิดที่ประยุกต์มาจากบริษัทที่ทำ Software computer เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในการปรับตามความต้องการของลูกค้า สู่การทำ Agile ในสายการผลิต
3. ตำแหน่งสำคัญใน Agile
– Product Owner
– Scrum Master
– Development Team
Case Study ของการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นจริงในการทำงาน
รายละเอียด อธิบายถึงบทบาทหน้าที่และวิธีการทำ Agile ที่สำคัญของตำแหน่งต่าง ๆ ที่สำคัญ ที่จะขับเคลื่อนแนวคิด Agile ให้เป็นรูปธรรม รวมถึงการใช้ Framework / KANBAN / User Story / AS a (role) เพื่อระบุบทบาทของผู้ใช้งาน / I want (goal) เพื่อระบุว่าผู้ใช้งานต้องการอะไร / So that (benefit) เพื่อระบุว่าผู้ใช้งานจะได้รับอะไร / Acceptance criteria เกณฑ์วัดผลว่าสามารถตอบสนองความต้องการได้แล้ว
4. เทคนิคการใช้บัตรความคิด

Workshop1: Scrum Workshop: ฝึกปฏิบัติ “Developing Work Innovation”
นำเสนอ “Work Innovation” และ/หรือ ประเด็นการนำเสนอที่ทางองค์กรต้องการูปแบบแบ่งกลุ่ม
นำเสนอกลุ่มละ 15-20 นาที
กลุ่มเป้าหมาย
พนักงานทุกระดับ หัวหน้างาน ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง
รูปแบบการสัมมนา
1. การบรรยาย 40 %
2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%
3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 10 %

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้และเข้าใจหลักการ Agile อย่างถูกต้อง
2.ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการของ Agile ไปประยุกต์ใช้กับงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น
4.ผู้เข้าอบรมมีจิตสำนึกในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
5.ผู้เข้าอบรมมีสำนึกการรักองค์กรมากขึ้น