Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร Customs Preferential System under Free Trade Area สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า 29 เม.ย.65 อ.วิรัตน์

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร Customs Preferential System under Free Trade Area สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า 29 เม.ย.65 อ.วิรัตน์

ราคา  2,500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า

  1. ทำไมต้องเปิดเสรีทางการค้า

  2. FTA คืออะไร และมีกี่ประเภท ?

  3. FTA ช่วยผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและนำเข้าอย่างไร

  4. หลักเกณฑ์การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ FTA

  5. FTA ที่มีผลบังคับกับประเทศไทย และที่อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศไทย

  6. วิธีการตรวจสอบสิทธิพิเศษภายใต้ FTA

  • ทวิภาคี : JTEPA, TIFTA, TAFTA, TNZFTA, TPEFTA, TCHFTA, TPFTA, TTFTA, TSFTA, TEUFTA, T-EFTA

  • พหุภาคี : * WTO, ATIGA* ACFTA* AKFTA* AJFTA* AIFTA* AANZFTA* AHFTA* BIMSTEC* TCFTA*

  1. ใช้สิทธิลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรภายใต้ FTA ได้อย่างไร

  2. เอกสารการรับรองถิ่นกำเนิดมีอะไรบ้าง

  3. กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (RULE OF ORIGIN)

  • เกณฑ์สูงสุด WO,

  • เกณฑ์นำเข้าวัตถุดิบมาผลิต RVC, CTC, SP

  • เกณฑ์ร่วมกันผลิตในภาคีเดียวกัน

  1. ระเบียบปฏิบัติในการนำเข้าของไทยภายใต้ FTA

  2. การวางประกัน ด้วยเหตุแห่งความสงสัยว่าเอกสารจะผิดพลาด

  3. หลักเกณฑ์เงื่อนไขพิธีการศุลกากรในการนำเข้า

  4. สิทธิเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าแบบตรง (Direct Consignment & Transhipment)

  5. การใช้สิทธิโดยการซื้อขายผ่านประเทศที่สาม (3rd Party  Invoicing)

  6. การออกแบบหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดแทนกัน ( Back to Back)

  7. การออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดย้อนหลังทำอย่างไร

  8. การตรวจสอบหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดในการใช้สิทธิพิเศษ

  9. กรณีได้สิทธิโดยยกเว้นหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด

  10. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสาร และรับรองให้ออกเอกสารเองได้

  11. ถาม-ตอบ

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

http://www.tesstraining.com

 

Online Training  หลักสูตร  :  การทำงานเชิงรุกแบบสร้างสรรค์ อบรม 13.00-16.00 วันที่ 16 เม.ย.65

Online Training  หลักสูตร  :  การทำงานเชิงรุกแบบสร้างสรรค์ อบรม 13.00-16.00 วันที่ 16 เม.ย.65

ราคาโปรโมรชั่น 1,500 บาท บรรยาย 09.00-12.00

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

ที่มาของหลักสูตร                 

การทำงานจะประสบความสำเร็จกับเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมงานของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพ ความคืบหน้าและการเจริญเติบโตขององค์กร หากองค์กรใด ๆ ที่อยู่ภายใต้ทรัพยากรที่สามารถกระตุ้นให้คนที่จะทำงานในเชิงรุก มันจะเพิ่มความจุขององค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่มันเป็นเรื่องยากมาก มันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลการเปลี่ยนแปลงจะต้องใช้ความรู้การฝึกทักษะที่เกิดจากการรับรู้ของการเรียนรู้และการปฏิบัติและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่จะต้องใช้ความรู้และทักษะในการประสานงานเชื่อมทั้งในแง่ของยอดขาย บุคลากรและเอกสารอื่น ๆ ให้สำเร็จลุล่วง จุดมุ่งหมายคือการทำงานทั้งของตัวเอง และความสำเร็จของทีมนี้เป็นหนึ่งยาก แต่ก็สามารถทำได้ด้วยการฝึกอบรมการเรียนรู้และการปฏิบัติที่สามารถตอบสนองศักยภาพที่จะเกิดขึ้นในองค์กรที่จะเห็นผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

 

สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม

  1. เกิดจิตสำนึกในการทำงานเชิงรุกและความร่วมมือการทำงานร่วมกันในหน่วยงาน

    ปรับเปลี่ยนทัศนคติที่เป็นอยู่ปัจจุบันให้ดีขึ้น

  1. เกิดทักษะความรู้ และความเข้าใจในการทำงานเชิงรุก ทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. เกิดวัฒนธรรมในการทำงานเชิงรุกร่วมกันสำหรับพนักงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายอย่าง

    เด่นชัด

  1. รู้แนวคิด และกระบวนการทั้งระบบในการทำงานเชิงรุกด้วยการตอกย้ำและการลงมือทำ

  2. เกิดการพัฒนางานและองค์กรซึ่งเกิดจากความรับผิดชอบ และการให้ความร่วมมือต่อ

    ส่วนรวม (หน่วยงานของตนเองและองค์กร) และก้าวไปสู่ความเป็นเลิศต่อไปในอนาคต

ระยะเวลาการฝึกอบรม   :       3 ชม.

The Topic

  • ทำไมถึงต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ

  • การปรับทัศนคติให้ตรงกันจากความคาดหวังของท่านและองค์กร

Workshop : เพื่อหาข้อดีและเป้าหมายขององค์กร

  • เคล็ดลับการทำงานเชิงรุก (ไม่ใช่ทำตามแค่หน้าที่)

  • เทคนิคการคิดบวกและทำงานใส่ใจในหน้าที่รับผิดชอบ

  • หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน

  • การสร้างแรงจูงใจ และพลังขับเคลื่อนในการทำงานแบบเชิงรุก

  • จิตวิทยาในการทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

  • การสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อการร่วมมือกันในการทำงานเชิงรุก

  • เทคนิคการประสานงานเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ทำงานด้วยความเต็มใจ

     Workshop : คิดและวิเคราะห์ประยุกต์การทำงานเชิงรุกกับการทำงานจริง 

วิธีการและรูปแบบการฝึกอบรม

    – Virtual Class Online Training by Conference Meeting Application

   – อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สะท้อนแนวคิดร่วมกัน

    – สรุปและถาม-ตอบ เพื่อทดสอบความเข้าใจ

ผู้เข้าฝึกอบรม

 –    พนักงานทุกระดับ

วิทยากร     :    อาจารย์ สุกิจ ตรียุทธวัฒนา

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

เปิดรับ สมัครอบรม หลักสูตร การบริหารทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดข้อขัดแย้งในการทำงาน รุ่นที่ 3 (Effective Team Management and Conflict Management) : 4 เมษายน 2565

เปิดรับ สมัครอบรม หลักสูตร การบริหารทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดข้อขัดแย้งในการทำงาน รุ่นที่ 3 (Effective Team Management and Conflict Management) : 4 เมษายน 2565

การที่องค์กรจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ บุคลากรในองค์กรทุกฝ่ายงานต้องร่วมกันทำงานเป็นทีมมีการสื่อสารประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้ง Soft Skill และ Hard Skill แต่ในการชีวิตทำงานจริงงานอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องมาจากความขัดแย้งในการทำงานอันมีจากหลากสาเหตุ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีหรือปล่อยเวลาให้เนินนานไป อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรหลายประการ อาทิเช่น นำไปสู่ความตึงเครียด ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรและเวลามากขึ้น ทำให้เกิดการแบ่งเป็นพรรคเป็นพวก มุ่งเอาชนะกันมากกว่าที่จะมองเป้าหมายขององค์กรโดยรวม ทำลายประสิทธิผลขององค์กร เป็นต้น

สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้นำในองค์กรของท่านสามารถบริหารทีม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และใช้ได้จริง” เพื่อความสำเร็จในการทำงานและความผูกพันของพนักงานและองค์กรของท่าน

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ :  เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในหลักการ แนวคิดในการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อขัดแย้งในการทำงาน

  2. สามารถออกแบบวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อขัดแย้งในการทำงาน

  3. สามารถวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคนในการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อขัดแย้งในการทำงาน

  4. เสริมสร้างเทคนิคการสื่อสาร “เปิดใจก่อนเปิดปาก” ในการลดข้อขัดแย้งในการทำงาน

  5. สามารถแก้ไขปัญหาการประสานงานระหว่างหน่วยงานและลดข้อขัดแย้งในการทำงานด้วย MOU

  6. สามารถออกแบบงาน (Job Design) ในการสร้างความชัดเจนของหน่วยงานด้วย Function Matrix อย่างเป็นระบบในการลดความขัดแย้งในการทำงานอย่างมืออาชีพ

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :

ส่วนที่  1  :  “เข้าใจ -> เข้าถึง -> พัฒนา” เคล็ดวิชาการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ

  • 3 เรื่องที่ต้องเข้าใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • 3 เรื่องที่ต้องเข้าถึงในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • 3 เรื่องที่ต้องพัฒนาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  2  : เทคนิคการรวมพลังสู่ความสำเร็จของเป้าหมายร่วมกัน ด้วย “Engagement Team”

  • ความสำคัญและความหมายของทีมกับ KPI

  • การสร้างความผูกพันในองค์กรด้วยตนเอง (Engagement Management System)

  • 8 องค์ประกอบของการทำงานเป็นทีมให้บรรลุเป้าหมาย

  • 7 แนวร่วมในการทำงานเป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพ

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติออกแบบวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมแบบ Do & Don’t

ส่วนที่  3  : “งาน” หรือ “คน” จุดเริ่มต้นของปัญหาข้อขัดแย้งในการทำงาน (The Beginning of Conflicts in Work)

  • “งาน” หรือ “คน” จุดเริ่มต้นของปัญหาความขัดแย้งในการทำงาน

  • แนวทางการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคน เพื่อมองคนให้ออก บอกคนให้ได้ และประสานงานคนให้เป็น

  • Workshop 2 : ฝึกวิเคราะห์กำหนดแนวทางการทำงานร่วมกับคนแต่ละสไตล์

ส่วนที่  4  :  “เปิดใจก่อนเปิดปาก” เทคนิคการสื่อสารที่ลดข้อขัดแย้งในการทำงานอย่างได้ผล (Communication Tricks)

  • กำแพงความคิดที่ปิดกั้นใจคนในองค์กร

  • แนวทางในการสื่อสารแบบเปิดใจก่อนเปิดปาก

  • แนวทางการสื่อสารด้วยประตูใจ เพื่อลดข้อขัดแย้งในการทำงาน (Positive Communication)

  • 5 คำพูดพื้นฐานในการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้ประสบความความสำเร็จ

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติถอดรหัสใจ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในการทำงาน

ส่วนที่  5  :  เทคนิคในการสื่อสารแบบข้ามสายงาน ในการแก้ไขความขัดแย้งและหาทางออกอย่างมืออาชีพ (Cross Functional Alignment)

  • แนวทางการสื่อสารทลายกำแพงคิดที่ปิดกั้นใจคนแบบ Cross Functional

  • กฎเหล็กในการสื่อสาร : เพื่อนมาสู่-ข่มขู่หรือขอร้อง-ต้องหมวก 2 สี-มี MOU

  • ตัวอย่างแบบฟอร์มในการทำ MOU การสื่อสารประสานงานข้ามสายงาน

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ MOU ในการประสานงานและแก้ไขความขัดแย้งอย่างมืออาชีพ (Cross Functional) 

ส่วนที่  6  :  เทคนิคการลดข้อขัดแย้งในการทำงานอย่างมืออาชีพ ด้วยการออกแบบงาน (Job Design) ของหน่วยงานให้ชัดเจนด้วย Function Matrix

  • การออกแบบงาน (Job Design) ของหน่วยงานให้ชัดเจนด้วย Function Matrix

  • ตัวอย่าง Function Matrix ในการกำหนด Job ของหน่วยงาน

  • 4 วิธีในการกำหนด Key Job ของหน่วยงาน

  • Workshop 5 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ Job ของหน่วยงาน (Function Matrix) ในการสร้างความชัดเจนและลดข้อขัดแย้งในการทำงาน

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการแผนก หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่ และผู้สนใจทั่วไป

รูปแบบ/วิธีการในการเรียนรู้ :

o  การบรรยาย (Lecture)  ผ่าน Zoom ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Center) 

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop): ที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น (Discussion)เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การระดมความคิด (Brainstroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม 

วิทยากร  :  อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • กรรมการผู้จัดการสถาบันฝึกอบรม People Develop Center  
  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี
  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY
  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

วันและเวลาอบรม

รุ่นที่  3   วันที่   4  เมษายน  2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. 

สถานที่อบรม 

อัตราค่าละเบียน

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

อบรมแบบพบอาจารย์ จัดอบรมที่ NOVOTEL สุุขุมวิท20

อบรมแบบพบอาจารย์ ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน 

ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

TEL : 02-577-5369, 099-162-9559

E-MAIL: CONTACT.TESSTR@GMAIL.COM

LINE ID : @TESSTRAINING

FACEBOOK : TESSTRAININGPAGE

confirm Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ รุ่นที่ 22 (Modern Supervisory Skills) : 19 ก.ค. 2565

confirm Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ รุ่นที่ 22 (Modern Supervisory Skills) : 19 ก.ค. 2565

 

Reskills and Upskills ทั้ง Soft skills และ Hard Skills ที่ได้ทั้งแบบฟอร์ม เครื่องมือ เทคนิค และวิธีการในการบริหารคนและบริหารงาน

หากองค์กรของท่านยังประสบกับปัญหาหัวหน้างานเหล่านี้ ?

  • ผู้บริหารระดับต้น หรือหัวหน้างาน ไม่รู้บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตนในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

  • ผู้บริหารระดับต้น หรือหัวหน้างาน มีความชํานาญในงานที่ปฏิบัติ แต่ขาดทักษะการบริหารงานและบริหารคนเรียกว่า “เก่งแต่งานของตน แต่ไม่เก่งการบริหารงาน และการบริหารคน”

ผู้บริหารระดับต้นหรือหัวหน้างานนับว่าเป็นทรัพยากรบุคคลอันสําคัญยิ่ง ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้องค์กรประสบความสําเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การเป็นหัวหน้างานถ้าแค่แต่งตั้งคนที่ “ทำงานเก่งและขยัน” ใครก็เป็นได้ แต่การเป็นหัวหน้างานที่ดีมีประสิทธิภาพนั้น ต้องใช้ความรู้และทักษะในด้านการบริหารงาน และการบริหารคน เพราะหัวหน้าต้องรับผิดชอบทั้งเป้าหมายของตนเอง (Individual KPIs) และเชื่อมโยงนโยบายและเป้าหมายขององค์กรไปสู่การปฏิบัติงานจริง   จึงมีความเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาทักษะ “หัวหน้างานยุคใหม่ให้เก่งทั้ง การบริหารงานให้เพิ่มผล และเก่งทั้งการบริหารคนให้เพิ่มค่า” เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร (Competitive Advantage)

จากหลักสูตร In-house Training ยอดนิยมของสถาบันฯ  ได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่ จากประสบการณ์ในการพัฒนาขีดความสามารถทางการบริหาร (Managerial Competency) และโปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development Program) ของผู้บริหารระดับต้นและหัวหน้างานองค์กรธุรกิจชั้นนำมากลั่นกรองและถ่ายทอด “แบบกระชับ เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง” ที่จะช่วยให้ท่านและหัวหน้าในองค์กรของท่านมีความรู้ความเข้าใจ ในบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง และมีความสามารถรอบด้านสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร 

วัตถุประสงค์ของการอบรม : เพื่อให้ผุ้เข้ารับการอบรม

  1. สามารถอธิบาย บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ และเทคนิคการบริหารของหัวหน้างานยุคใหม่ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำงานได้

  2. เสริมสร้างทักษะการบริหารคนให้งานได้ผลคนได้ใจ สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ เพื่อความสำเร็จของหน่วยงานและตนเอง

  3. สามารถวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการบริหารและปกครองลูกน้องได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  4. สามารถกำหนดแนวทางการสร้างความรักและความผูกพันได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  5. เสริมสร้างทักษะการบริหารงานให้งานได้ผลคนได้ใจ สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ในการสร้างความสำเร็จของหน่วยงานและตนเอง

  6. สามารถจัดทำแผนปฏิบัติงานยุคใหม่ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  7. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการบริหารงานและบริหารคน ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

หัวข้อสำคัญของการอบรม (Course Outline) : 

ส่วนที่  1  :  ทักษะการเป็นผู้นำในการบริหารทีมงานให้อยากทำงาน (Leadership and Teamwork Skill)

  • 5 บทบาท 13 หน้าที่ และ 5 ความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะผู้บริหารระดับต้นขององค์กร

  • “รู้เรา” จิตวิทยาการบริหารสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • “รู้เขา” จิตวิทยาการบริหารสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์การบริหารและปกครองลูกน้อง 4 เซียน แบบรู้เขา-รู้เรา 

  • บทบาทของผู้นำแบบ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ในการบริหารทีมงานให้คนอยากทำงาน

ส่วนที่  2  :  ทักษะการสื่อสารระหว่างหัวหน้างานและพนักงานที่มีประสิทธิผล (Effective Communication and Coordination Skills) 

  • การสื่อสารระหว่างบุคคลอย่างมีประสิทธิผล (Interpersonal Communication)

  • แนวทางการสื่อสารประสานงานในการสร้างความสำเร็จในการทำงาน ด้วยประตูใจ…แบบสานสัมพันธ์ (Positive Communication)

  • แนวทางการสื่อสารกับทีมงานแต่ละ Generation

ส่วนที่  3  :  ทักษะการจูงใจทีมงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความสำเร็จในการทำงาน (Positive Motivation Skills)

  • พื้นฐานความต้องการและความคาดหวังของ “มนุษย์เงินเดือน”

  • จูงใจ (Motivation) อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ?

  • 8 เทคนิคการจูงใจที่น่าสนใจ สำหรับผู้นำในองค์กร

ส่วนที่  4  :  ทักษะการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Skills)

  • 4 ความรักที่เสริมสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสร้างความรักและความผูกพัน 4 ประเภท ในองค์กร

  • 10 เทคนิคของหัวหน้างานยุคใหม่ในการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร

  • แนวทางการบริหารความขัดแย้งภายในทีมงาน (Conflict Management)

ส่วนที่  5  :  ทักษะการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงาน (Goal Setting and Planning Skills)

  • การกำหนดเป้าหมายในการทำงานด้วย KPI กับประเภทของแผนงานตามระดับของการจัดการ

  • กุญแจทอง 3 ดอกของการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • กระบวนการจัดทำแผนปฏิบัติงานแบบ PDCA

  • Workshop  3 : ฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Effective Action Plan) สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับเป้าหมาย

  • 4 แผนปฏิบัติงานที่ผู้บริหารและหัวหน้างานต้องจัดทำ 

ส่วนที่  6  :  ทักษะการสอนและพัฒนางาน (Coaching and Development Skills)

  •  การวิเคราะห์ขีดความสามารถ (Competency) หรือ Skill ลูกน้องก่อนการ OJT และ Coaching

  • 13 กรณีที่ต้องหัวหน้าจำเป็นพัฒนาลูกน้อง

  • Tactic ของการ OJT ที่มีประสิทธิภาพ

  • การพัฒนาทีมงาน ด้วย Training Road Map / Training Matrix 

ส่วนที่  7  :  ทักษะการสั่งงาน มอบหมายงาน และติดตามงาน (Directing, Delegation and Follow up Skills)

  • กระบวนการสั่งงานและติดตามงานอย่างประสิทธิผล (Effective Directing and Follow up)

  • เทคนิคการสั่งงานสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • 10 เทคนิคในการควบคุมและติดตามงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Follow up)

  • Workshop 4 : Case Study การสั่งงาน มอบหมาย และติดตามงาน 

ส่วนที่  8  :  ทักษะการปรับปรุงงาน เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน (Work Improvement Skills)

  • ขั้นตอนการปรับปรุงงาน (Work Improvement Process)

  • เทคนิคการปรับปรุงงาน ด้วยข้อเสนอแนะ (Kaizen)

  • เทคนิคการปรับปรุงการประสานงานภายในองค์กรด้วย Red Tag

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน และผู้ที่กำลังจะก้าวสู่ตำแหน่งระดับหัวหน้า

***มอบวุฒิบัตรการฝึกอบรม (Certificate)

รูปแบบ/วิธีการการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย (Lecture) ผ่าน Zoom 

  • การแชร์ Case ประสบการณ์ตรง

  • การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) และการระดมความคิด (Brain Stroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

  • การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

 

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME) : 

รุ่นที่  21  วันที่  25  เมษายน  2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

สถานที่อบรม (VENUE) : 

 

อัตราค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

อบรมแบบพบอาจารย์ จัดอบรมที่ NOVOTEL สุุขุมวิท20

อบรมแบบพบอาจารย์ ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน 

ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

TEL : 02-577-5369, 099-162-9559

E-MAIL: CONTACT.TESSTR@GMAIL.COM

LINE ID : @TESSTRAINING

FACEBOOK : TESSTRAININGPAGE

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การพัฒนาภาวะผู้นำ 4.0  (Leadership Skills Era 4.0) อบรม 25 ม.ค.66

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การพัฒนาภาวะผู้นำ 4.0  (Leadership Skills Era 4.0) อบรม 25 ม.ค.66

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

ราคา  2,500 บาท สมัคร 3 ท่านขึ้นไป ฟรี 1 ท่าน

 

 

       การเป็นหัวหน้างานยุค 4.0 ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

          การพัฒนาระดับความสามารถ (Quotient) ในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ รวมทั้งหัวหน้างานยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาทีมงานไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่วางไว้

         การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว กว้างขวาง และมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงทุกองค์กร ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย  สามารถแข่งขันได้ และดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

         สิ่งสำคัญที่เปรียบเสมือนเป็นการเสริมสร้างทางการพัฒนาให้องค์กร คือ การที่หัวหน้างานมีทักษะของผู้นำยุคใหม่และการสร้างทีมงานที่มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีบุคลากรที่มีทักษะทางการคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ

         ดังนั้นการฝึกคนในองค์กรให้มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และสรรหานวัตกรรมใหม่ ถือได้ว่าเป็นกุญแจไขไปสู่การปรับปรุงและพัฒนางานอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ รองรับการพัฒนาองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลักสูตรนี้จะช่วยให้หัวหน้างานได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ เหล่านั้น โดยเน้นการฝึกคิดออกจากกรอบประสบการณ์เดิมและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง

         กระบวนการทำงานแนวใหม่ จะช่วยให้หัวหน้างานสามารถจัดการกับความคิดได้อย่างมีระบบ มีแบบแผนทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านในที่สุด เพราะฉะนั้นหัวหน้างานยุคใหม่จึงต้องเข้าใจภาวะผู้นำในยุคใหม่ และการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจและให้ธุรกิจยั่งยืนต่อไป

 การพัฒนาหัวหน้างานยุค 4.0  ให้มีภาวะผู้นำนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ ทั้ง 4 ด้าน  อันได้แก่

1.มีความรู้ความสามารถในงาน
2.มีทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์
3.มีการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ

4.มีภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้

         หัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีภาวะผู้นำและการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ จะทำให้รู้จักตัวเอง, รู้จักพนักงาน, รู้จักองค์กรและมีทัศนคติเชิงบวก ทำให้การบริหารงานและทีมงานได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสัมฤทธิผลสำคัญโดยง่าย และเมื่อพัฒนาทีมงานโดยจัดการทำเอง จัดการพนักงาน จัดองค์การให้เหมาะสมและบริหารอย่างสร้างสรรค์แล้ว ก็จะกลายเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพที่ทรงคุณค่า

        การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้น จึงเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้นำในองค์กรของตัวเองโดยการทำให้ผู้นำมี 5Q ที่สูงขึ้น

IQ : ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างฉลาด

EQ : การจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเอง

AQ : การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาสที่ท้าทาย

OQ : การแสดงผลงานที่มีคุณค่า

UQ : การเป็นบุคคลที่มีจริยธรรมอันดี

            การประยุกต์ใช้แนวทางบริหารจัดการ Q (Quotient) ต่างๆ กับเป้าหมายในชีวิตหรืองานที่ได้รับ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ย่อมทำให้ผู้นำสามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคคลรอบข้าง  รวมถึงการเป็นผู้นำที่มีจิตใจที่ดีขององค์กรและเข้าใจภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงและการสร้างนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

             การเรียนรู้และนำแนวทางไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเข้าใจแนวทาง 5Q นั้น จะทำให้ผู้นำได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง นั่นก็หมายความว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดผลงานที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

            โดยที่ Q แต่ละตัวจะสอดคล้องกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักของสมาธิเข้าไปเป็นพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้จะทำให้เป็น 5Q แบบยั่งยืนแล้วเป็นต้นแบบเพื่อองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตัวเอง

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างลงตัว

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ 5Q ของผู้นำที่ดีที่มีภาวะของผู้นำ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการ 5Q ของผู้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักการบริหารทีมที่จะให้กลายเป็นสุดยอดทีมพร้อมทั้งการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

  4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

  5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ “ตัวตน” ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้

  6. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจหลักของ 5Q ผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้

    • สนุกกับการใช้ IQ (Intelligence Quotient) แก้ปัญหาต่างๆ

    • พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ EQ (Emotional Quotient)

    • ก้าวข้ามอุปสรรค AQ (Adversity Quotient) อย่างกล้าหาญ

    • แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของ OQ (Optimist Quotient)

    • พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคม UQ (Unity Quotient)  อย่างมีความสุข

ลักษณะของการอบรม

       เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า 5Q (IQ EQ OQ AQ UQ ) และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ 30 : Work Shop กิจกรรม 70

  2. การใช้เครื่องมือทางด้าน 5Q และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น

  • Ai (Appreciative Inquiry)

  • Dialogue สุนทรียะสนทนา

  • เกมพฤติกรรม

  • Work Shop

  • การระดมความคิดด้วย 5Q

  • Clip VDO และอื่นๆ

 

 หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

  • หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 5Q

    • ใครคือคนที่องค์กรต้องการ

    • บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน

    • ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)

  • Teamwork (การทำงานเป็นทีม)

  • Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)

  • Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย

  • มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others )

  • มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)

  • สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)

  • มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน (Conceptual Thinking)

  • มีทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรของ (Resource Management Skill)

  • กล้าตัดสินใจ (Decision Making)

  • มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)

  • สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)

  • การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

  • การบริหารความขัดแย้งภายในองค์กร (Conflict Management)

  • Continuous Learning (การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง)

  • Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)

    • เรียนรู้คน จากโมเดลผู้นำ 4 ทิศ

  • การสร้างแรงผลักดันให้ลูกน้องทำงานและมุ่งมั่นทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

    • ทฤษฎีการสร้างแรงจูงใจ ในการทำงาน

  • เรียนรู้ทักษะการบริหารจัดการงานโดยสามารถวางแผนงานที่รับมอบหมาย สั่งงาน ติดตาม ความคุม และแก้ไข ปัญหาเบื้องต้น และรายงานผู้บังคับบัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) ใบประกาศผ่านการอบรม

2) ไฟล์ PDF การสอน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

กลยุทธ์การจัดทำ Training Road Map ให้สอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายองค์กร รุ่น 25 (Training Road Map Strategy) : 11 พฤษภาคม 2565

กลยุทธ์การจัดทำ Training Road Map ให้สอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายองค์กร รุ่น 25 (Training Road Map Strategy) : 11 พฤษภาคม 2565

 

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

คนเป็นทรัพยากรทางการบริหารจัดการที่สำคัญที่สุด” แต่จะทำจัดทำแผนพัฒนาความสามารถบุคลากรอย่างไรดีให้กับเป้าหมาย (KPIs / OKRs) กลยุทธ์องค์กร (Strategy) หน้าที่ความรับผิดชอบ (JD) กระบวนการทำงาน (Procedure) และวิธีการทำงาน (Work Instruction) ไม่ให้   สูญเสียเวลา งบประมาณ และกำลังการผลิต/บริการ ที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนขององค์กร ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการพัฒนาบุคลากรตามมา เช่น

  • สำรวจความต้องการในการฝึกอบรม (Training Needs) แล้ว แต่ผู้บริหาร    ยังมองว่าทิศทางธุรกิจ กลยุทธ์ Job Description, Work Instruction และ Procedure

  • อบรมเรื่อง Job Description, Competency, Knowledge Management  และ Training Road Map มาแล้ว แต่ไม่รู้จะบูรณาการ 4  เครื่องมือนี้เข้าด้วยกันในการทำงานจริงได้อย่างไร

  • การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรในแต่ละปี ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงขององค์กร

  • ไม่จะพัฒนาบุคลากรเรื่องอะไรดี ซ้ำมาซ้ำไปทุกๆปี ปัญหาเดิมก็ยังเกิดขึ้น

  • ถ้าองค์กรมี Training Road Map แล้วจะเชื่อมโยงไปสู่แผนพัฒนาความสามารถรายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) ได้อย่างไร ?

  • ถ้าองค์กรมี Training Road Map จะเชื่อมโยงไปสู่การประเมินความสามารถประจำปี (Performance Appraisal base on Competency) ได้อย่างไร ?

  • ถ้าองค์กรมี Training Road Map จะเชื่อมโยงไปสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) และแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) ได้อย่างไร ?

หลักสูตรการฝึกอบรมนี้ได้การออกแบบและพัฒนาขึ้นจาก ประสบการณ์ของวิทยากรในการเป็นนักบริหารงานฝึกอบรมมากว่า 32 ปี ที่จะช่วยให้ท่านเรียนรู้ภาคปฏิบัติแบบ “กระชับ เข้าใจง่าย และปรับใช้งานได้จริง อย่างเป็นรูปธรรม”

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจหลักการ แนวคิด ขั้นตอนการจัดทำ  Training Road Map

  2. สามารถสร้างเครื่องมือสำรวจความจำเป็นในการฝึกอบรม (Training Needs) ที่แท้จริงที่สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ กลยุทธ์ Job Description, Work Instruction และ Procedure

  3. สามารถบูรณาการเรื่อง Job Description, Competency, Knowledge Management และ Training Road Map  เข้าด้วยกันในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรได้อย่างลงตัว

  4. สามารถจัดทำ Training Road Map ยุคใหม่ ให้สอดคล้องกับ  Job Description, Work Instruction และ Procedure

  5. เพื่อเป็นการเสริมสร้างเทคนิคการเชื่อมโยง Training Road Map ไปสู่แผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan : IDP)

  6. เสริมสร้างเทคนิคการเชื่อมโยง Competency จาก Training Road Map ไปสู่การประเมินความสามารถประจำปี (Performance Appraisal base on Competency)

  7. เสริมสร้างเทคนิคการเชื่อมโยง Training Road Map ไปสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) และแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan)

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :

ส่วนที่ 1 :  ปฐมบทเรื่องควรรู้เกี่ยวกับเส้นทางการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร (Training Road Map : TRM)

  • ความหมายของ Training Road Map

  • ความสำคัญและประโยชน์ของ Training Road Map

  • ความเชื่อมโยงของ Training Road Map กับแผนงานฝึกอบรมอีก 5 ระดับ

  • ขั้นตอนสำคัญในการจัดทำ Training Road Map ยุคใหม่ ให้สอดคล้องกับทิศทาง เป้าหมาย กลยุทธ์องค์กร และระบบ HRD

  • แนวทางการแปลงเป้าหมาย (KPIs / OKRs) และกลยุทธ์ (Strategy) สู่ Training Road Map

ส่วนที่ 2 :  เทคนิคการจัดทำ Training Road Map จาก Job Description ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์องค์กร

  • ความสัมพันธ์ระหว่าง Job Description และ Job Competency กับ Modern Training Road Map

  • ขั้นตอนการจัดทำ Training Road Map จาก Job Competency ให้เชื่อมโยงเป้าหมายและกลยุทธ์องค์กร

  • 7 องค์ประกอบสำคัญที่ Easy Modern JD ควรจะมี

  • ความหมาย และประเภทของ Competency

  • ตัวอย่าง แบบฟอร์มการวิเคราะห์หา Job Competency ของตำแหน่งงานจาก JD Version 4

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ Training Road Map จาก Job Description Step 1

  • ตัวอย่าง การจัดทำ Training Road Map ของหน่วยงาน จาก Job Description

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ Training Road Map จาก Job Description Step 2

ส่วนที่ 3 :  เทคนิคการจัดทำ Training Road Map จาก Work Instruction และ Procedureให้สอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์องค์กร

  • ขั้นตอนการจัดทำ Training Road Map จาก Work Instruction และ Procedure ให้เชื่อมโยงเป้าหมายและกลยุทธ์องค์กร

  • ตัวอย่าง แบบฟอร์มการวิเคราะห์หา Job Competency จาก WI และ Procedure

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ Training Road Map จาก Work Instruction และ Procedure

ส่วนที่ 4 :  เทคนิคการบูรณาการ Training Road Map จาก Job Description, Work Instruction และ Procedure เป็นแผนพัฒนาบุคลากรฉบับเดียวกันให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร

  • เทคนิคการบูรณาการ Training Road Map จาก Job Description, Work Instruction และ Procedure เป็นแผนพัฒนาบุคลากรฉบับเดียวกันให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติบูรณาการ Training Road Map จาก Job Description, Work Instruction และ Procedure

ส่วนที่ 5 :  เทคนิคการเชื่อมโยง Training Road Map สู่แผนพัฒนาความสามารถรายบุคคล (Individual Development Plan : IDP)

  • เทคนิคการเชื่อมโยง Training Road Map สู่ แผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan : IDP)

  • ตัวอย่าง การนำ Competency Gap มาจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (IDP) 

ส่วนที่ 6 : เทคนิคการเชื่อมโยง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถประจำปี (Performance Appraisal base on Competency)

  • การเชื่อมโยง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมิน Competency

  • ตัวอย่าง แบบประเมิน Competency ประจำปีแบบ 4 ระดับความสามารถที่วัดผลได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม

ส่วนที่ 7 :  เทคนิคการเชื่อมโยง Training Road Map สู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) และแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan)

  • การเชื่อมโยง Training Road Map สู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) และแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan)

  • ตัวอย่าง การเชื่อมโยง Training Road Map สู่ Career Path Model

  • ตัวอย่าง การเชื่อมโยง Training Road Map สู่แผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) 

ผู้ที่ควรเข้ารับการอบรม :

เจ้าของกิจการ ผู้บริหารและหัวหน้าแผนกทุกฝ่ายงาน ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้าแผนกฝึกอบรม และผู้สนใจ

***มอบวุฒิบัตรการฝึกอบรม (Certificate)

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย (Lecture) ผ่าน Zoom ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) 

  • การแชร์ Case ประสบการณ์ตรง

  • การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) และการระดมความคิด (Brain Stroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

  • การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลจากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษ HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย 

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME) : 

รุ่นที่  25  วันที่  11  พฤษภาคม  2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

สถานที่อบรม (VENUE) : 

ค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะการเขียนจดหมายธุรกิจและราชการ (ภาษาไทย) อบรม 28 มี.ค.65

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะการเขียนจดหมายธุรกิจและราชการ (ภาษาไทย) อบรม 28 มี.ค.65

นักสื่อสารไม่ว่าจะเป็นนักบริหาร เลขานุการ ทีมนักขาย ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ จำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิควิธีและฝึกปฏิบัติการสื่อสารในการเข้าถึงผู้รับสารด้วยการสื่อสารทางด้านการเขียนไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเชิงธุรกิจ หรือติดต่อราชการ รวมถึงเอกสารอื่นๆ อย่างเป็นระบบ และเคล็ดลับอื่นๆ เพื่อสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเองในการทำงาน
        ด้วยเหตุผลดังกล่าว หลักสูตรนี้จึงได้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักสื่อสารเพื่อการติดต่อประสานงานทั้งเชิงธุรกิจและราชการ

วัตถุประสงค์

  1.  เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องหลักการและเทคนิคการสื่อสารด้านการเขียน อย่างมีประสิทธิภาพ

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนเชิงทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล

หัวข้อการสัมมนา

  1. เป้าหมายการสื่อด้าน “การเขียน” และความสำคัญ

  2. มาตรฐาน/องค์ประกอบการเขียนเชิงธุรกิจ /ราชการ

  3. การใช้คำศัพท์  และ สำนวน

  4. การใช้คำเชื่อม “คำ” และ “วรรค”

  5. การใช้สรรพนาม

  6. กลยุทธการเป็น “นักเขียนที่ดี”

  7. ขั้นตอนในการฝึก

  8. หลัก “โครงสร้าง” และ “ตรวจทานครบ 5Cs”

  9. การยึดหลักการเขียนด้วย “กระบวนการ” ประกอบเทคนิค “Information Mapping”

  10. การวิเคราะห์รูปแบบ

– “จดหมายธุรกิจ”

– “จดหมายราชการ”

  1. แบ่งกลุ่ม – ฝึกปฏิบัติกรณีศึกษา (Group Case Study) โดยใช้ “เรื่อง” จริงจากบทบาทหน้าที่ผู้เข้าอบรม

– การเขียน  รูปแบบ “จดหมายธุรกิจ

– การเขียน รูปแบบ “จดหมายราชการ”

– นำเสนอผลงานกลุ่ม

  1. ประเมินและวิเคราะห์ “องค์ประกอบ” ทีละกลุ่ม

– นำเสนอ และประเมินผลงานทีละกลุ่ม

  1. สรุป คำถาม / คำตอบ

วิทยากร  อาจารย์ประภาภรณ์   พนัสพรประสิทธิ์  วิทยากรดีเด่น ปี 2560 สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น

อดีต เลขานุการฝ่ายจัดการและผู้จัดการฝ่ายบริหารทั่วไป บริษัท อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัด (มหาชน), เลขานุการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด, เลขานุการผู้จัดการฝ่ายบุคคล บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบัน อาจารย์และวิทยากรอิสระในมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำต่างๆ, ผู้เขียนหนังสือ “ความสุขที่แท้จริงของอาชีพเลขานุการ”  และหนังสือ  “ศักยภาพการบริหารงานธุรการแบบครบวงจร

 

Public /ONSITE

ราคาท่านละ 3,500 บาท (ไม่รวม VAT)

โปรโมชั่น

ลงทะเบียนพร้อมกัน 3 ท่าน เหลือ ท่านละ 2,900

ฟรีเอกสารประกอบการอบรม อาหารว่าง มื้อ และอาหารกลางวัน

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรม Novotel Bangkok  Sukhumvit 20  ห้องอบรมสวย บริการดีที่นี่ 

โรงเเรม Novotel Bangkok Sukhumvit 20 ลง สถานี BTS อโศก  ทางออกประตู 6

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

 

Public Training หลักสูตร การบริหารและพัฒนา Competency ให้สอดคล้องกับทิศทางองค์กร รุ่นที่ 18 (Competency Management and Development) : 21 พฤศจิกายน 2565

Public Training หลักสูตร การบริหารและพัฒนา Competency ให้สอดคล้องกับทิศทางองค์กร รุ่นที่ 18 (Competency Management and Development) : 21 พฤศจิกายน 2565

 

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

โรงแรมเซนต์เจมส์ สุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ ติด BTS เดินทางสดวกค่ะ

 

โลกธุรกิจการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา เครื่องมือในการบริหารจัดการก็มีการเปลี่ยนแปลง จะเห็นได้จากองค์กรชั้นนำทั้ง องค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ต่างก็นำ Competency มาเป็นเครื่องมือ      ในการพัฒนาองค์กร (Organnization Development) ในการเพิ่มประสิทธิภาพในบริหารจัดการองค์กรให้สอดคล้องกับทิศทางองค์กร

หลายองค์กรยังประสบกับอุปสรรคในการนำ Competency ไปใช้งาน อาทิเช่น

  • บุคลากรส่วนใหญ่ไม่มีพื้นความรู้หรือขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ Competency

  • ไม่รู้จะวิเคราะห์หาและกำหนด Competency อย่างไรดี

  • บุคลากรที่มีความรู้เรื่อง Competency ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไรดี ?

  • บางหน่วยงานอาจมีการดำเนินการแล้ว แต่ Competency ที่มียังเน้นแต่พฤติกรรมที่วัดและจับต้องได้ยาก ไม่สอดคล้องกับงานหน้างาน หรือสิ่งที่องค์กรคาดหวัง

  • มี Competency ฉบับ Dictionary แล้ว แต่มีไว้โชว์ ไม่ได้มีไว้ใช้งาน ไม่รู้ว่าจะนำไปใช้งานได้อย่างไร ?

  • Competency ที่ได้ก็ไม่รู้จะเชื่อมโยงไปสู่การประเมินเพื่อพัฒนา หรือการประเมินผลประจำปี หรือเชื่อมโยงกับ Career Path และ Succession Plan อย่างไรดี ?  

  • หลักสูตรฝึกอบรมนี้สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ของวิทยากรและที่ปรึกษาในการนำ Competency มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและพัฒนาบุคลากร ที่จะช่วยให้องค์กรของท่านสามารถกำหนด และนำ Competency      ใช้งานได้อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาธุรกิจองค์กรของท่าน ในรูปแบบการเรียนรู้  ที่กระชับ เข้าใจง่าย และปรับใช้งานได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมตัวอย่าง และแบบฟอร์ม โดยที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่จำเป็นต้องมีความรู้มาก่อน 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. สามารถอธิบายแนวคิด หลักการ และภาพรวมของ Competency ในการพัฒนาบุคลากรและพัฒนาองค์กรทั้งกระบวนการ

  2. สร้างความตระหนักถึงประโยชน์ของการนำ Competency  ไปใช้เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนาองค์กร

  3. สามารถกำหนดและทบทวน Core Competency ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจ  ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. สามารถกำหนด Managerial Competency ที่คาดหวังให้สอดคล้องเหมาะสมองค์กรและระดับตำแหน่งงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. สามารถกำหนด Functional Competency ให้สอดคล้องกับ Procedure และ Work Instruction ได้อย่างเป็นรูปธรรม

  6. เสริมสร้างเทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

  7. เสริมสร้างเทคนิคการจัดทำแผนพัฒนา Competency ด้วย Training Road Map ได้อย่างเป็นรูปธรรม

  8. เสริมสร้างเทคนิคการจัดทำ Competency ด้วยแผนพัฒนารายบุคคล (IDP) ได้อย่างเป็นรูปธรรม

  9. เสริมสร้างเทคนิคการนำ Competency ไปประเมินผลขีดความสามารถประจำปีได้อย่างเป็นรูปธรรม

  10. เสริมสร้างเทคนิคการนำ Competency ไปการจัดทำ Career Path Criteria ได้อย่างเป็นรูปธรรม

  11. เสริมสร้างเทคนิคการนำ Competency ไปการจัดทำ Succession Plan ได้อย่างเป็นรูปธรรม

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ : 

ส่วนที่  1  :  ภาพรวมของ Competency Management และ Competency Development

  • รหัสลับของ ISO 9001 และ IATF 16949 เกี่ยวกับ Competence

  • ความหมายและองค์ประกอบของ Competency

  • ประเภท และเครื่องมือในการกำหนด Competency

  • ประโยชน์ของการนำระบบ Competency ไปใช้ในการบริหารจัดการองค์กร

ส่วนที่  2  :  การกำหนด Level  Competency ที่คาดหวังแบบ 5 ระดับพฤติกรรม กับแบบ 4 ระดับความสามารถ  ยุคใหม่ ในการประเมินหา Competency Gap

  • การกำหนด Level Competency ที่คาดหวังแบบ 5 ระดับพฤติกรรมตาม Competency Dictionary

  • การกำหนด Level Competency ที่คาดหวังแบบ 4 ระดับความสามารถ (รู้-พอทำได้-เก่ง-เก่งและถ่ายทอดได้)

  • Workshop 1 : เปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยการกำหนด Competency แบบ 5 ระดับพฤติกรรม กับ          แบบ 4 ระดับความสามารถยุคใหม่

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการกำหนดและทบทวนความสามารถหลักขององค์กร (Core Competency) จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) องค์กร

  • ขั้นตอนการวิเคราะห์และกำหนด Core Competency

  • เทคนิคและวิธีการกำหนดและทบทวน Core Competency ให้สอดคล้องกับทิศทางองค์กร จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) องค์กร

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนด/ทบทวน Core Competency ให้สอดคล้องกับทิศทางองค์กร จากวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission)

ส่วนที่  4  :  เทคนิคการกำหนดความสามารถทางการบริหาร (Managerial Competency) 

  • ขั้นตอนการวิเคราะห์และกำหนด Managerial Competency

  • เทคนิคและวิธีการกำหนด/ทบทวน Managerial Competency ให้เหมาะสมกับองค์กรและระดับตำแหน่งงาน

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติกำหนด/ทบทวน Managerial Competency ของผู้บริหาร ผู้จัดการ และหัวหน้าแผนก

ส่วนที่  5  :  เทคนิคการกำหนดความสามารถเฉพาะด้าน (Functional Competency) จาก Procedure และ  Work Instruction

  • ขั้นตอนการวิเคราะห์และกำหนด Functional Competency

  • เทคนิคและวิธีการกำหนด/ทบทวน Functional Competency ให้เหมาะสมกับงาน ด้วย Procedure และ Work Instruction

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติกำหนด/ทบทวน Functional Competency จาก Procedure และ Work Instruction

ส่วนที่  6 : เทคนิคการสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานสมัยใหม่ด้วย Competency (Competency-based Interview and Selection : CIS)

  • การสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานสมัยใหม่ด้วย Competency

  • ตัวอย่างแบบประเมินผลการสัมภาษณ์และคัดเลือกด้วย Competency

ส่วนที่ 7 : เทคนิคการนำ Competency ไปจัดทำเส้นทางการพัฒนาบุคลากร (Competency-based Training Road Map : CTRM)

  • การนำ Competency ไปจัดทำเส้นทางการพัฒนาบุคลากร (Training Road Map)

  • ตัวอย่างการจัดทำ Training Road Map

ส่วนที่ 8 : เทคนิคการนำ Competency ไปจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (Competency-based Individual Development Plan : CIDP)

  • การนำ Competency ไปจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (IDP)

  • ตัวอย่างแผนพัฒนารายบุคคลแบบกลุ่มและแบบรายบุคคล

ส่วนที่ 9 : เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี (Competency-based Performance Appraisal : CPA)

  • การนำ Competency ไปประเมินขีดความสามารถประจำปี

  • ตัวอย่างแบบประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีด้วย Competency

ส่วนที่ 10: เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการส่งเสริมความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Competency-based Career Path : CCP)

  • การนำ Competency ไปจัดทำ Career Path Criteria

  • ตัวอย่างหลักเกณฑ์ของ Career Path บนพื้นฐาน Competency

ส่วนที่ 11 : เทคนิคการนำ Competency ไปใช้ในการจัดทำแผนสืบทอดตำแหน่ง (Competency-based Succession Plan : CSP)

  • การนำ Competency ไปจัดทำแผนสืบทอดตำแหน่งงาน (Succession Plan)

  • ตัวอย่างกระบวนการบริหารแผนสืบทอดตำแหน่งบนพื้นฐาน Competency

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย (Lecture) ผ่าน Zoom ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) 

  • การเล่า Case ประสบการณ์

  • การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop)เชิงปฏิบัติการการกำหนด Core Competency, Managerial Competency และ Functional Competency เพื่อนำไปปรับใช้งานในองค์กร

  • การแบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิด (Brain Strom) กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และการนำเสนอความคิดเห็น

  • การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหาร ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายประเมินผลการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ DCC และผู้สนใจทั่วไป

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ รุ่นที่ 21 (Modern Supervisory Skills) : 25 เมษายน 2565

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ รุ่นที่ 21 (Modern Supervisory Skills) : 25 เมษายน 2565

 

 

ราคา 2,500 บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมชั่น 

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

Reskills and Upskills ทั้ง Soft skills และ Hard Skills ที่ได้ทั้งแบบฟอร์ม เครื่องมือ เทคนิค และวิธีการในการบริหารคนและบริหารงาน

หากองค์กรของท่านยังประสบกับปัญหาหัวหน้างานเหล่านี้ ?

  • ผู้บริหารระดับต้น หรือหัวหน้างาน ไม่รู้บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตนในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

  • ผู้บริหารระดับต้น หรือหัวหน้างาน มีความชํานาญในงานที่ปฏิบัติ แต่ขาดทักษะการบริหารงานและบริหารคนเรียกว่า “เก่งแต่งานของตน แต่ไม่เก่งการบริหารงาน และการบริหารคน”

ผู้บริหารระดับต้นหรือหัวหน้างานนับว่าเป็นทรัพยากรบุคคลอันสําคัญยิ่ง ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้องค์กรประสบความสําเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การเป็นหัวหน้างานถ้าแค่แต่งตั้งคนที่ “ทำงานเก่งและขยัน” ใครก็เป็นได้ แต่การเป็นหัวหน้างานที่ดีมีประสิทธิภาพนั้น ต้องใช้ความรู้และทักษะในด้านการบริหารงาน และการบริหารคน เพราะหัวหน้าต้องรับผิดชอบทั้งเป้าหมายของตนเอง (Individual KPIs) และเชื่อมโยงนโยบายและเป้าหมายขององค์กรไปสู่การปฏิบัติงานจริง   จึงมีความเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาทักษะ “หัวหน้างานยุคใหม่ให้เก่งทั้ง การบริหารงานให้เพิ่มผล และเก่งทั้งการบริหารคนให้เพิ่มค่า” เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร (Competitive Advantage)

จากหลักสูตร In-house Training ยอดนิยมของสถาบันฯ  ได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่ จากประสบการณ์ในการพัฒนาขีดความสามารถทางการบริหาร (Managerial Competency) และโปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development Program) ของผู้บริหารระดับต้นและหัวหน้างานองค์กรธุรกิจชั้นนำมากลั่นกรองและถ่ายทอด “แบบกระชับ เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง” ที่จะช่วยให้ท่านและหัวหน้าในองค์กรของท่านมีความรู้ความเข้าใจ ในบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง และมีความสามารถรอบด้านสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร 

วัตถุประสงค์ของการอบรม : เพื่อให้ผุ้เข้ารับการอบรม

  1. สามารถอธิบาย บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ และเทคนิคการบริหารของหัวหน้างานยุคใหม่ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำงานได้

  2. เสริมสร้างทักษะการบริหารคนให้งานได้ผลคนได้ใจ สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ เพื่อความสำเร็จของหน่วยงานและตนเอง

  3. สามารถวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการบริหารและปกครองลูกน้องได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  4. สามารถกำหนดแนวทางการสร้างความรักและความผูกพันได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  5. เสริมสร้างทักษะการบริหารงานให้งานได้ผลคนได้ใจ สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ในการสร้างความสำเร็จของหน่วยงานและตนเอง

  6. สามารถจัดทำแผนปฏิบัติงานยุคใหม่ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

  7. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการบริหารงานและบริหารคน ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

หัวข้อสำคัญของการอบรม (Course Outline) : 

ส่วนที่  1  :  ทักษะการเป็นผู้นำในการบริหารทีมงานให้อยากทำงาน (Leadership and Teamwork Skill)

  • 5 บทบาท 13 หน้าที่ และ 5 ความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะผู้บริหารระดับต้นขององค์กร

  • “รู้เรา” จิตวิทยาการบริหารสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • “รู้เขา” จิตวิทยาการบริหารสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์การบริหารและปกครองลูกน้อง 4 เซียน แบบรู้เขา-รู้เรา 

  • บทบาทของผู้นำแบบ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ในการบริหารทีมงานให้คนอยากทำงาน

ส่วนที่  2  :  ทักษะการสื่อสารระหว่างหัวหน้างานและพนักงานที่มีประสิทธิผล (Effective Communication and Coordination Skills) 

  • การสื่อสารระหว่างบุคคลอย่างมีประสิทธิผล (Interpersonal Communication)

  • แนวทางการสื่อสารประสานงานในการสร้างความสำเร็จในการทำงาน ด้วยประตูใจ…แบบสานสัมพันธ์ (Positive Communication)

  • แนวทางการสื่อสารกับทีมงานแต่ละ Generation

ส่วนที่  3  :  ทักษะการจูงใจทีมงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความสำเร็จในการทำงาน (Positive Motivation Skills)

  • พื้นฐานความต้องการและความคาดหวังของ “มนุษย์เงินเดือน”

  • จูงใจ (Motivation) อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ?

  • 8 เทคนิคการจูงใจที่น่าสนใจ สำหรับผู้นำในองค์กร

ส่วนที่  4  :  ทักษะการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Skills)

  • 4 ความรักที่เสริมสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสร้างความรักและความผูกพัน 4 ประเภท ในองค์กร

  • 10 เทคนิคของหัวหน้างานยุคใหม่ในการสร้างบรรยากาศความผูกพันต่อองค์กร

  • แนวทางการบริหารความขัดแย้งภายในทีมงาน (Conflict Management)

ส่วนที่  5  :  ทักษะการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงาน (Goal Setting and Planning Skills)

  • การกำหนดเป้าหมายในการทำงานด้วย KPI กับประเภทของแผนงานตามระดับของการจัดการ

  • กุญแจทอง 3 ดอกของการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • กระบวนการจัดทำแผนปฏิบัติงานแบบ PDCA

  • Workshop  3 : ฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Effective Action Plan) สำหรับหัวหน้างานยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับเป้าหมาย

  • 4 แผนปฏิบัติงานที่ผู้บริหารและหัวหน้างานต้องจัดทำ 

ส่วนที่  6  :  ทักษะการสอนและพัฒนางาน (Coaching and Development Skills)

  •  การวิเคราะห์ขีดความสามารถ (Competency) หรือ Skill ลูกน้องก่อนการ OJT และ Coaching

  • 13 กรณีที่ต้องหัวหน้าจำเป็นพัฒนาลูกน้อง

  • Tactic ของการ OJT ที่มีประสิทธิภาพ

  • การพัฒนาทีมงาน ด้วย Training Road Map / Training Matrix 

ส่วนที่  7  :  ทักษะการสั่งงาน มอบหมายงาน และติดตามงาน (Directing, Delegation and Follow up Skills)

  • กระบวนการสั่งงานและติดตามงานอย่างประสิทธิผล (Effective Directing and Follow up)

  • เทคนิคการสั่งงานสำหรับหัวหน้างานยุคใหม่

  • 10 เทคนิคในการควบคุมและติดตามงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Follow up)

  • Workshop 4 : Case Study การสั่งงาน มอบหมาย และติดตามงาน 

ส่วนที่  8  :  ทักษะการปรับปรุงงาน เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน (Work Improvement Skills)

  • ขั้นตอนการปรับปรุงงาน (Work Improvement Process)

  • เทคนิคการปรับปรุงงาน ด้วยข้อเสนอแนะ (Kaizen)

  • เทคนิคการปรับปรุงการประสานงานภายในองค์กรด้วย Red Tag

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน และผู้ที่กำลังจะก้าวสู่ตำแหน่งระดับหัวหน้า

***มอบวุฒิบัตรการฝึกอบรม (Certificate)

รูปแบบ/วิธีการการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย (Lecture) ผ่าน Zoom 

  • การแชร์ Case ประสบการณ์ตรง

  • การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) และการระดมความคิด (Brain Stroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

  • การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME) : 

รุ่นที่  21  วันที่  25  เมษายน  2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

สถานที่อบรม (VENUE) : 

อัตราค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

http://www.tesstraining.com

Online Zoom เทคนิคการสื่อสารและประสานงานให้งานได้ผลคนก็ได้ใจ รุ่นที่ 4 (Effective Communication and Coordinate Techniques) : รุ่นที่ 29 เมษายน 2565

Online Zoom เทคนิคการสื่อสารและประสานงานให้งานได้ผลคนก็ได้ใจ รุ่นที่ 4 (Effective Communication and Coordinate Techniques) :

เปิดอบรม 29 เมษายน 2565

เปิดอบรม 7 กรกฎาคม 2565

 

ราคา 2,500 บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมชั่น 

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

อย่าปักหมุดความคิดผิดคิดว่าการสื่อสารประสานงานเป็นแค่ Soft Skill                 ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน และบุคลากรทุกคน ในองค์กรต้องใช้ “ศาสตร์และศิลป์” ทั้ง “Soft Skill และ Hard Skill ในการสื่อสารประสานงาน” ที่สร้างบรรยากาศการสื่อสาร ประสาน โน้มน้าว และเจรจาต่อรองให้มีประสิทธิภาพด้วยการ “วิเคราะห์ผู้อื่นออก บอกผู้อื่นได้ ประสานและใช้ผู้อื่นเป็น” ให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย (KPIs/OKRs) ที่กำหนดไว้

 

สิ่งที่จะได้รับจากการเรียนรู้

  1. สามารถอธิบาย หลักการ ขั้นตอน เทคนิค และวิธีการ ในการสื่อสารให้งานได้ผลคนได้ใจ และ ประสานงานให้ผู้อื่นเข้าใจ ยอมรับ และปฏิบัติตามได้

  2. สามารถวิเคราะห์บุคลิกลักษณะและสไตล์การทำงานของผู้อื่น (DISC) และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ในการเตรียมการสื่อสารประสานงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. เสริมสร้างและพัฒนาเทคนิคการเข้าถึงผู้อื่นด้วยการยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นให้การสื่อสารประสานงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

  4. สามารถพัฒนาการสื่อสารและประสานงานให้เหมาะสมการทำงานกับบุคลิกลักษณะและสไตล์การทำงานของคนแต่ละประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน เป็นรูปธรรม

  5. สามารถเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุม ให้เหมาะกับสถานการณ์และสารที่จะสื่อ และบริหารการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน เป็นรูปธรรม

  6. เสริมสร้างและพัฒนาเทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวใจอย่างมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น

  7. เสริมสร้างและพัฒนากลยุทธการสื่อสารประสานงาน และเจรจาต่อรอง ให้งานบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  8. สามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปปรับใช้ในการสื่อสารและประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการอบรม

 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้

ส่วนที่  1  :  สื่อสารอย่างไรให้งานได้ผลคนได้ใจ (Effective Communication)

  • หลักการการสื่อสารขั้นเทพ “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา”ที่ทำให้งานได้ผลคนได้ใจ

  • ช่องทางการติดต่อสื่อสาร (Channel of Communication)

  • ขั้นตอนสำคัญของการสื่อสาร (Communication Process) ให้งานสำเร็จดังใจหวัง

ส่วนที่  2  :  ประสานงานอย่างไรให้ผู้อื่น “เข้าใจ ยอมรับ และปฏิบัติตาม” (Effective Coordination)

  • 5 องค์ประกอบของการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เทคนิคการสร้างเครือข่ายการประสานงานภายในองค์กร

  • แนวทางและวิธีการสื่อสารประสานงานกับผู้บังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ

  • แนวทางและวิธีการการสื่อสารประสานงานกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ

  • แนวทางและวิธีการการสื่อสารประสานงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  3  : เทคนิค “การเข้าใจผู้อื่น” ก่อนการสื่อสารประสานงาน ด้วยการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะ (DISC Personality Analysis)

  • การให้คุณค่าในความแตกต่างของคน (Value the Difference) เคล็ดของการสื่อสารที่ทรงอานุภาพ

  • แนวทางการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคน เพื่อมองคนให้ออก บอกคนให้ได้ และใช้คนเป็น ด้วย DISC Personality Analysis

  • ตัวอย่างที่ 1 : แบบฟอร์มการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคน

  • Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์บุคลิกลักษณะ และสไตล์การทำงานของตนเองและผู้อื่น

ส่วนที่  4  : เทคนิค “การเข้าถึงผู้อื่น” ด้วยการยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น

  • สื่อสารแบบ Positive Communication ให้ได้รับการยอมรับ และความร่วมมือในการทำงาน

  • 11 วิธีการสร้างบรรยากาศการสื่อสารดีๆ ด้วยตนเอง

  • 5 คำพูดที่ทรงพลังในการสื่อสารและประสานงาน เพื่อความสำเร็จในการทำงาน

ส่วนที่  5  : เทคนิค “การพัฒนาการสื่อสารและประสานงาน” ในการทำงานกับคนแต่ละประเภท (Communication & Coordination Development Techniques)

  • “ฟัง-คิด-สื่อสาร” หัวใจสำคัญของการสื่อสาร

  • เทคนิคการสื่อสารการทำงานให้เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะคนทั้ง 4 ประเภท (DISC)

  • เทคนิคการสื่อสารการทำงานให้เหมาะสมกับคนทั้ง 4 พฤติกรรมการทำงาน (STAR – NATO – NGO – DEAD WOOD)

  • ตัวอย่างที่ 2 : แบบฟอร์มวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการสื่อสารประสานงานกับผู้อื่น

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสื่อสารประสานงานให้หมาะสมกับบุคลิกลักษณะ และสไตล์การทำงาน

ส่วนที่  6 :  เทคนิคการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการสื่อสารด้วยการประชุม ให้เหมาะกับ “สถานการณ์ และสารที่จะสื่อ” (Effective Meeting Management)

  • แนวทางที่ 1 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมให้ความรู้หรือข้อเท็จจริง

  • แนวทางที่ 2 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมโน้มน้าวใจ

  • แนวทางที่ 3 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมแก้ไขปัญาและตัดสินใจ

  • แนวทางที่ 4 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมแนะนำและชี้แนะเรื่องต่างๆ

  • ตัวอย่างที่ 3 : แบบฟอร์มการวิเคราะห์และเลือกใช้วิธีการประชุมให้เหมาะสมกับประเด็นและสถานการณ์ที่จะสื่อสาร

  • บริหารการประชุมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเราต้อง Lead การประชุม (Meeting Management)

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสื่อสารด้วยการประชุมให้เหมาะกับ สถานการณ์และสารที่จะสื่อ

ส่วนที่  7  :  เทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวอย่างมีประสิทธิผล (Effective Influencing Communication Techniques)

  • หลักการสื่อสารโน้มน้าวผู้อื่น

  • 5 เทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวผู้อื่นอย่างมีประสิทธิผล

  • แนวทางการสื่อสารโน้มน้าวแบบเปิดใจ

ส่วนที่  8 :  กลยุทธการสื่อสารประสานงาน และเจรจาต่อรอง ต่อรอง แก้ไขปัญหาการทำงานระหว่างหน่วยงานให้งานบรรลุเป้าหมาย

  • กลยุทธในการสื่อสารประสานงานให้งานมีประสิทธิผล

  • เคล็ด (ไม่) ลับการสื่อสาร สำหรับผู้จัดการและหัวหน้างานมืออาชีพที่ทีมงานคาดหวัง

  • หลักการเจรจาต่อรองในการสื่อสารประสานงานในองค์กร

  • กลยุทธ์การสื่อสารเจรจาต่อรองในการทำงานระหว่างหน่วยงาน

  • ตัวอย่างที่ 4 : แบบฟอร์ม MOU ในการเจรจาต่อรองแก้ไขปัญหาการทำงานระหว่างหน่วยงาน

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

บุคลากรทุกคนที่ต้องสื่อสารและประสานงาน

 

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้

o  การบรรยาย (Lecture)  ผ่าน Zoom แบบ Adult Learning

o  การทำ Workshop เชิงปฏิบัติการ

o  การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อเสริมสร้างความรู้เข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

 

วันและเวลาสัมมนา  :

รุ่นที่  4  วันที่  6  เมษายน 2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

สถานที่สัมมนา : 

 

ค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

http://www.tesstraining.com