ยืนยัน หลักสูตร Finance for Marketing 26 ก.ค.62

ยืนยัน หลักสูตร Finance for Marketing 26 ก.ค.62

หลักการและเหตุผล

จะเป็นผู้บริหารมีความรู้และทักษะในการบริหารให้คนทำงานอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีความเข้าใจในเนื่องการเงินด้วย ฉะนั้นต้องอาศัยข้อมูลทางการเงิน เช่น การวิเคราะห์งบการเงิน เพื่อตัดสินใจในการลงทุน การจัดการหาแหล่งทุนที่เหมาะสม โดยหลักสูตร  Finance for Marketing มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาการบริหารการเงินให้แก่เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเพื่อสร้างความเข้าใจในบริบทให้สอดคล้องภายใต้ภาพการจัดการและการวางแผนให้เหมาะให้ตรงกับเป้าหมายขององค์กร และการจัดทำแผนปฏิบัติการขององค์กร เป็นการเขียนในเรื่องของการวางแผนการดำเนินการอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และแผนการปฏิบัติการต้องตอบสนองหรือสอคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร (Strategic Action Plan) การนำแผนการไปปฏิบัตินั้นจะต้องมีการทบทวน การประเมินผลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพจากการทรัพยากร

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับใคร

  1. เจ้าของกิจการ
  2. ฝ่ายการตลาด
  3. บุคคลที่มีความสนใจ

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจในเรื่องของการเงินเพื่อสนองต่อเป้าหมายขององค์กร
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงิน เพื่อตัดสินใจในเรื่องของการลงทุนด้านวางแผนการตลาด

หัวข้อการเรียนรู้

  • เรียนรู้วัตถุประสงค์ขององค์กร ผ่านเครื่องมือธุรกิจ (Business Model Canvas)
  • เรียนรู้งบการเงินแต่ละประเภท
  • การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน Ratio
  • สภาคคล่อง (Liquidity)
  • ประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ (Asset Management)
  • การบริหารหนี้สิน (Debt Management)
  • ความสามารถในการทำกำไร (Profitability)
  • ประเมินผลทางธุรกิจ (Market Value)
  • Workshop กิจกรรมกลุ่ม วิเคราะห์งบเพื่อสำรวจการเติบโตขององค์กรสำหรับการวางแผนทางการตลาด
  • การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break Event Point)
  • วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก (External Environment)โดยใช้ PETS Model
  • สภาวะแวดล้อมในการแข่งขัน (Competitive Environment) : Porter’s 5 forces
  • วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน (Internal Environment) 7S Model เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์
  • วิเคราะห์สินค้าและบริการผ่านวงจรผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle)
  • วิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนเกี่ยวกับการตลาดโดยใช้ BCG Matrix
  • การวิเคราะห์สถานการผ่านการใช้เครื่องมือ IFAS, EFAS, SFAS (การวิเคราะห์ตัวเลขจากตาราง และนำผลนั้นไปจัดทำแผน)
  • การจัดทำกลยุทธ์ผ่าน TOWS Matrix (จากจุดแข็ง,จุดอ่อน,โอกาส และอุปสรรค)
  • การวิเคราะห์สถานการผ่านการใช้เครื่องมือ IFAS, EFAS, SFAS (การวิเคราะห์ตัวเลขจากตาราง และนำผลนั้นไปจัดทำแผน)
  • Workshop โดยให้แต่ละกลุ่มสามารถจัดทำแผนงานตามขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือการประเมินผลผ่าน BSC หรือการวัด 4 ด้าน Financial, Customer, Internal Process, Learning & Growth เป็นต้น

รูปแบบการเรียนรู้

  • การบรรยาย การสาธิต  กิจกรรมการเรียนรู้  และ การอภิปรายกลุ่ม

ระยะเวลาในการจัดฝึกอบรม        

1 วัน

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ยืนยัน หลักสูตร TRAIN THE TRAINER 21 พฤศจิกายน 2562

ยืนยัน หลักสูตร TRAIN THE TRAINER 21 พฤศจิกายน 2562

หลักการเเละเหตุ

หลักสูตรสร้างวิทยากรมืออาชีพนี้ เป็นหลักสูตรในการสร้างวิทยากรในองค์กร ให้สามารถถ่ายทอดงานเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการทำงานโดนเน้นหลักการในการนำเสนอ และศิลปะการพูดต่อหน้าชุมชน จนถึงการพัฒนาบุคลิกภาพในระหว่างการพูด และเทคนิคการเขียนหลักสูตร จนสามารถก่อให้เกิดผลสำเร็จ ในการพูดแต่ละครั้ง โดยเน้นการให้ความรุ้ ตัวอย่าง และการปฏิบัติจริงของผู้เข้าร่วมเข้าร่วมรับการอบรม

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับทักษะพื้นฐานในการเป็นวิทยากร
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการพูดหน้าชุมชน และสร้างบุคลิกภาพในการพูดให้มีประสิทธิภาพ
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรม สามารถนำความรู้ความเข้าใจมาปฏิบัติงานได้จริง อย่างมีประสิทธิภาพ
 หัวข้ออบรม

เป้าหมายการเป็นวิทยากร

– หลักการของการเป็นวิทยากรที่ดี

– วิทยากรเบื้องต้นสู่ความเป็นมืออาชีพในการนำเสนอ

การเตรียมความพร้อมสู่การถ่ายทอด

– 4 ข้อของการเตรียมความพร้อมก่อนการขึ้นบรรยาย

– การเตรียมใจสู่การบรรยาย การเผชิญสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

          พักเบรก

หลักของการนำเสนอ

– การเตรียมข้อมูลในการบรรยายและประสบการณ์เชิงถ่ายทอด

– การวางแผนหลักสูตรการสอนให้เข้าใจง่าย

– เทคนิคการเปิดใจให้ทุกคนพร้อมเรียนรู้ด้วยการกำหนดกิจกรรม

พักกลางวัน

การใช้น้ำเสียงในแต่ละสถานการณ์

การนำเสนอที่ดีและเป็นมืออาชีพ

ขั้นตอนในการบรรยาย 4 ช่วงเวลา

การสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับฟัง

เทคนิคการจบการบรรยายอย่างได้ใจ

พักเบรก

เทคนิคการสร้างความเข้าใจ 3 รูปแบบ

ทดสอบประเมินผลรายบุคคล

หากผ่านจะได้รับใบประกาศทันที

อาจารย์ประกาศิต สพกฤษ์ศรี

ราคาเพียงท่านละ 3,900 บาท

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : 098-8209929

 

Public Training  เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร INCOTERMS ® 2020 (ข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ) 8 เม.ย.65

Public Training  เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร INCOTERMS ® 2020 (ข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ) 8 เม.ย.65

โรงเเรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

ในINCOTERMS 2020มีเรื่องที่เปลี่ยนแปลงจากฉบับที่ประกาศใช้ในปี2010โดยมี1เทอมที่ทำการยกเลิก และมี1เทอมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ส่วนเทอมเก่าได้สร้างข้อกำหนดเพิ่มเติมชัดเจนขึ้น

จุดมุ่งหมายสำคัญคือการทำให้ครอบคลุม และง่ายต่อการปฏิบัติมากขึ้น เนื้อหาสำคัญเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขนส่ง และการประกันภัย กฏเกณฑ์เหล่านี้ได้รับการปรับปรุงให้ง่ายต่อการปฏิบัติ ทั้งนี้ยังมีการใช้ภาษาที่ทันสมัยซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กับการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน

กฏเกณฑ์ใหม่ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำการค้าระหว่างประเทศ ในทุกตำแหน่งงานจำเป็นต้องศึกษา เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

 

เงื่อนไขการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ ในแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์การส่งมอบที่มีการเรียกคล้ายคลึงกันแต่ความหมายของแต่ละเงื่อนไขมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง และมีความเข้าใจไม่ตรงกัน สภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce-ICC) จึงได้ออกกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าที่เรียกว่า Incoterms เพื่อเป็นมาตรฐานให้ผู้ประกอบการส่งออก และนำเข้าได้เข้าใจถึงภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ทุก 10 ปี และตั้งแต่ปี คศ.2020 สภาหอการค้านานาชาติ (ICC) ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าใหม่ โดยมีการกำหนดเรื่องการส่งมอบใบตราส่งสินค้าทางเรือ และเอกสารการประกันภัยให้กับคู่ค้า รวมทั้งภาระความรับผิดชอบในการส่งมอบสินค้าของผู้ขาย และการรับสินค้าของผู้ซื้อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อลดข้อโต้แย้ง และความไม่เข้าใจจากกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าในปีเก่า ๆ ที่ผ่านมา

 

วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้เพื่อเป็นพื้นฐาน และแนวทางในการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน

  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจความหมาย ความเป็นมาและความสำคัญของข้อตกลงการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ (Incoterms ® 2020) ตามมาตรฐานสากลที่กำหนดโดยสภาหอการค้านานาชาติ

  3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงชนิดของเอกสารที่ต้องส่งมอบให้คู่สัญญาตามข้อกำหนดใน Incoterms ®2020

  4. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เข้าใจถึงวิธีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้รับการขนส่ง (Carrier) ผู้ขาย และผู้ซื้อ

  5. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจหลักการสำคัญของ Incoterms ® 2020 ที่ใช้ในปัจจุบัน รวมถึงประโยชน์และข้อควรระวังในการใช้ Incoterms 2020 ของแต่ละข้อตกลงดังกล่าว

 

หัวข้ออบรม

ความหมายและความสำคัญของINCOTERMSต่อการค้า

ทำไมINTERNATIONAL CHAMBER OF COMMERCE(ICC),ต้องเปลี่ยนINCOTERMS 2010มาเป็นINCOTERMS 2020

เหตุผลในการยกเลิกDAT,ของINCOTERMS 2010

ใช้ เทอมอะไร มาแทน เทอมที่ยกเลิกแนวทางในการเลือกใช้ INCOTERMSที่เหมาะสม

INCOTERMS 2010แบ่งเป็น2กลุ่ม จาก11เทอม เปรียบเทียบกับINCOTERMS 2020ก็มี11เทอม แบ่งได้2กลุ่มเช่นกัน

มีเทอมอะไรบ้างในINCOTERMS 2020การใช้ควรระบุอย่างไรถึงจะสมบูรณ์

Incoterms ® 2020มี11เทอม อะไรบ้าง

ข้อควรระวังข้อบังคับในแต่ละเทอมนั้นขัดต่อกฏระเบียบของศุลกากรหรือไม่อย่างไร

ภาระหน้าที่ ของผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้ง11เทอมที่ต้องรับผิดชอบ

ค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงที่สำคัญสุด ในแต่ละข้อตกลงจนครบทั้ง11เทอม

Critical Pointsและการเจรจาต่อรองเพื่อลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยง

กฏระเบียบและภาระพิธีการศุลกากร เกียวข้องกับINCOTERMS

ภาระความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ มูลค่าเอาประกัน ในเทอมCIFและCIP

การใช้INCOTERMS Rulesในเอกสารทางการค้าระหว่างประเทศ

ตัวอย่างกรณีศึกษา/คำพิพากษาที่เกี่ยวกับINCOTERMS

ถาม – ตอบ

 

วิทยากร อาจารย์ มนตรี ยุวชาติ

การศึกษา:  ปริญญาตรี  Bachelor of Business Administration  (Bangkok University)

                     ปริญญาโท   Master of Business Administration

ตำแหน่งงานที่ผ่านมา:  เจ้าหน้าที่บริหาร Asst. Vice President บมจ. ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

        รับผิดชอบงาน

  • สำนักธุรกิจส่งออก-นำเข้า บมจ.ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

  • กำกับดูแล – ธุรกิจส่งออกและนำเข้า สำนักงานใหญ่

  • งานให้คำปรึกษาธุรกิจส่งออกและนำเข้า (Trade Advisory)

ตำแหน่งงานพิเศษ                ผู้ประนีประนอม

  • ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

  • ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

  • ศาลแพ่งพระโขนง

  • ศาลอาญาพระโขนง

ประสบการณ์การบรรยายมากกว่า 30 ปี

เคยเป็นผู้บรรยายพิเศษ

       –       จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรปริญญาโท คณะนิติศาสตร์)

  • สถาบันการบินพลเรือน (หลักสูตรปริญญาโท)

  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม

  • สถาบันเทคโนโลยี่ไทย-ญี่ปุ่น

เคยเป็นวิทยากรพิเศษ

–       บมจ. ธนาคารกรุงเทพ ได้รับรางวัลวิทยากรดีเด่นด้านความสามารถในการสอนดีเด่น

 

 

 

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

 

ค่าอบรมสัมมนา

ท่านละ 3,500 บาท

สมัครอบรม 5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2900 เข้าอบรมได้ 6 ท่าน

 

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

สถานที่จัด ศูนย์ประชุม-สัมมนา-เดอะคอนเน็คชั่นลาดพร้าว

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

www.tesstraining.com

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

ยืนยัน หลักสูตร การออกแบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน ที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร/หน่วยงาน (Effective Performance Appraisal) (21 มิ.ย.62)

ยืนยัน หลักสูตร การออกแบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน ที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร/หน่วยงาน (Effective Performance Appraisal) (21 มิ.ย.62)

การประเมินผลการปฏิบัติงาน เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับองค์กรใช้สำหรับการกำหนดและติดตามผลการปฏิบัติงานของพนักงานแต่ละตำแหน่ง  ช่วยในการปรับปรุงงาน วางแผนเพื่อการปรับปรุงพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร การจ่ายค่าตอบแทน และการปรับเลื่อนตำแหน่งหรือโยกย้ายบุคลากรไปสู่ตำแหน่งงานที่เหมาะสมอีกด้วย การประเมินผลการปฏิบัติงานที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี มักมีข้อติดขัดที่ไม่สามารถช่วยให้พนักงานสร้างผลงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ นโยบายและเป้าหมายของบริษัท หากองค์กรโดยเฉพาะองค์กรระดับ SME ต้องการออกแบบหรือปรับปรุงการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นระบบ รวมทั้งบริหารผลการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  หลักสูตรนี้ช่วยท่านได้

หัวข้อเรียนรู้ :  

 

ภาคเช้า (09.00-12.00 น.)

ความสำคัญและวัตถุประสงค์ของการประเมินผล                          การปฏิบัติงาน

บทบาทหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

องค์ประกอบที่ควรมีในแบบประเมินผลการปฏิบัติงาน

Þ เป้าหมายผลงาน

Þ ตัวชี้วัดผลสำเร็จของงาน

Þ สมรรถนะ (Competency)

Þ เกณฑ์การประเมินผล

Þ ส่วนประกอบอื่นที่ควรประเมิน 

ปัญหาของการประเมินผลการปฏิบัติงานที่มักพบ

เครื่องมือสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ธุรกิจ

ปัญหาและข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

เครื่องมือสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายธุรกิจ

ฝึกปฏิบัติการออกแบบเครื่องมือต่างๆ สำหรับการประเมินผลงาน

ภาคบ่าย (13.00-16.00 น.)

แนวทางปรับปรุงการประเมินผลการปฏิบัติงาน                         

Þ การกำหนดส่วนประกอบของแบบประเมินผลการปฏิบัติงาน

Þ การกำหนดและกระจายเป้าหมายผลงาน

Þ การกำหนดตัวชี้วัดผลสำเร็จของงาน (PIs & KPIs)

Þ การกำหนดสมรรถนะ (Competency) และ                                 เลือกใช้สมรรถนะแต่ละประเภทสำหรับการประเมินผล

Þ การกำหนดน้ำหนักองค์ประกอบการประเมินผล

Þ การกำหนดเกณฑ์การประเมินผล  

แนวทางการจัดทำ Action Plan เพื่อรองรับการประเมินผลงาน

ข้อเสนอในการยกระดับการประเมินผลไปสู่การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562

    เวลา 09.00-16.00 น. ที่โรงแรมโกลด์ ออร์คิด แบงคอก-แยกสุทธิสาร ถ.วิภาวดีรังสิต

วิธีการเรียนรู้ :

บรรยายอย่างย่อและซักถาม

อภิปรายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

กรณีตัวอย่างและแบบฟอร์ม

ฝึกปฏิบัติการพร้อมคำแนะนำ

กลุ่มเป้าหมาย :

    เจ้าของธุรกิจขนาด SME

HR Manager/Staff

เจ้าหน้าที่ HR  

ผู้สนใจทั่วไป

     

อ.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต

ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคลากร  

และระบบบริหารทรัพยากรบุคคล

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ราคาท่านละ 3,600 บาท

สมาชิก ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไป เข้าอบรมฟรีได้ 1 ท่าน

 

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : 0988209929

Facebook : tesstrainingpage

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

 

ยืนยัน หลักสูตร การประยุกต์ใช้ระบบตัวชี้วัด KPI 19 มิถุนายน 2562…

หลักการและเหตุผล

ธุรกิจในโลธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันจำเป็นต้องทราบถึงความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับตัวและเอาชนะปัจจัยภายนอกที่ถาโถมเข้ามาได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องมือหนึ่งซึ่งนิยมใช้เพื่อการนี้ คือ ตัวชี้วัดผลงานหลัก (Key Performance Indicator: KPI) เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวมีจุดเด่นหลายประการ อาทิเช่น ตัวชี้วัดผลงานหลักกำหนดขึ้นเป็นตัวเลขทำให้การสื่อสารเป้าหมายจากระดับบริหารสู่ระดับพนักงานกระทำได้ชัดเจน  จำนวนเป้าหมายหลักมีการกำหนดเงื่อนไขว่าจะต้องมีไม่มาก ทำให้องค์กรมีจุดเน้น (Focus) ที่ชัดเจน การลงทุนและการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งแต่ละองค์กรล้วนมีอยู่อย่างจำกัด จึงมีทิศทางและสามารถหวังผลได้อย่างแท้จริง
        ดังนั้น เพื่อให้องค์กรสามารถนำหลักการของการวัดผลงานด้วยตัวชี้วัดผลงานหลักมาใช้ประโยชน์เพื่อผลักดันให้พนักงานและองค์กรดำเนินการไปสู่เป้าหมายและทิศทางที่องค์กรคาดหวัง และสามารถเอาชนะการแข่งขันได้เหนือกว่าผู้อื่น จึงได้จัดอบรมหลักสูตรนี้ขึ้น

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการวัดผลงาน
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการวัดผลงานข้างต้นมาจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลักในระดับองค์กร ระดับทีมงาน และระดับพนักงานได้ด้วยตนเอง
  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงวิธีการนำตัวชี้วัดผลงานหลักไปใช้ประโยชน์ และสามารถป้องกันปัญหาจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้การใช้ตัวชี้วัดผลงานหลักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ ภายหลังจากการอบรมมีดังนี้

  1. บริษัทมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารเป้าหมายดังกล่าวให้พนักงานรับทราบได้โดยง่าย
  2. พนักงานในระดับต่างๆ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และรับทราบว่าการทำงานของตนมีส่วนช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างไร
  3. สร้างความเป็นธรรมในการทำงานให้กับพนักงานและมีส่วนช่วยจูงใจให้พนักงานทำงานในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

รูปแบบการอบรม   เน้นการบรรยาย การถาม-ตอบ และฝึกปฏิบัติ เพื่อให้สามารถจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลักในระดับองค์กร ระดับหน่วยงาน ระดับทีมงาน และระดับพนักงานได้ด้วยตนเอง รวมถึงแนะนำการนำไปใช้ประโยชน์ และข้อจำกัดของการนำไปใช้ประโยชน์ซึ่งอาจมีในอนาคต

เนื้อหาการอบรม

  1. ความจำเป็นที่ต้องมีการวัดผลงาน
  2. วิวัฒนาการของการวัดผลงาน และเครื่องมือที่ใช้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
  3. วิธีการตั้งเป้าหมายองค์กร
  4. วิธีการจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลักระดับองค์กร
  5. วิธีการถ่ายทอดตัวชี้วัดผลงานหลักสู่ระดับหน่วยงาน ทีมงาน และระดับบุคคล
  6. การฝึกปฏิบัติ
  7. การนำตัวชี้วัดผลงานหลักไปใช้ประโยชน์ในด้านการบริหารงานบุคคล
  8. ข้อควรระวังเมื่อมีการนำตัวชี้วัดผลงานหลักไปใช้ประโยชน์

ข้อแนะนำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด หากบริษัทต้องการจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลักในระดับองค์กร ผู้บริหารระดับสูงควรเข้าร่วมการอบรมและร่วมตัดสินใจในช่วงเวลาที่มีการอบรมในเรื่องนี้ ขณะที่ในระดับหน่วยงาน และระดับทีมงาน ผู้บริหารหน่วยงานและบุคลากรในฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ควรเข้าร่วมรับฟังและฝึกปฏิบัติตลอดหลักสูตร

ข้อมูลที่ควรเตรียมไว้ก่อนการอบรม (ถ้ามีส่วนไหนส่งให้วิทยากรช่วยดูก่อนได้ครับ)

  1. เป้าหมายและทิศทางบริษัท เช่น วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย นโยบาย เป็นต้น
  2. เป้าหมายและทิศทางในระดับหน่วยงาน เช่น คำบรรยายลักษณะงานระดับหน่วยงาน (Functional Description) หรือนโยบายในระดับหน่วยงาน เป็นต้น
  3. วิธีการประเมินผลงานในอดีต เช่น แบบฟอร์มการประเมินผลประจำปี เป็นต้น
  4. คำบรรยายลักษณะงานรายตำแหน่ง (Job Description)

วิทยากร   ดร. สันติชัย  อินทรอ่อน
            – ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) สาขารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

– รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารทรัพยากรมนุษย์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

– Ph.d. Candidate หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

           ประสบการณ์การทำงาน
–  ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจทรัพยากรบุคคลและที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท โกลบัล คอนเซิร์น จำกัด
– นักวิจัย สถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– ผู้ช่วยที่ปรึกษา บริษัท เอเชียแปซิฟิคคอนซัลแตนท์ จำกัด

ราคาเพียงท่านละ 3,900 บาท

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

สมาชิกโอนก่อน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไป เข้าอบรมฟรีได้ 1 ท่าน

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929,

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ยืนยัน หลักสูตร การจัดทำ 5ส เพื่อเพิ่มผลผลิต และปรับปรุงงาน ( 5S for Productivity & Improvement) (24 ต.ค.62)

ยืนยัน หลักสูตร การจัดทำ 5ส เพื่อเพิ่มผลผลิต และปรับปรุงงาน ( 5S for Productivity & Improvement) (24 ต.ค.62)

หลักการและเหตุผล (Introduction)

ในยุคของการแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  เป้าหมายของทุกองค์กรย่อมมุ่นเน้นไปที่ผลกำไร เพราะหากมีผลกำไรมากเท่าไหร่ย่อมส่งผลให้ธุรกิจนั้นอยู่รอดได้ แต่การพุ่งเป้าไปที่ยอดขายเพื่อให้ได้กำไรเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ ดังนั้นองค์กรจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินงานกิจกรรม 5ส การปรับปรุงงานด้วย Kaizen เพื่อพิ่มผลผลิตให้องค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินการ 5ส จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่จะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเกิดการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรม 5ส จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตของงานประกอบไปด้วย สะสาง สะดวก สะอาด สร้างมาตรฐาน และสร้างนิสัย ดังนั้นองค์กรต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีจิตสำนึกและตระหนักในการเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการกิจกรรม 5 ส  ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยเชื่อมโยงกับนโยบายของเป้าหมายขององค์กร เพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับองค์ได้อย่าง แลสามารถพัฒนาไปยังโครงการอื่นๆได้อีกไม่ว่าจะเป็น TQM,QCC เป็นต้น

วัตถุประสงค์ (Objective)

  1. เพื่อสร้างความเข้าใจและจัดทำกิจกรรม 5ส เพื่อเพิ่มผลผลิต และปรับปรุงการทำงานได้อย่างถูกต้องจามหลัก 5ส
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำเทคนิค และวิธีการในการทำกิจกรรม และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างคุณภาพของงานให้สอดคล้องกับเป้าประสงค์ขององค์กร

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)

  • บุคลากรทุกระดับ หัวหน้างาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)

  • กรอบแนวคิด 5 เพื่อเพิ่มผลิตภาพของงาน
  • หลักการ 5 ส กับการพัฒนางานเพื่อลดความสูญเปล่าในการทำงาน
  • ขั้นตอนในการจัดทำ 5ส เพื่อพัฒนาและปรับปรุงงาน
  1. ส 1 สะสาง
  2. ส 2 สะดวก
  3. ส 3 สะอาด
  4. ส 4 สร้างมาตรฐาน
  5. ส 5 สร้างนิสัย

Wokshop/กรณีศึกษาตัวอย่างจากบริษัทที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ

  • การจัดมาตรฐานสู่การปฏิบัติ
  1. มาตรฐานกลาง
    • เทคนิคการจัดทำมาตรฐานกลาง
    • การพัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะกับบริษัทฯ
  2. มาตรฐานพื้นที่
    • การจัดทำมาตรฐานการจัดเก็บ
    • การจัดทำมาตรฐานการใช้งาน
    • การจัดทำมาตรฐานบำรุงรักษา

Workshop ฝึกปฏิบัติการจัดทำมาตรฐาน 5ส

  • เทคนิคการตรวจประเมิน 5ส ให้ได้ทั้งใจและได้ทั้งงาน
    1. Self Audit
    2. Committee Audit
    3. Management Audit
  • แบบฟอร์มต่างๆที่ใช้ในการตรวจ

Workshop การตรวจประเมิน 5ส จากกรณีตัวอย่าง

 

ระยะเวลาการฝึกอบรม (Time)

  • 00-16.00 น.

รูปแบบการการอบรม (Methodology)

  • การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ( Adult Learning ) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้ทันที
  • การบรรยายแบบมีส่วนร่วมสื่อสาร 2 ทาง,Workshop ถาม-ตอบ

อาจารย์พลกฤต โสลาพากุล

ราคาเพียงท่านละ 3,900 บาท

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไป เข้าอบรมฟรีได้ 1 ท่าน

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

หลักสูตร การสร้างวิทยากรมืออาชีพ (Train the Professional ) (28 ส.ค.62)

หลักสูตร การสร้างวิทยากรมืออาชีพ (Train the Professional ) (28 ส.ค.62)

หลักการและเหตุผล (Introduction)

หลายคนมีประสบการณ์การทำงานยาวมานาน และมีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถสื่อสารหรือใช้ความรู้ที่สั่งสมมานั้นสอนผู้อื่นได้ หรือถ่ายทอดให้ผู้อื่นฟังหรือปฏิบัติตามได้ ความเชี่ยวชาญอันเกิดจากงานที่ทำแต่ไม่สามารถนำมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นนำไปใช้ ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากความรู้นั้นไม่ได้นำไปใช้คนรุ่นหลังนำไปปฏิบัติหรือปรับใช้เพื่อพัฒนาการทำงานได้

หลักสูตร การสร้างวิทยากรมืออาชีพ (Train the Professional ) จะมุ่งเน้นการถ่ายทอดทักษะที่สำคัญช่วยเพิ่มพูนความรู้อย่างถูกต้อง และสามารถช่วยพัฒนาให้เขาเหล่านั้นเป็นวิทยากรมืออาชีพ ช่วยเสริมสร้างทักษะการเขียนโครงร่างหลักสูตร การวางแผนการสอน รวมถึงการนำอุปกรณ์ต่างมาปรับช่วยในการสอน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

วัตถุประสงค์ (Objective)

  1. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเป็นวิทยากร แนวทางการพัฒนาศักยภาพตนเองที่จำเป็นต่อการเป็นวิทยากรมืออาชีพ
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิด (Mindset) การสร้างทักษะ(Skillset) ในการคิดค้นเพื่อสร้างหลักสูตรเพื่อใช้ในการเขียน Course Outline ในการสร้างหลบักสูตรเพื่อใช้ในการฝึกอบรมและพัฒนาตนเองให้เป็นวิทยากรอาชีพต่อไป
  3. เพื่อเรียนรู้ทักษะ การใช้อุปกรณ์ที่จำเป็นในการฝึกอบรม การสื่อสารที่จำเป็น การเสริมสร้างบุคลิกภาพที่เหมาะสมในการเป็นวิทยากรมืออาชีพ

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)

  • บุคคลที่ต้องการเป็นวิทยากรมืออาชีพ วิทยากรภายในองค์กร หรือผู้ที่สนใจ (รุ่นละไม่เกิน 12 คน)

เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)

วันที่แรก

  • กรอบแนวคิดของการเป็นวิทยากร
  • วิทยากร (Trainer คือใคร ?
  • บทบาทสำคัญของการเป็นวิทยากร
  • การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อสร้างความมั่นใจ
  • Work shop การสร้างบุคลิกสำหรับการเป็นวิทยากร
  • เรียนรู้เทคนิคการพูดและการสอนขั้นพื้นฐาน
  • สิ่งสำคัญที่วิทยากรต้องรู้
  • การสร้างโครงสร้างหลักสูตร ( Content & Context)
  • เทคนิคการทำ Slide ให้เป็นที่น่าสนใจ
  • การออกแบบหลักสูตร/เทคนิคการเขียนแผนการสอน
  • ทักษะส่วนบุคคล & ทักษะด้านกระบวนการ
  • การใช้สื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสอน

Work Shop  การเขียนหลักสูตร และการวางแผนการสอน

รูปแบบการการอบรม (Methodology)

  • การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ( Adult Learning ) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้ทันที
  • การบรรยายแบบมีส่วนร่วมสื่อสาร 2 ทาง,Workshop ถาม-ตอบ

อาจารย์พลกฤต โสลาพากุล

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,000 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไป เข้าอบรมฟรีได้ 1 ท่าน

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณสาลินี กุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Public Training ยืนยัน หลักสูตร การจัดทำระบบควบคุมสารปนเปื้อน (ROHS)ในผลิตภัณฑ์สำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ – ชิ้นส่วนไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ ( 20 ม.ค.65) อ.พิทักษ์ บุญชม

Public Training ยืนยัน หลักสูตร การจัดทำระบบควบคุมสารปนเปื้อน (ROHS)ในผลิตภัณฑ์สำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ – ชิ้นส่วนไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ ( 20 ม.ค.65) อ.พิทักษ์ บุญชม

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

หลักการและเหตุผลของหลักสูตร

เนื่องจากธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากเราต้องดำเนินการ Set up ระบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้สามารถทำการผลิตให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ทุกบริษัทฯ จะมองข้ามไม่ได้ คือ สินค้าต้องปราศจากสารปนเปื้อนที่เป็นพิษและส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ นั่นก็คือสารเคมีที่จัดอยู่ในจำพวกสารโลหะหนักนั่นเอง อาทิ เช่น โครเมียม แคดเมียม ปรอท ตะกั่ว และอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากถ้าผู้ประกอบการ ไม่มีความรู้ ความเข้าใจอย่างเพียงพอ เพราะนอกจากผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ว่าด้วยเรื่องการควบคุมสารปนเปื้อน คือ SOC / ELV / RoHs 1.0 / RoHs 2.0 / REACH Annex VI / XV / XIV / AVII / SVHC / PFOS / PFOA / DMF / VOC / MDA /  SCCPs / POPs / Prop65 / ELV Annex II / ELV Waste Packaging Waste / Lead in Solder / CMR / GADSL / IMDS / IMDS-a2 / IMDS-AI / CAMDS / CDX etc. ข้อกำหนด 3R (Reuse / Recycle / Recovery) Recyclability และ Recoverability ตามข้อกำหนดมาตรฐาน ISO 22628 ตลอดจนข้อกำหนดสารเคมีชนิดอื่นๆที่ทาง OEM และหน่วยงานที่ทำการควบคุมและบังคับใช้กฎหมาย ได้ประกาศฯ ควบคุม หรือ ห้ามใช้ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ทุกบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตลอดจนต่อไปในอนาคต IMDS : International Material Data System หรือ ระบบข้อมูลวัสดุสากล ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญมากที่เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้า ดังนั้นทุกโรงงาน / บริษัท ไม่ว่าจะเป็น เทรดดิ้ง จำเป็นต้องดำเนินการทำข้อมูลในระบบนี้เพื่อ Support ให้กับคู่ค้าของตน ซึ่งทางผู้ผลิตจะต้องดำเนินการกรอกข้อมูลวัตถุดิบ ข้อมูลสารเคมี เข้าไปในระบบ IMDS และดำเนินการส่งให้คู่ค้าของตน แต่ปัญหาคือผู้ผลิตยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายซึ่งว่าด้วยเรื่องการควบคุมสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดในกลุ่มประเทศทาง EU / Asia และข้อกำหนดในระบบ IMDS   หากบริษัทฯใดไม่ดำเนินการจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำการผลิต ห้ามส่งออกและซื้อขายสินค้าโดยเด็ดขาด

          ผู้รับช่วงผลิตจะต้องแนบข้อมูล IMDS Report ในเอกสาร “อนุมัติชิ้นส่วนการผลิต (PPAP)” เพื่อเป็นการรับประคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตัวเองว่าปราศจากสารปนเปื้อนและเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งผู้รับช่วงผลิต (Suppliers) ต้องไม่มีโอกาสผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะนั่นหมายถึง องค์กรของท่านจะถูกย้ายเข้าไปอยู่ในบริษัทฯกลุ่มเสี่ยงที่อันตรายทันที และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล

          หลักสูตรนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ข้อกำหนดของกฎหมายด้านการควบคุมสารปนเปื้อน SOC / ELV / RoHs 1.0 / RoHs 2.0 / REACH Annex VI / XV / XIV / AVII / SVHC / PFOS / PFOA / DMF / VOC / MDA /  SCCPs / POPs / Prop65 / ELV Annex II / ELV Waste Packaging Waste / Lead in Solder / CMR / GADSL / IMDS / IMDS-a2 / IMDS-AI / CAMDS / CDX etc. ข้อกำหนด 3R (Reuse / Recycle / Recovery) Recyclability และ Recoverability ตามข้อกำหนดมาตรฐาน ISO 22628 ในผลิตภัณฑ์ภาคทฤษฎี เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำกลับไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ขององค์กรได้อย่างถูกต้อง

วัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม

  1. เพื่อให้เข้าใจเป้าหมายการควบคุมสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดข้อกฎหมาย

ในอุตสาหกรรมยานยนต์

  1. เพื่อให้เข้าใจขั้นตอนและวิธีการดำเนินการควบคุมสารต้องห้ามหรือสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ในผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องและเป็นไปตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรมยานยนต์

  2. เพื่อให้สามารถกรอกข้อมูลและจัดทำรายงานการควบคุมสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องตามหลักข้อกฎหมายและมาตรฐานสากล

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถกรอกข้อมูลในระบบ IMDS ได้อย่างถูกต้อง

  4. เพื่อให้เข้าใจหลักการและการดำเนินการด้านการจัดการควบคุมสารต้องห้ามหรือสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ในองค์กรให้สอดคล้องกับข้อกำหนดข้อกฎหมายของอุตสาหกรรมยานยนต์

 

เนื้อหาหลักสูตร : ข้อกำหนดการควบคุมสารปนเปื้อนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

เวลา

รายละเอียดเนื้อหา

หมายเหตุ

08.30 – 09.00 น.

ลงทะเบียน

09.00 น. – 12.00 น.

· หลักการและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในการควบคุมสารปนเปื้อน

ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยานยนต์

-. ข้อกำหนดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment : LCA)

-. ข้อกำหนด Carbon Footprint for Product : CFP

-. ข้อกำหนด Carbon Footprint for Organization : CFO

-. ข้อกำหนดการจัดการควบคุมข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับ ISO 50001

บรรยาย / ทฤษฎี

ผู้เข้าอบรมมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น

สื่อสาร 2 ทาง

· หลักการและข้อกำหนดในการควบคุมสารปนเปื้อน

ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยานยนต์

SOC / ELV / RoHs 1.0 / RoHs 2.0 / REACH Annex VI / XV / XIV / AVII / SVHC / PFOS / PFOA / DMF / VOC / MDA /  SCCPs / POPs / Prop65 / ELV Annex II / ELV Waste Packaging Waste / Lead in Solder / CMR / GADSL /

· ข้อกำหนด 76/769/EC

· สูตรและหลักในการคำนวณปริมาณสารเคมีกลุ่มเสี่ยงสูง SVHC ในผลิตภัณฑ์

· สูตรและหลักในการคำนวณปริมาณสารเคมีกลุ่ม Wild card / Joker (Misc., not to declare) ในผลิตภัณฑ์

บรรยาย / ทฤษฎี

ผู้เข้าอบรมมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น

สื่อสาร 2 ทาง

12.00 น. – 16.00 น.

· หลักการและข้อกำหนดในการควบคุมสารปนเปื้อน

ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยานยนต์ (ต่อ)

IMDS / IMDS-a2 / IMDS-AI / CAMDS / CDX etc. ข้อกำหนด 3R (Reuse / Recycle / Recovery) Recyclability และ Recoverability ตามข้อกำหนดมาตรฐาน ISO 22628

· ขั้นตอนการจัดทำ Organization   SOC เพื่อยื่นขออนุมัติ

· การดำเนินการวางระบบ QMS การควบคุมสารปนเปื้อนในองค์กร

· การดำเนินการควบคุม SOC กับผู้รับจ้างช่วงผลิต (Suppliers)

· การจัดทำ Flow chart การจัดการความผิดปกติ เกี่ยวกับเรื่อง SOC

· การทบทวนระเบียบปฏิบัติการเรื่องการควบคุมการเปลี่ยนแปลงด้าน SOC ระหว่างลูกค้า และ Suppliers

· บทบาทหน้าที่ การดำเนินการและความสำคัญของแต่ละส่วนงาน

· การดำเนินการควบคุมตรวจและทดสอบ SOC ภายในและภายนอกองค์กร

· การควบคุมผู้ส่งมอบ วิธีการดำเนินการ กรณีที่ผู้ขายไม่ให้เข้าไปตรวจประเมิน

· การดำเนินการ Audit Suppliers ด้าน SOC

· การจัดทำรายงานการควบคุมสารปนเปื้อนตามมาตรฐานสากลเพื่อยื่นอนุมัติ

· ข้อกำหนด 3 R (Reuse / Recycle / Recovery )

บรรยาย / ทฤษฎี

ผู้เข้าอบรมมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น

สื่อสาร 2 ทาง

 

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

ยอดนิยม เทคนิคการขายอย่างมืออาชีพเพื่อเพิ่มยอดขาย (การวิเคราะห์เพื่อเพิ่มยอดในระยะยาว) อ.สุกิจ (4 มิ.ย.63)

ยอดนิยม เทคนิคการขายอย่างมืออาชีพเพื่อเพิ่มยอดขาย อ.สุกิจ (การวิเคราะห์เพื่อเพิ่มยอดในระยะยาว) (4 มิ.ย.63)

หลักสูตร: เทคนิคการขายอย่างมืออาชีพเพื่อเพิ่มยอดขาย

PROFESSIONAL SELLING TECHNIQUE FOR INCREASING SALES VOLUME

 

ที่มาของหลักสูตร

       การขายที่เน้นขายให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรายบุคคล รายใหญ่หรือขายให้แก่องค์กร ต้องเน้นความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก พนักงานขายที่ดีต้องสร้าง CUSTOMER VALUE ขึ้นให้ได้ การขายสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าเราไม่ได้เน้นการขายเพื่อวันนี้เท่านั้น การขายแบบมีเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพให้แก่ลูกค้าจะส่งผลถึงการขายในระยะยาวเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นพนักงานขายควรจะรู้ วิเคราะห์ลูกค้า เทคนิคการเปิดใจลูกค้าก่อนการเสนอขายสินค้าและบริการ  เทคนิคในการวิเคราะห์และค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า  ตามมาด้วยเทคนิคในการนำเสนอขายสินค้าที่เหนือคู่แข่งขัน และเข้าใจถึงเคล็ดลับและเทคนิคการให้คำปรึกษา และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าให้ได้ในระยะยาว การจัดการข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและการปิดการขายที่สร้างความพอใจแก่ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะอยู่ในกระบวนใดๆก็ตามของการขาย เนื้อหาของการฝึกอบรมนั้นจะเน้นให้ได้เรียนรู้หลักการต่างๆ การทำกิจกรรมฝึกปฏิบัติเพื่อทำให้ผู้เข้าฝึกอบรมนั้นมีความเข้าใจในเนื้อหาอย่างแท้จริงก่อนที่จะนำความรู้นั้นไปในการทำงานเพื่อเสริมสร้างเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพนั่นเอง

สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม

–     เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในเทคนิคการขายอย่างเป็นระบบ

–     เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำเสนอการขายและการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

–     เพื่อให้ผู้เข้าอบรมพัฒนาประสิทธิภาพของการขายให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นเพื่อการเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง

–     เทคนิคการจัดการในการเผชิญกับข้อโต้แย้งของลูกค้าในสถานการณ์ต่างๆ

–     เพื่อให้ผู้เข้าฝึกอบรมรู้เทคนิคการรักษาสายสัมพันธ์ และติดตามการซื้อซ้ำ

ระยะเวลาการฝึกอบรม :   1 วัน  (09.00-16.00 น.)

TOPICS

MODULE 1 : SALES ATTITUDE , CONCEPT & PROCESS

–     ความหมายและความเข้าใจในความสำคัญของงานขาย

–     อุปสรรคสำคัญที่ทำให้พนักงานขายไม่ประสบความสำเร็จ

     WORKSHOP : ปัญหาการขายที่ไม่สามารถเพิ่มยอดขาย

–     แนวคิด และทัศนคติที่ดี ถูกต้อง ที่พร้อมเป็นภูมิป้องกัน

–     ทฤษฏี  “ การขายล่วงหน้า ” เพื่อสร้าง SALES VOLUME

–     คุณสมบัติของพนักงานขายมืออาชีพ

MODULE 2 : SALES SMART , ANALYSIS & PLANNING

–     บุคลิกภาพ การวางตัว และการสร้างมาด

(การแต่งกาย , การดูแลตนเอง , ท่วงท่าอิริยาบถ , มารยาท)

–     บทบาทที่แตกต่าง และกระบวนการตัดสินใจซื้อ

–     ลูกค้าของเราคือใคร และกระบวนการค้นหาลูกค้า

–     การวิเคราะห์ลูกค้า และค้นหาความต้องการที่แท้จริง

PRACTICE : วิเคราะห์ลูกค้า และคำถามเชิงลึก

–     เทคนิคการวางแผนก่อนเข้าพบลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน

 

MODULE 3 : SALES PRESENTATION & CONSULT

–     เทคนิคการนำเสนออย่างโดนใจลูกค้า

–     การปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอเพื่อเพิ่มยอดขาย

–     เทคนิคการนำเสนอขายสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่งขัน

WORKSHOP : ค้นหาข้อได้เปรียบ (ADVANTAGE)

–     เสนอขายสินค้าอย่างไรเมื่อ “สินค้ามีจุดอ่อน”

–     เทคนิคการช่วยคิด แบบที่ปรึกษาในการขาย

 

MODULE 4 : SALES RESOLUTION , CLOSING & EVALUATION

–     การจัดการและการเผชิญกับข้อโต้แย้งในการขาย

–     เทคนิคการปิดการขาย ให้เป็นเรื่องง่าย และแนบเนียน

–     การรักษาสายสัมพันธ์ และการให้บริการหลังการขาย

–     การประเมินผลการปฏิบัติงานขาย

–     เทคนิคการใช้โทรศัพท์ในงานขายอย่างมืออาชีพ

WORKSHOP : แก้ไขปัญหาการขายที่ไม่สามารถเพิ่มยอดขาย

                

วิธีการ และรูปแบบการฝึกอบรม 

–     การบรรยาย  การระดมความคิดเห็น  การทำแบบฝึกปฏิบัติ  ตลอดจนการระดมปัญหาทางการขายที่เกิดขึ้นจากลูกค้าในหน่วยงานของผู้เข้าฝึกอบรม และข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทางการขายจากบริบทเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพเพื่อเพิ่มยอดขาย และนำมาทำWORKSHOP

ผู้เข้าฝึกอบรม

พนักงานขายและการตลาดทุกระดับ            

 

วิทยากร    :   อ. สุกิจ ตรียุทธวัฒนา

ราคาเพียงท่านละ 3,900 บาท

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage