Public Training หลักสูตร เทคนิคทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน วัน 17 ก.พ. 2566 09.00-16.00น.

Public Training หลักสูตร เทคนิคทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน วัน 17 ก.พ. 2566 09.00-16.00น.

รูปเเบบ Public /ONSITE

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท (ไม่รวม VAT)

โปรโมชั่น

ลงทะเบียนพร้อมกัน 3 ท่าน เหลือ ท่านละ 3,200 บาท

สมัคร 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2900 บาท

ฟรีเอกสารประกอบการอบรม อาหารว่าง มื้อ และอาหารกลางวัน

สถานที่อบรม Novotel Bangkok Sukhumvit 20  ติด BTS อโศก

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

เหมาะสำหรับ หัวหน้างาน ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการบริหารคน

หลักการและเหตุผล (Introduction)

          ความสำคัญของการทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้สำหรับการบริหารคนให้เหมาะสมกับขนาดขององค์กร เพราะในยุค 4.0 การทำงานของคนในองค์กรนั้นจะเน้นการทำงานที่คุณภาพมากขึ้น ฉะนั้นผู้นำหรือผู้บริหารจำเป็นจะต้องรู้ว่าบุคลกรที่มีอยู่นั้นจะต้องได้รับการประเมินทักษะ เพื่อสามารถทำงานทดแทนผู้อื่นได้ ในการทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix) ที่ดีนั้นจะต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดไว้อย่างชัดเจน โดยเริ่มตั้งแต่ทบทวนหน้าที่หลักของหน่วยงาน (Function Matrix) งานหลักที่ต้องทำ (Key Responsibility) รายละเอียดงานที่ต้องทำ (Key Task) การวิเคราะห์ Job Competency การคัดเลือก Skill และตลอดการรวมถึง Skill เพื่อนำไปทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix)

 

วัตถุประสงค์ (Objective)

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจในการทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix)

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำเทคนิคจากวิทยากรไปจัดทำตารางทักษะการทำงาน (Skill Matrix) และประยุกต์ใช้งานในองค์กรอย่างเหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคนสร้างงาน และสร้างความยั่งยืน

 

เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)

    1. Mindset กับ Skillset แตกต่างกันอย่างไร

    2. SKA ในการทำงานกับ Behavior

    3. การทบทวนข้อกำหนดของระบบ ISO 9001,14001,45001,50001 เปรียบตารางความสัมพันธ์ในการทำ Skill Matrix

    4. การวิเคราะห์ใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description)ให้สอดคล้องกับระบบ ISO ข้อกำหนด 2 เรื่องความสามารถ (Competent)

    5. บทบาทหน้าที่ของผู้ที่ทำ Skills Matrix (โดยมีการแจกแจงรายละเอียดของผู้ที่ทำ Skill Matrix)

    6. ตารางทักษะการทำงานของ skill Matrix

    7. Workshop 1: กิจกรรมการทำตามราง Skill Matrix (มีตารางให้)

    8. ตาราง Skill Matrix มีประโยชน์อย่างไร

    9. เทคนิคการทำตารางทักษะของพนักงาน

    10. เทคนิคการกำหนดตัวชี้วัดทักษะของ Skill Matrix โดยมีตารางให้

    11. การจัดทำ Training Road Map เพื่อเตรียมแผนพัฒนาศักยภาพของพนักงาน

    12. Workshop 2: การจัดทำ Training Road Map เพื่อพัฒนาพนักงานหลังจากทำ Skill Matrix (มีตัวอย่าง และตารางให้เป็นแนวทาง)

    13. ขั้นตอนการทำ On the Job Training Matrix

    14. การติดตามผลงานและให้ Feedback หลังการทำ OJT เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงาน (มีแบบฟอร์มให้)

    15. สรุปการเรียนรู้

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการบันทึกบัญชี กับ ภาษีอากร ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 20 ส.ค.64

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร เทคนิคการบันทึกบัญชี กับ ภาษีอากร ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 20 ส.ค.64

 

 

ราคาโปรโมรชั่น 2,000  บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

หลักการและเหตุผล

          การประกอบธุรกิจในทุกธุรกิจ ไม่ได้เพียงแต่เรียนรู้ว่าขายได้เท่าไหร่ มีลูกค้ามากน้อยเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งผู้ประกอบการไม่ควรละเลยที่จะเรียนรู้ คือ เรื่องระบบบัญชี การมีรายได้ ค่าใช้จ่าย ซึ่งเหล่านี้จะต้องมีการจัดการที่ดี หากไร้ซึ่งการบันทึกบัญชีที่ถูกหลัก การจ่ายภาษีที่ต้อง เพราะจริงๆแล้ว ผู้ประกอบธรกิจจะเข้าใจว่า การได้มาซึ่งผลกำไรมักจะมาจากการขายสินค้าและบริการ แต่หารู้ไม่ว่า หากมีการบริหารจัดการที่ดีในเรื่องระบบบัญชี ระบบการเบิก-จ่ายที่ถูกต้อง การวางแผนชำระภาษีที่ดี ก็จะสามารถสร้างผลกำไรได้จากการบริหารได้เช่นกัน

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับใคร

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีพื้นฐานความรู้บัญชีมาก่อนเลย แต่เห็นความสำคัญกับการจัดทำบัญชีเพื่อไม่ให้ถูกสรรพากรมาประเมินในภายหลัง ปัญหาหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจประสบคือเรียนบัญชีไม่รู้เรื่อง เข้าใจยาก ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจุดใดก่อนหลัง หรือหาที่เรียนแล้วแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องหรือนำไปใช้งานไม่ได้จริง ทางสถาบันจึงได้จัดหลักสูตรเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีพื้นฐานบัญชีขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ลำดับขั้นตอนการทำบัญชีว่าควรจะเริ่มต้นจุดใดก่อนหลัง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและสามารถนำไปปฏิบัติงานได้จริง ด้วยวิธีการเรียนรู้อย่างง่ายๆ เข้าใจเร็ว ไม่เบื่อหน่าย ที่สำคัญไม่ต้องถูกสรรพากรประเมินในภายหลัง ผู้เข้าอบรมจะพบว่าสิ่งที่ท่านได้จากการอบรมครั้งนี้ได้มากกว่าที่คิด ทั้งนี้เพราะท่านจะสามารถจัดวางระบบบัญชีให้กับองค์กรของท่านได้เอง การวางระบบบัญชีที่ดีจะป้องกันการทุจริตได้ และทำให้การทำงานมีความคล่องตัวได้มากขึ้น

หัวข้อการเรียนรู้

  • เรียนรู้ความหมายของทรัพย์สิน หนี้สิน ทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย ความหมายของเดบิตและเครดิต

  • เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์เอกสารเพื่อบันทึกบัญชีผ่านเข้าสมุดรายวันเล่มต่างๆผ่านเข้าบัญชี

  • แยกประเภทจนถึงนำตัวเลขไปใส่ในงบกำไรขาดทุน งบดุล

  • เรียนรู้การจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย

  • การจัดทำภ.ง.ด.3 และ 53

  • การจัดทำรายงานภาษีซื้อ การจัดทำรายงานภาษีขาย การจัด ภ.พ.30

  •  ภาษีหัก ณ ที่จ่ายกรณี เงินได้จากกิจการพาณิชย์

  • กรณีการจ่ายเบี้ยประกัน ชีวิต เบี้ยประกันวินาศภัย

  • ปัญหา ในการปฏิบัติ เช่น

  • กรณีผู้จ่ายเงินได้ไม่ได้ หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ หรือผุ้รับเงินไม่ยอมให้หัก ภาษี ณ ที่จ่าย

  • กรณีออกภาษีแทนผู้รับเงิน

  • กรณีหักภาษี ณ ที่จ่ายผิดอัตรา

  • กรณีออกหนังสือรับรองหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ผิด

  • กรณีการยื่นแบบหัก ณ ที่จ่ายเกินกำหนดหรือไม่ยื่นแบบจะแก้ไขอย่างไร

  • หลักการบันทึกบัญชีเงินสำรองจ่าย การบริหารบัญชีเงินสดภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ได้แก่ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคล  

  • สรุปเปรียบเทียบระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลและภาระภาษีที่เกี่ยวข้อง

  • เรียนรู้วิธีการแนบเอกสาร จัดเก็บแฟ้มเอกสารต่างๆ

  • เรียนรู้ด้านกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี ไม่ใช่อาศัยความเคยชินเหมือนที่ผ่านมา

  • เรียนรู้กฎหมายระเบียบและ Rulingใหม่ๆที่สรรพากรออกมา

  • คำสั่งกรมสรรพากรที่ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม เช่น เรียนรู้การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เรียนรู้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าใช้จ่ายต้องห้ามประโยชน์ส่วนเพิ่มพนักงาน

รูปแบบการเรียนรู้

  • การบรรยาย การสาธิต  กิจกรรมการเรียนรู้  และ การอภิปรายกลุ่ม

 อุปกรณ์ที่ใช้ :Other

               – LCD       – Flip Chart    – Microphone    – Classroom and Workshop

 

ระยะเวลาในการจัดฝึกอบรม        

          1 วัน

รูปแบบการบรรยาย

  1. การบรรยายออนไลน์ทุกท่านต้องมีอินเตอร์เน็ต โดยสามารถเรียนผ่านคอมพิวเตอร์หรือผ่านมือถือได้ โดยต้องเช็คชื่อออนไลน์พร้อมกัน ตามวันเวลาที่กำหนด

2 เอกสารประกอบการบรรยายและเอกสารข้อสอบหรือการทำกิจกรรมจะส่งให้ล่วงหน้า ก่อนอบรม 2-3 วัน

3 มีการทำกิจกรรม ยกเคสต่างๆ และตอบโต้ผ่านออนไลน์ตลอดเวลา เป็นรูปแบบ 2 Way Communication

4 หากผ่านการทดสอบจะได้รับใบประกาศนียบัตรส่งทาง EMS

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร : การวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรและการผลิต Overall Equipment Effectiveness : OEE 23 ส.ค.64

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร : การวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรและการผลิต Overall Equipment Effectiveness : OEE 23 ส.ค.64

 

 

เรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

ราคาท่านละ 1,500 บาท/13.00-16.00(ไม่รวม VAT) รับใบประกาศ 

โปรสมัครจ่ายวันนี้ 3 ท่าน เข้าเรียน ได้ 4 ท่าน

 

ในธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรเป็นหลักในการผลิต มักไม่ได้สนใจวิธีการซ่อมบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ผลที่ตามมาก็คือเครื่องจักรไม่มีสมรรถนะการทำงานที่ดี ผลิตชิ้นงานออกมาไม่สม่ำเสมอ จนทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ไม่ดีระหว่างหน่วยงานผลิตและหน่วยงานซ่อมบำรุง ทำให้เกิดต้นทุนสูง การส่งมอบไม่ทันเวลา ซึ่งส่งผลให้ขาดความร่วมมือกันของหน่วยซ่อมบำรุงและพนักงานหน่วยผลิต ด้วยปัญหานี้ จึงเกิดการพัฒนาวิธีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพขึ้นในการดูแลรักษาเครื่องจักรในกระบวนการผลิต คือ การบำรุงรักษาทวีผลแบบทุกคนมีส่วนร่วม (Total Productive Maintenance – TPM) ซึ่งสามารถทำให้ใช้เครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิผล สินค้าได้คุณภาพและปริมาณตามความต้องการของลูกค้า

 

 

จากสถานการณ์ปัจจุบัน หากเกิดการสูญเสียและความสูญเปล่าขึ้น จากกระบวนการผลิตซึ่งมีผลกระทบจากการทำงานของเครื่องจักรที่ไม่เต็มประสิทธิภาพและเสียบ่อย ประการแรก คือ การสูญเสียค่าใช้จ่ายแฝง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าความสูญเสียเกิดจากเครื่องจักรมากจะทำให้มีผลกระทบโดยตรงต่อระบบการผลิต  เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายจากความสูญเปล่าหลัก 7 ประการ (7 Waste) ตามไปด้วย ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องเข้าใจค่าวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE) เพื่อทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและลดอาการเสียของเครื่องจักรที่ไม่พึงปรารถนาในการผลิต อีกด้วย

 

 

ในหลักสูตรนี้เป็นการกล่าวถึงที่มาที่ไปของการวัดค่าโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ หรือ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ซึ่งถือเป็นดัชนีความสำเร็จในภาพรวม โดยพิจารณาที่ผลลัพธ์เป็นสำคัญ กล่าวคือ การพิจารณาที่การใช้ประโยชน์จากเครื่องจักร การใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบและการทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องมีหน่วยวัดอื่น เช่นการวัดระยะเวลาเฉลี่ยที่เครื่องจักรใช้งานได้ก่อนการเสียหาย หรือ MTBF (Mean Time Between Failure) และ ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการแก้ไขเมื่อเครื่องจักรเสียแต่ละครั้ง หรือ MTTR (Mean Time To Repair)  เป็นต้น รวมถึงหลักการซ่อมบำรุงรักษาด้วยตนเองเบื้องต้นของผู้ที่อยู่หน้าเครื่องจักร (AM) ทั้ง 8 ด้านที่ควรรู้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรไปพร้อม วัดประสิทธิผลของการปฏิบัติที่ค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ หรือ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ซึ่งถือเป็นดัชนีความสำเร็จในภาพรวม โดยพิจารณาที่ผลลัพธ์เป็นสำคัญ กล่าวคือ การพิจารณาที่การใช้ประโยชน์จากเครื่องจักร การใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบและการทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องมีหน่วยวัดอื่น เช่นการวัดระยะเวลาเฉลี่ยที่เครื่องจักรใช้งานได้ก่อนการเสียหาย หรือ MTBF (Mean Time Between Failure) และ ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการแก้ไขเมื่อเครื่องจักรเสียแต่ละครั้ง หรือ MTTR (Mean Time To Repair)  เป็นต้น รวมถึงหลักการซ่อมบำรุงรักษาด้วยตนเองเบื้องต้นของผู้ที่อยู่หน้าเครื่องจักร (AM) ทั้ง 8 ด้านที่ควรรู้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรไปพร้อม ๆกันเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงเครื่องจักรอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

วัตถุประสงค์

เพื่อสร้างความเข้าใจต่อต้นทุนการผลิต และสร้างผลกำไรให้กับบริษัท

เพื่อเสริมสร้างแนวคิดการป้องกัน การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเครื่องจักรอย่างเป็นมีรูปแบบ

เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง และพัฒนาเครื่องจักร ด้วยการวัดค่าจาก OEE

เพื่อสร้างการทำงานเป็นทีม การยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง เกิดความสามัคคี

เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับผู้เข้ารับการอบรม

หัวข้อการอบรม

– องค์ประกอบของธุรกิจ ต้นทุน กำไร และรายได้

– บทบาทและความรับผิดชอบของพนักงานฝ่ายผลิตในสายงานซ่อมบำรุง
– ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียในกระบวนการผลิต

– ความสูญเสียหลัก 6 ประการของเครื่องจักร
– การหาค่าเฉลี่ยการซ่อม MTTR และการหาค่าเฉลี่ยการผลิต MTBF ในแต่ละวัน
– หลักการคำนวณและแนวทางการหาค่า OEE ที่มีประสิทธิภาพ

   การหาค่าอัตราการเดินเครื่อง Availability

   การหาค่าประสิทธิภาพการเดนเครื่อง Performance Efficiency

   อัตราคุณภาพ Quality Rate

   การหาค่า OEE

วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพค่า OEE

– กิจกรรมเสริมที่ช่วยให้การบำรุงรักษาเครื่องจักรประสบความสำเร็จ

– กรณีศึกษาจากกิจกรรม Seiso – Inspection และกรณีศึกษาจากตัวอย่างจริง
Workshop1 การปรับปรุงค่า OEE ที่ประสบผลสำเร็จ

-แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถามตอบ

 

 

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

 

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) ใบประกาศผ่านการอบรม

2) ไฟล์ PDF การสอน

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel :098-8209929,

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ (New Performance Appraisal: KPI, Competency, OKR, VBM) วันที่ 28 ก.ย.64

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ (New Performance Appraisal: KPI, Competency, OKR, VBM) วันที่ 28 ก.ย.64

 

ราคาโปรโมชั่น ท่านละ 2,000 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

บรรยาย 09.00 – 16.00 น. สมัคร 3 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่านเเถม 1 ค่ะ

หลักการและเหตุผล

ความสำเร็จขององค์กรที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่เพียงแค่การมีทิศทางและกลยุทธ์การจัดการที่ดีเท่านั้น แต่ผู้บริหารและหัวหน้างานจะต้องสามารถบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เป็น ซึ่งคำว่า “เป็น” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง การรีดเอาผลงานให้ได้มาก แต่กลับเป็นเรื่องของการสร้างความชัดเจนในเป้าหมายการทำงานให้กับพนักงาน  การจูงใจ การสอนงาน การประเมินผลงาน และให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

จากกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้น หัวใจสำคัญของระบบการบริหารทรัพยากรมนุษย์ คือ “การเข้าใจพนักงานของตนเองให้มากที่สุด” เพราะหากเข้าใจให้มากแล้ว เรื่องอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะง่ายเสียเหลือเกิน เช่น เมื่อรู้ว่าลูกน้องของตนเก่งในเรื่องใด ก็ย่อมที่จะสามารถมอบหมายภารกิจสำคัญได้อย่างง่ายดาย ต่อมาก็สามารถจูงใจให้ทำผลงานได้เพิ่มมากขึ้น หรือจะรักษาให้อยู่กับองค์กรได้อย่างยาวนาน ทั้งหมดล้วนมีที่มาจากคำเดียวกัน คือ การเข้าใจพนักงานของตนเอง ซึ่งวิธีที่จะทำให้ผู้บริหารเข้าใจลูกน้องของตนเองได้อย่างดี ก็คือ การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “การประเมินผลการปฏิบัติงาน”

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและหลักการการประเมินผลงานในรูปแบบต่างๆ

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการประเมินผลงานไปประยุกต์ใช้กับการบริหารผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับวัฒนธรรมการทำงานขององค์กร

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงเทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงาน และสามารถป้องกันปัญหาจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้การประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ได้รู้ว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานมาก/น้อยเพียงใด อะไรคือจุดที่ยังเข้าใจได้ไม่รอบด้าน (Improvement Area) อะไรคือจุดที่ตนเองเข้าใจถูกต้องแล้ว (Strengthen Area)

  2. ได้ต่อยอดองค์ความรู้ และเกิดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติได้มากขึ้น

  3. มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือต่างๆ และเห็นมุมมองที่แตกต่าง เพื่อนำไปต่อยอดสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาการประเมินผลการปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยมต่อไป

 

รูปแบบการเรียนรู้

          เป็นการฝึกอบรมแบบเข้มข้น (Intensive Learning Course) ผ่านวิธีการเรียนรู้แบบออนไลน์ โดยวิทยากรจะใช้วิธีการบรรยาย การยกกรณีตัวอย่าง (Example Case) ทั้งที่ล้มเหลวและประสบความสำเร็จ การลงมือปฏิบัติ (Workshop) การเรียนรู้ผ่านเกมและกิจกรรม

เนื้อหาการเรียนรู้

  • ปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับหลักการประเมินผลการปฏิบัติงาน

  • นิยาม ความหมาย ความจำเป็นที่ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงาน

  • วิวัฒนาการของการประเมินผลงาน

  • ความแตกต่างระหว่างการประเมินผลงานกับการบริหารผลงาน

  • เครื่องมือการประเมินผลการปฏิบัติงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน: ข้อดี ข้อเสีย และการเปลี่ยนแปลง เช่น Trait Evaluation, KPI, OKR, BSC, Competency, VBM

  • ความเหมือนและความต่างของเครื่องมือแต่ละประเภท และการประยุกต์ใช้ เช่น KPI กับ OKR, KPI กับ Competency

  • กระบวนการบริหารผลงาน

  • รูปแบบของระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี

  • การจัดทำ Corporate KPI ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น BSC, Management Decision, Benchmarking ฯลฯ

  • วิธีการตั้งเป้าหมาย

  • การวัดผลงาน ความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมการทำงาน

  • วิธีการถ่ายทอดตัวชี้วัดองค์กรสู่ระดับหน่วยงานและระดับบุคคล

  • เทคนิคการกำหนดปัจจัยและน้ำหนักที่จะใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

  • วิธีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้วยหลักการ SMART

  • เทคนิคการกำหนดผู้ประเมินและรอบการประเมิน

  • เทคนิคการติดตามผลและการสอนงาน (Monitoring & Coaching)

  • การนำผลการประเมินไปใช้ประโยชน์

  • การนำไปเชื่อมโยงกับการพัฒนาบุคลากร

  • การนำไปเชื่อมโยงกับการขึ้นเงินเดือนและจ่ายโบนัส

  • การนำไปเชื่อมโยงกับการเลื่อนตำแหน่ง

  • การนำไปเชื่อมโยงกับการรักษาบุคลากร

  • สรุปบทเรียน ทบทวนวิธีการจัดทำ และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อการนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้องสูงสุด

วิทยากร

ดร.สันติชัย อินทรอ่อน

วิทยากรและที่ปรึกษา

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร กลยุทธ์ HRD สำหรับ HRD มืออาชีพ รุ่นที่ 5 (HRD Strategy for Professional HRD) : 20 พฤศจิกายน 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร กลยุทธ์ HRD สำหรับ HRD มืออาชีพ รุ่นที่ 5 (HRD Strategy for Professional HRD) : 20 พฤศจิกายน 2564

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

งาน HR ยุคใหม่ที่เน้นการเป็น HR Business Partner มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Resources Development : HRD) ในงานการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของบุคลากร (Career Path) เส้นทางการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร (Training Road Map) การบริหารคนเก่ง (Talent Management) และแผนสืบทอดตำแหน่งงาน (Succession Plan) ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย  และเป้าหมายขององค์กร  ด้วยเหตุนี้ นักบริหารทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ (Modern HRD) ที่จะพัฒนาตนเองให้เป็น HR Business Partner  โดยเฉพาะองค์กรมหาชนหรือบริษัทที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ และงาน HRD ที่สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร

สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรนี้ขึ้นจากประสบการณ์เป็นที่ปรึกษาและวิทยากรที่จะช่วยให้ท่านพัฒนาตนเองสู่การเป็นนักบริหารทรัพยากรบุคคลยุคใหม่

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ 

  1. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการ แนวคิดของการเป็นนักพัฒนาทรัพยากรบุคคลยุคใหม่

  2. เสริมสร้างความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์, Career  Path, Training Road Map, Talent และ Succession Plan ให้สอดคล้องกับทิศทางและนโยบายขององค์กร

  3. สามารถออกแบบและจัดทำ Career Path เบื้องต้นได้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร และผังโครงสร้างตำแหน่งงาน

  4. สามารถออกแบบและจัดทำ Training Road Map ให้สอดคล้องกับ KPI และ Career Path

  5. สามารถออกแบบและจัดทำ Succession Plan ให้สอดคล้องกับ Training Road Map และ Career Path 

 

 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ 

ส่วนที่ 1 : เทคนิคและวิธีการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning Technique)

  • ความหมายของกลยุทธ์ (Strategy) และการจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management)

  • ประเภทของกลยุทธ์ และระดับตำแหน่งที่ต้องบริหารกลยุทธ์ ?

  • การกำหนดกลยุทธ์ขององค์การ (Formulate The Organizational Strategy) ด้วย TOWS Matrix

  • การผ่องถ่ายกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (Strategic Cascade) ด้วย Balance Scorecard และ Action Plan

  • การทบทวนและควบคุมกลยุทธ์  (Strategic Control) โดยการติดตามผลลัพธ์ของการทำงานด้วย KPI Management

  • กระบวนการสร้างกลยุทธ์ HRD สำหรับ HRD มืออาชีพ (HRD Strategy Process for HRD Professionals)

ส่วนที่  2  :  กลยุทธ์การกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path Strategy) 

  • ความหมายของ Career Path (CP)

  • 4 เกณฑ์สำคัญในการจัดทำ Career Path Criteria ภาคปฏิบัติ

  • ขั้นตอนและแนวทางการจัดทำ Career Path ให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร และผังโครงสร้างตำแหน่งงาน

  • ตัวอย่าง : Career Path Model ที่สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร และผังโครงสร้างตำแหน่งงาน

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติกำหนดกลยุทธ์ HRD ด้วย Career Path ให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์องค์กร 

ส่วนที่  3  :  กลยุทธ์การจัดทำเส้นทางการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร (Training Road Map  Strategy) 

  • ความหมายของ Training Road Map (TRM)

  • Training Road Map ที่ดีมีประสิทธิภาพต้องมี 4 องค์ประกอบ

  • ขั้นตอนและแนวทางการจัดทำ Training Road Map ให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรและหน่วยงาน (KPI) และ Career Path

  • ตัวอย่าง : Training Road Map ที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรและหน่วยงาน (KPI) และ Career Path

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนดกลยุทธ์ HRD ด้วย Training Road Map ให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์องค์กร 

ส่วนที่  4  :  กลยุทธ์การบริหารพนักงานที่มีความสามารถสูง (Talent Management  Strategy) 

  • ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Talent กับ Successor

  • แนวทางการประเมินและคัดแยก Talent แท้ ออกจาก Talent เทียม (Performance and Competency Grid Analysis)

  • แนวทางการฝึกอบรมและพัฒนา Talent ให้เป็น Successor

  • แนวทางการใช้ศักยภาพ Talent ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร

  • แนวทางการลด Turn Over ของ Talent (Talent Retention) 

ส่วนที่  5  :  กลยุทธ์การปั้นทายาทสืบทอดตำแหน่งงาน (Successor Strategy)

  • ความหมายของ Succession Plan กับ Successor

  • ขั้นตอนและแนวทางการจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งงานของ Successor ให้สอดคล้องกับ Training Road Map และ Career Path

 

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ : 

เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร และนักพัฒนาทรัพยากรบุคคล (HRD) ทุกระดับ  

 

 

รูปแบบ/วิธีการการเรียนรู้ 

o  การบรรยาย (Lecture) ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่

o  การแชร์ประสบการณ์ตรงจากที่ปรึกษาด้าน HRD

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) เชิงปฏิบัติการ และระดมความคิด (Brain Strom)

o  การตอบข้อซักถามแบบเจาะลึกภาคปฏิบัติ

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

  • ที่ปรึกษาหลักสูตรอบรมสถาบัน Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การบริหารกลยุทธ์ สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ รุ่นที่ 2 (Strategic Management for Modern Executives) : 24 สิงหาคม 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การบริหารกลยุทธ์ สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ รุ่นที่ 2 (Strategic Management for Modern Executives) : 24 สิงหาคม 2564

 

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,600 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

ความสำเร็จขององค์กรหรือฝ่ายงานอยู่ที่กลยุทธ์ (Strategy) และกลยุทธ์ที่ดีต้องเชื่อมโยงสู่เป้าหมายหลัก (KPIs / OKRs) ผู้บริหารและผู้จัดการยุคใหม่จึงต้องมีความ Competency ในการบริหารกลยุทธ์ (Strategic Management) ในการขับเคลื่อนองค์กรฝ่ามรสุมการแข่งขันทางธุรกิจไปสู่เป้าหมายขององค์กร (Corporate KPIs / Company’s OKRs) หรือเป้าหมายของฝ่ายงาน (Functional KPIs / Department’s OKRs) ที่กำหนดไว้  ด้วยเหตุนี้องค์กรยุคใหม่จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้บริหารทุกระดับในองค์กรให้เป็น “ผู้บริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Executive)” เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ (Competitive Advantage) ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมภายนอก

หลักสูตรฝึกอบรมนี้สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ในการบริหารกลยุทธ์มาถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคนิค และประสบการณ์ในรูปแบบที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และปรับใช้งานได้จริง อย่างเป็นรูปธรรม”

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : 

  1. เพื่อเป็นการเสริมสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการบริหารกลยุทธ์ สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ (Strategic Management for Modern Executive)

  2. เสริมสร้างเทคนิคในการกำหนกกลยุทธ์องค์กรด้วย SWOT Analysis และ TOWS Matrix

  3. สามารถกำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Objective) ตัวชี้วัดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Measures)         เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ (Strategic Targets) และการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ (Strategic Initiatives) ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์องค์กรได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

  4. สามารถผ่องถ่ายกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (Strategic Cascade) ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

  5. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปปรับใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ : 

ส่วนที่  1  :  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารกลยุทธ์ (Strategic Management)

  • กลยุทธ์กับการจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategy VS Strategic Management) ?

  • ประเภทของกลยุทธ์ และระดับตำแหน่งที่ต้องบริหารกลยุทธ์ ?

  • จำเป็นด้วยหรือที่ผู้บริหารต้องบริหารกลยุทธ์ ?

  • 3 ขั้นตอนหลักในการบริหารแผนกลยุทธ์ (Strategic Management Process) 

ส่วนที่  2  :  การกำหนดกลยุทธ์ขององค์การ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ (Formulate The Organizational Strategy)

  • แนวทาง SWOT Analysis ปัจจัยภายนอกองค์กรด้วย C–PEST และปัจจัยภายในองค์กรด้วย 7S

  • แนวทางการกำหนดกลยุทธ์องค์กร (Company Strategy) ด้วย TOWS Matrix

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติกำหนด Company Strategy

  • แนวทางการกำหนดกลยุทธ์ฝ่ายงาน (Functional Strategy)

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนด Functional Strategy 

ส่วนที่  3  :  การผ่องถ่ายกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ ด้วยแผนปฏิบัติงาน (Strategic Cascade)

  • การผ่องถ่ายตัวชี้วัดระดับองค์กร (Corporate KPIs / Company’s OKRs) และกลยุทธ์องค์กร (Company Strategy) สู่การปฏิบัติด้วย Balance Scorecard

  • แนวทางการกำหนดวัตถุประสงค์กลยุทธ์ (Strategic Objectives) ให้เชื่อมโยงกับ Corporate KPIs / Company’s OKRs

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติกำหนดวัตถุประสงค์กลยุทธ์ (Strategic Objective)

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ (Strategic Measure and Target) ให้เชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์กลยุทธ์ฝ่ายงาน

  • แนวทางการกำหนดกลยุทธ์ฝ่ายงาน (Functional Strategy)

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติกำหนดกำหนด Strategic Measure and Target และ Functional Strategy

  • เทคนิคแปลงกลยุทธ์และ KPIs / OKRs สู่การปฏิบัติด้วยแผนปฏิบัติงาน (Action Plan)

  • หัวใจสำคัญของการจัดทำแผนปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ 

ส่วนที่  4  :  การทบทวนและควบคุมกลยุทธ์ ด้วยการติดตามผลลัพธ์ของการดำเนินงาน (Strategic Control)

  • การทบทวนและควบคุมกลยุทธ์ ด้วยการติดตามผลลัพธ์ของการทำงาน (Strategic Control) ด้วย KPI / OKR Management Meeting

  • แนวทางการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ด้วย Performance Agreement ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์กลยุทธ์ ตัวชี้วัดเชิงกลยุทธ์ และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์

  • การควบคุม ติดตามงานจาก Performance Agreement ด้วย KPI / OKR

 

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหาร ผู้จัดการฝ่าย ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการแผนก ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก  

 

 

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ : 

o  การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) ที่มีการระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participative Techniques) ช่วยให้ผู้เรียนรู้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้ทันที

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) เชิงปฏิบัติการ : ที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น (Discussion)เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การแชร์ประสบการณ์

o  การระดมความคิด (Brain Strom) และการนำเสนอความคิดเห็น

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม 

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • กรรมการผู้จัดการ People Develop Center  

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อาจารย์พิเศษคณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) มหาวิทยาลัยภาครัฐ

  • อาจารย์พิเศษคณะรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (M.P.A.) มหาวิทยาลัยเอกชน

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย  

วันและเวลาสัมมนา :  

รุ่นที่  2  วันที่  24  สิงหาคม  2564  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

รุ่นที่  3  วันที่  23  พฤศจิกายน  2564  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

  • ที่ปรึกษาหลักสูตรอบรมสถาบัน Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การกำหนดเป้าหมายการทำงานแบบ SMART Goal Setting ด้วย KPI และ Effective Action Plan รุ่น 12 (KPI & Effective Action Plan : PMS Module 1) : 23 สิงหาคม 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การกำหนดเป้าหมายการทำงานแบบ SMART Goal Setting ด้วย KPI และ Effective Action Plan รุ่น 12 (KPI & Effective Action Plan : PMS Module 1) : 23 สิงหาคม 2564

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,600 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันอย่างรุนแรงในปัจจุบัน องค์การจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต้องมีเป้าหมายหรือ KPI ที่ชัดเจนเป็นเข็มทิศในการดำเนินงาน ต้องวางแผนกลยุทธ์ (Strategics Plan) และแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI อย่างเป็นระบบ  แต่ในการจัดทำและนำ KPI ไปใช้งานจริง หลายองค์กรมักจะพบกับประเด็นคำถามที่ว่า

  • KPI ก็กำหนดแล้ว แต่ไม่รู้จะเชื่อมโยงไปสู่กลยุทธ์ขององค์การอย่างไรดี ?

  • KPI ของฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต ก็ง่ายนะสิมีตัวเลขวัดได้ชัดเจน แล้วฝ่ายสำนักงานหรือสายสนับสนุน (Back Office) จะกำหนด KPI อย่างไรชัดเจนเป็นรูปธรรมให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรดีล่ะ ?

  • แล้ว KPIs ในระบบ ISO9001 / IATF16949 ที่มี จะเชื่อมโยงเป็นเป้าหมายขององค์กรได้ไหม ?

  • แล้วตัวชี้วัดและเป้าหมายรายบุคคลของแต่ละตำแหน่งงานล่ะ จะกำหนดจากอะไรดี ?

  • จะเชื่อมโยง KPI ไปสู่แผนปฏิบัติงานอย่างไรดี ?

 

 

หลักสูตรฝึกอบรมนี้มีคำตอบากประสบการณ์ตรงของวิทยากรและที่ปรึกษาด้าน KPI Management กว่า 17 ปี ที่ช่วยให้ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารและจัดการ KPI Management แบบครบวงจรทั้ง…การกำหนดเป้าหมายแบบมืออาชีพ…การกระจายเป้าหมายสู่หน่วยงานและตำแหน่ง…การจัดทำแผนงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI…การควบคุมและติดตาม KPI อย่างเป็นระบบ ทั้งแบบฟอร์มและตัวอย่าง รวมทั้ง Workshop ฝึกปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง  

 

สิ่งที่จะได้รับจากการอบรม 

  1. เสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการ แนวคิด แนวทาง และวิธีการกำหนด KPI สมัยใหม่ที่เหมาะสมเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และองค์กร

  2. เสริมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการนำ KPI ในการดำเนินงานขององค์กร

  3. จุดประกายความคิดในการมองเห็นความเชื่อมโยงของ KPI กับกลยุทธ์ขององค์กร

  4. เสริมสร้างเทคนิคในการกระจาย KPI ตามยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ สู่การกำหนด KPI ของหน่วยงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. สามารถกำหนด Functional KPIs ของหน่วยงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ Corporate KPIs ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

  6. ทราบถึงแนวทางการเชื่อมโยง KPI ของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานซึ่งกันและกัน

  7. สามารถกำหนด Position KPIs ของทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร

  8. สามารถจัดทำ Action Plan ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  9. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปออกแบบและจัดทำ KPI และ Action ได้อย่างเป็นรูปธรรมและเชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร 

 

หัวข้อสำคัญที่ท่านจะได้เรียนรู้ 

ส่วนที่  1  :  แนวคิดและหลักการของ Key Performance Indicators (KPI Introduction)

  • ศัพท์น่ารู้ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ KPI

  • KPI คือ อะไร ?

  • ความสำคัญและประโยชน์ของ KPI ในการนำไปใช้งานในองค์การ

  • 4 หลักสำคัญในการออกแบบ KPI ให้มีประสิทธิผล เช่น SMART GOAL

  • KPIs ในองค์กรที่ดีควรมี 4 ระดับ

  • Workshop 1 : ปัญหาที่พบในการจัดทำ KPI และแนวทางป้องกัน/แก้ไข 

ส่วนที่  2  :  แนวทางการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับองค์การ (Corporate KPIs)

  • การกำหนด Corporate KPIs ด้วย Balance Scorecard

  • ตัวอย่างที่ 1 : แบบฟอร์มในการกำหนด Corporate KPIs

  • ตัวอย่างที่ 2 : ตัวชี้วัดระดับองค์กร (Corporate KPIs)

  • ขั้นตอนและวิธีการกำหนดและกระจายตัวชี้วัดระดับองค์การสู่ตัวชี้วัดผลลัพธ์ระดับฝ่าย/แผนก

  • ตัวอย่างที่ 3 : แบบฟอร์มในการกระจายเป้าหมายองค์กรสู่เป้าหมายหน่วยงาน 

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับหน่วยงาน (Functional KPIs) แบบ SMART Goal ให้สอดคล้องกับ Corporate KPIs

  • วิธีการกำหนดตัวชี้วัดผลงานของแต่ละฝ่ายงาน (Functional KPIs) แบบ SMART Goal ให้เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ (Vision) วัตถุประสงค์ (Objective) และตัวชี้วัดขององค์กร (Corporate KPIs)

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติออกแบบและกำหนด Functional KPIs ของแต่ละหน่วยงาน แบบ SMART Goal  ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI องค์กร

  • ตัวอย่างที่ 4 : แบบฟอร์มการกำหนดเป้าหมายหน่วยงาน ให้เชื่อมโยงกับ KPI องค์กร (Performance Agreement)

  • PQQCDSSMEEI ปัจจัยยอดนิยมในการกำหนด KPIs

  • ตัวอย่างที่ 5 : หัวข้อ Functional KPIs ของหน่วยงานต่างๆ ในองค์กร 

ส่วนที่  4  :  เทคนิคการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับตำแหน่งรายบุคคล (Position / Individual KPIs) 

  • 4 เครื่องมือในการวิเคราะห์และกำหนด Position KPIs

  • ขั้นตอนและวิธีการกำหนด Position KPIs ตามตำแหน่งจากใบกำหนดหน้าที่งานยุคใหม่ (Job Description)

  • ตัวอย่างที่ 7 : ใบกำหนดหน้าที่งานยุคใหม่ (Job Description Version 4) ที่มี KPI สอดคล้องกับงาน

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติออกแบบและกำหนด Position KPIs ให้สอดคล้องกับงานตาม Job Description Version 4   

ส่วนที่ 5  : เทคนิคการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Action Plan) ให้สอดคล้องกับ KPI

  • ความสัมพันธ์ของ KPI กับแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) กับแผนกลยุทธ์ (Strategic Plan)

  • กุญแจทองสำคัญ 3 ดอก ในการจัดทำแผนปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ

  • ขั้นตอนการจัดทำแผนการปฏิบัติงานแบบ PDCA

  • ตัวอย่างที่ 8 : แบบฟอร์มแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) สมัยใหม่ที่มีทั้ง KPI และ PI 

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติจัดทำแผนปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับ KPI   

วิธีการ/รูปแบบในการเรียนรู้

การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) ที่มีความรู้และประสบการณ์ โดยมุ่งเน้นการกระตุ้น/ระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participative Techniques)

o   การจัดทำ Workshop ฝึกปฏิบัติ และการนำเสนองาน

   -> ออกแบบและกำหนด Functional KPIs ของหน่วยงานให้เชื่อมโยงกับ KPI องค์กร

   -> ออกแบบ และจัดทำ Position KPIs ของตำแหน่งงาน

   -> เขียน Action Plan ให้เชื่อมโยงกับ KPI

o   การตอบข้อซักถาม 

 

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ

เจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง QMR ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก เจ้าหน้าที่ และผู้สนใจทั่วไป

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

  • ที่ปรึกษาหลักสูตรอบรมสถาบัน Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร ภาวะผู้นำสำหรับผู้นำยุคใหม่ รุ่นที่ 3 (Excellent Leadership) : 7 เม.ย.65

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร ภาวะผู้นำสำหรับผู้นำยุคใหม่ รุ่นที่ 3 (Excellent Leadership) : 7 เม.ย.65

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

บุคลากร (Man) คือทรัพยากรทางการบริหารที่สำคัญที่สุดขององค์กร เพราะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ทางธุรกิจให้กับองค์กรได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำทุกระดับในองค์กรที่ต้องมีภาวะผู้นำ มีภาวะผู้นำในการบริหารอารมณ์ มีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีภาวะผู้นำการสื่อสาร มีภาวะผู้นำการสร้างแรงจูงใจ มีภาวะผู้นำการบริหารทีมงาน มีภาวะผู้นำการบังคับบัญชา และเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างการยอมรับและศรัทธา ความไว้เนื้อเชื่อใจจากทีมงาน   ส่งผลให้เกิดการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และเต็มใจให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ (KPI / OKR) ด้วยเหตุนี้องค์กรยุคใหม่จึงมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการ (Managerial Competency) เรื่องภาวะผู้นำ เพื่อยกระดับศักยภาพของบุคลากรในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ (Compettitive Advantage)

สถาบันฯ ได้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรนี้ขึ้นจากประสบการณ์ของวิทยากรในการจัดทำ Leadership Program ขององค์กรธุรกิจชั้นนำ ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ในการเรียนรู้ทั้ง Soft Skills และ Hard Skills ในแบบ “กระชับ เข้าใจง่าย และใช้ปฏิบัติได้งานจริง” 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 

  1. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก เกี่ยวกับหลักการ และแนวปฏิบัติของการพัฒนาภาวะผู้นำในองค์กร

  2. สามารถพัฒนาภาวะผู้นำมืออาชีพยุคใหม่ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ทักษะการสื่อสาร ทักษะการสร้างแรงจูงใจ ทักษะการบริหารทีมงาน ศิลปะการบังคับบัญชา และทักษะการเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์

  3. สามารถนำความรู้และเทคนิคต่างๆ ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาภาวะผู้นำของตนเองได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ :

ส่วนที่  1  :  สุดยอดภาวะผู้นำขั้นเทพ “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” (Excellent leadership)

  • ผู้นำ (Leader) VS ภาวะผู้นำ (Leadership)

  • ผู้นำ 5 ระดับ…ท่านเป็นผู้นำทีมงานในระดับไหนหนอ ?

  • ภาวะผ้นำแบบ 8 ความกล้าที่เจ้านายชื่นชม ลูกน้องชื่นชอบ

  • ภาวะผู้นำแบบ “เข้าใจ -> เข้าถึง -> พัฒนา” ในการบริหารให้ทีมงานคนอยากอยู่ อยากทำงานด้วย

ส่วนที่  2  :  ภาวะผู้นำในการบริหารอารมณ์ (Leadership in emotional management)

  • แนวทางการบริหารอารมณ์ตนเอง

  • เทคนิคและวิธีการบริหารอารมณ์ตนเอง เมื่อโดนลูกน้องนินทา

ส่วนที่  3  :  ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Leadership for change)

  • 6 ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง

  • 5 บทบาทของผู้นำการเปลี่ยนแปลง

  • 3 หน้าที่ของผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง

  • แนวทางการบริหารความเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้นำการเปลี่ยนแปลง

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติ Change งาน Change องค์กร 

ส่วนที่  4  :  สุดยอดภาวะผู้นำการสื่อสาร ให้งานได้ผลให้คนได้ใจ (Excellent leadership in effective communication)

  • การสื่อสารและประสานงานให้ทำงานเป็น Teamwork

  • ภาวะผู้นำการสื่อสารแบบ Positive Communication

  • ภาวะผู้นำการสื่อสารในฐานะตัวแทนองค์กร ที่ผู้บริหารระดับสูงปรารถนา

  • ภาวะผู้นำการสื่อสารที่ทีมงานปรารถนา

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติแปลงภาวะผู้นำการสื่อสารสู่การปฏิบัติจริงในองค์กร

ส่วนที่  5  :  สุดยอดภาวะผู้นำการสร้างแรงจูงใจ ให้ทีมงานมีไฟในการทำงาน (Excellent leadership in effective motivation)

  • จิตวิทยาการจูงใจทีมงาน

  • ภาวะผู้นำการจูงใจทีมงานอย่างมีประสิทธิผล

  • เทคนิคและวิธีการสร้างแรงจูงใจทีมงานสำหรับผู้นำขั้นเทพ

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์แรงจูงใจให้เหมาะกับทีมงาน 16 ลักษณะและพฤติกรรมการทำงาน

  • 7 ข้อควรระวัง ไม่ให้ล้มเหลวในการจูงใจทีมงาน

ส่วนที่  6  : สุดยอดภาวะผู้นำการบริหารทีม ให้ยกระดับผลการปฏิบัติงาน (Excellent leadership in team management)

  • เทคนิคและวิธีการบริหารทีมงานให้ยกระดับผลการปฏิบัติงาน

  • การสร้างความผูกพันต่อองค์กรสำหรับผู้นำขั้นเทพ (Employee Engagement for Excellent Leaders)

  • 10 เทคนิคสำหรับผู้นำในการสร้างความผูกพันในทีมงาน (Engagement Techniques)

  • แนวทางการบริหารความขัดแย้งในทีมงาน

ส่วนที่  7  :  สุดยอดภาวะผู้นำการบังคับบัญชา (Excellent leadership in effective command)

  • ภาวะผู้นำในการบริหารและปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาหลากหลาย Generation

  • ศิลปะการบังคับบัญชาสำหรับผู้ขั้นเทพ

  • แนวทางการปกครองบังคับบัญชาทีมงาน

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์การปกครองบังคับบัญชาทีมงาน 16 ลักษณะและพฤติกรรมการทำงาน

ส่วนที่  8  : Excellent Leadership ด้วยการเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic leaders)

  • ผู้นำกับการบริหารกลยุทธ์

  • 3 ขั้นตอนหลักในการบริหารกลยุทธ์ (Strategic Management Process)

  • แนวทางการผ่องถ่ายกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (Strategic Cascade) ด้วย Balance Scorecard

  • แนวทางการแปลง KPI สู่การปฏิบัติด้วย Action Plan

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก และผู้สนใจทั่วไป

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร กลยุทธ์การสร้างความผูกพันต่อองค์กร รุ่นที่ 16 (Employee Engagement Strategy : Engagement Module 1) : 17 สิงหาคม 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร กลยุทธ์การสร้างความผูกพันต่อองค์กร รุ่นที่ 16 (Employee Engagement Strategy : Engagement Module 1) : 17 สิงหาคม 2564

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,600 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

ความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement) เป็นกุญแจสำคัญ  ต่อความสำเร็จของธุรกิจ หากบุคลากรในองค์กรมีความผูกพันต่อองค์กรแล้วสิ่งที่องค์กรจะได้มากกว่างานก็คือ “หัวใจของบุคลากร” เพราะเขาจะทุ่มเทอุทิศเวลาเพื่อองค์กร รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สร้างสรรค์     ผลงานที่ดี มีคุณภาพ มีการบริการที่ดี และสร้างความเจริญเติบโตให้กับธุรกิจให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จตาม เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ โดยกระตุ้น  ให้เขาอยากอยู่อยากทำงาน ไม่คิดจะย้ายไปทำงานที่อื่น ช่วยลดอัตราการลาออกและการขาดงานได้  ด้วยเหตุนี้องค์กร ยุคใหม่ไม่ว่าจะเป็นเอกชน รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ ต่างก็หันมาให้ความสนใจในการสร้างและพัฒนาความผูกพันต่อองค์กรให้เกิดขึ้นกับบุคลากร ในองค์กร

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของวิทยากรและที่ปรึกษาที่ทำจริงมากับมือ ที่จะช่วยให้บุคลากรในองค์กรของท่าน มีใจรักและผูกพันต่อองค์กร อยากอยู่อยากทำงานให้ตนองประสบความสำเร็จ และธุรกิจเจริญเติบโตก้าวหน้า

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : 

  1. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด ขั้นตอน แนวปฏิบัติ และเทคนิคในการสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement)

  2. เสริมสร้างความตระหนักถึงการสร้างความผูกพันที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ

  3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของทีมงาน

  4. สามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่จะสร้างหรือทำลายความผูกพันต่อองค์กรด้วย  Employee Engagement Dialog ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

  5. สามารถกำหนดกลยุทธ์เสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กรที่ช่วยลดอัตราการลาออกได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับธุรกิจ

  6. เสริมสร้างเทคนิคในการจัดทำแผนงานสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Action Plan) “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา”  ให้เหมาะสมกับองค์กรได้

 

 

หัวข้อเนื้อหาสำคัญของการเรียนรู้ :

ส่วนที่  1  :  แนวคิดการสร้างความผูกพันต่อองค์กรกับความสำเร็จของธุรกิจ (Employee Engagement Concept)

  • Case Study เรื่องเล่าจากเหตุการณ์วิกฤตการทำงาน

  • สัญญาณความไม่ผูกพันต่อองค์กร

  • แนวคิดการสร้างความผูกพันต่อองค์กร

ส่วนที่  2  :  สร้างความผูกพันแล้วพนักงาน ฝ่ายงาน องค์กรจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?

  • สร้างความผูกพันต่อองค์กร แล้วธุรกิจจะได้ประโยชน์ใดบ้างหนอ ?

  • ความสัมพันธ์ของการสร้างความผูกพันกับเป้าหมายองค์กร (Employee Engagement VS Corporate KPIs)

  • ลักษณะของบุคลากรที่มีความสุขในการทำงาน

ส่วนที่  3  :  โครงร่างของระบบการสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Framework)

  • แนวทางการสร้างความผูกพันต่อองค์กรแบบ “Remember-Understand-Copy-Create”

  • โครงร่างของระบบการสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Framework)

ส่วนที่  4  :  กระบวนการสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Process)

  • กระบวนการสร้างความผูกพันต่อองค์กรที่ทำได้ด้วยตนเอง

ส่วนที่  5  :  จุดเริ่มต้นของการสร้างความผูกพันต่องค์กร ด้วยสรรหาและคัดเลือก “คนดี มีความสามารถ” เข้าร่วมงานกับองค์กร (Recruitment & Selection)

  • ความผูกพันต่อองค์กรเริ่มต้นด้วย…การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร

  • ภาพรวมของ…กระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร

ส่วนที่  6  : ปลดล็อค Engagement Survey Employee ในการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้พนักงานอยากอยู่และอยากไปจากองค์กร ด้วย Employee Engagement Dialog

  • ปลดล็อค Employee Engagement Survey ด้วย Employee Engagement Dialog เครื่องมือในการวิเคราะห์หาปัจจัยความผูกพันในองค์กรยุคใหม่

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาปัจจัยที่ทำให้พนักงานอยากอยู่อยากทำกับองค์กรด้วย Employee Engagement Dialog

  • Workshop 2: ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์หาปัจจัยที่ผลักดันพนักงานให้อยากไปจากองค์กรด้วย Employee  Engagement  Dialog 

ส่วนที่  7  :  กลยุทธ์การสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Strategy) เพื่อดึงดูดใจพนักงานและลดอัตราการลาออก

  • แนวทางการนำผลจากการวิเคราะห์ Employee Engagement Dialog มากำหนดกลยุทธ์สร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Strategy)

ส่วนที่  8  :  เทคนิคการนำผลจากการวิเคราะห์ Employee Engagement Dialog มาจัดทำ Employee Engagement Action Plan แบบ “สุข-สร้าง-ได้”

  • แนวทางการนำผลจากการวิเคราะห์ Employee Engagement Dialog มาจัดทำ Employee Engagement Action Plan แบบ “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา”

  • ขั้นตอนการจัดทำแผนงานสร้างความผูกพันในองค์กรด้วย PDCA (Easy Employee  Engagement  Plan) 

  • Workshop 3  : ฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนงานสร้างความสุขและความผูกพันในองค์กร (Engagement Action Plan) แบบ “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” จากข้อมูล Employee Engagement Dialog

  • ตัวอย่างแผนงานสร้างความผูกพันต่อองค์กร 

ส่วนที่  9  :  เทคนิคการใช้ 5 เครื่องมือในการสร้างความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement Tools)

  • ความสัมพันธ์ของเครื่องมือทั้ง 5 ในการสร้างความผูกพันต่อองค์กร

  • เทคนิคการใช้เครื่องมือที่ 1 การสร้างความผูกพันและการทำงานเป็นทีม (Engagement Team Building)

  • เทคนิคการใช้เครื่องมือที่ 2 กิจกรรม Happy Workplace (HP8) แบบ“สุข-สร้าง-ได้”

  • เทคนิคการใช้เครื่องมือที่ 3 ปลูกจิตสำนึกของผู้ให้และแบ่งปันด้วย Corporate Social Responsibility (CSR)

  • เทคนิคการใช้เครื่องมือที่ 4 การบำบัดทุกข์-บำรุงสุข เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีในองค์กร

  • เทคนิคการใช้เครื่องมือที่ 5 ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRM & HRD System) ที่เสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กร

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติในการปรับใช้เครื่องมือสร้างความผูกพันต่อองค์กร

 

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

เจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการทุกสายงาน ผู้บริหารสายงานทรัพยากรมนุษย์ เจ้าหน้าที่แรงงานสัมพันธ์ และผู้สนใจทั่วไป

 

 

รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ :

o  การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) 

o  การแชร์ Case ประสบการณ์ตรง

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) และการระดมความคิด (Brain Stroming) และการนำเสนอความคิดเห็น

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

  • ที่ปรึกษาหลักสูตรอบรมสถาบัน Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การพัฒนาองค์กร สำหรับผู้บริหารและ HROD รุ่นที่ 4 (Organization Development for All Manager and HROD) : 16 สิงหาคม 2564

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร การพัฒนาองค์กร สำหรับผู้บริหารและ HROD รุ่นที่ 4 (Organization Development for All Manager and HROD) : 16 สิงหาคม 2564

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

พิเศษ online เพียง 2,600 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อองค์กร การที่องค์กรจะเติบโตอย่างมั่นคงได้ ผู้บริหารและ HROD ยุคใหม่ต้องพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบ (Organization Development : OD) ด้วยการวินิจฉัยองค์กร (Diagnostic) วิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร (Designing Interventions) อย่างเหมาะสม และลงมือพัฒนาองค์กรด้วยเครื่องมือการจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารและ HR ต้องพัฒนาขีดความสามารถ (Competency) ในการพัฒนาองค์กรให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลง

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ท่านสามารถวินิจฉัยและพัฒนาองค์กรเป็นระบบเป็นขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรม ในรูปแบบการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย มี Workshop และเครื่องมือในการพัฒนาองค์กรที่สามารถปรับใช้งานได้จริง”

 

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ หลักการ แนวคิด และแนวปฏิบัติในการพัฒนาองค์กร

  2. เสริมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง

  3. สามารถวินิจฉัยความไม่สอดคล้องขององค์กรกับปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกได้

  4. สามารถวิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือพัฒนาองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการวินิจฉัยองค์กร

  5. สามารถเตรียมตัวให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้น

 

 

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้ : 

ส่วนที่ 1 : การพัฒนาองค์กรกับการตอบสนองความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

  • แนวคิดของการพัฒนาองค์กรในการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน

  • Organization Development (OD) VS Change Management (CM)

  • พัฒนาองค์กรแล้วพนักงานและองค์กรจะได้ประโยชน์อะไรบ้างหนอ ?

ส่วนที่ 2 : กระบวนการพัฒนาองค์กร (Organization Development Process)

  • 6 ขั้นตอนในการพัฒนาองค์กร

ส่วนที่ 3 : การตรวจวินิจฉัยองค์กร (Organization Diagnostic)

  • แนวทางการตรวจวินิจฉัยองค์กร (Diagnostic)

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติตรวจวินิจฉัยองค์กร

ส่วนที่ 4 : การวิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร (Designing Interventions)

  • แนวทางการวิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร (Interventions)

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติวิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร

ส่วนที่ 5 : การพัฒนาองค์กร ด้วยการแปลงวัฒนธรรมองค์กรสู่การปฏิบัติ (OD based on Corporate Culture)

  • แนวทางการแปลงวัฒนธรรมองค์กรสู่การปฏิบัติสำหรับผู้บริหารและหัวหน้าแผนก

ส่วนที่ 6 : การพัฒนาองค์กร ด้วยการพัฒนาภาวะผู้นำ (OD based on Leadership Development)

  • แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำ

ส่วนที่ 7 : การพัฒนาองค์กร ด้วยการบริหารเชิงกลยุทธ์ (OD based on Strategy Management)

  • แนวทางการบริหารเชิงกลยุทธ์ สำหรับผู้บริหารและหัวหน้าแผนก 

ส่วนที่ 8 : การพัฒนาองค์กร ด้วยระบบงานทรัพยากรบุคคล (HROD)

  • แนวทางการพัฒนาองค์กร ด้วยการจัดการองค์กร (OD based on Organization Management)

  • แนวทางการพัฒนาองค์กร ด้วยการบริหารผลการปฏิบัติงาน (OD based on Performance Management)

  • แนวทางการพัฒนาองค์กร ด้วยการบริหารขีดความสามารถ (OD based on Competency Management)

  • แนวทางการพัฒนาองค์กร ด้วยการบริหารเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (OD based on Career Path Management)

  • แนวทางการพัฒนาองค์กร ด้วยการบริหารคนเก่ง (OD based on Talent Management)

ส่วนที่ 9 : ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาองค์กร

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรบุคคล HROD และผู้สนใจทั่วไป 

รูปแบบ/วิธีการในการเรียนรู้ : 

o  การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Center) ที่มีการระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participative Techniques)

o  การทำกิจกรรมกลุ่ม (Workshop): ที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น (Discussion)เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การระดมความคิด (Brain Strom) และการนำเสนอความคิดเห็น

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

  • ที่ปรึกษาหลักสูตรอบรมสถาบัน Tesstraining

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com