ออนไลน์ หลักสูตร สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า 18 ตุลาคม 2567

ออนไลน์ หลักสูตร สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า 18 ตุลาคม 2567

การประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันมีความแตกต่างจากอดีตมากมาย  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเพราะนโยบายการตอบรับของรัฐบาลไทยส่วนหนึ่งและเป็นการเปลี่ยนแปลงจากนานาชาติอีกส่วนหนึ่งนอกจากนั้นนโยบายการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับนานชาติก็ทำให้ระบบภาษีอากรลดลงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการค้าและก็ตามมาด้วยกฏระเบียบที่ต้องปฏิบัติที่เป็นกลไกให้การเปิดเสรีทางการค้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์

สำหรับประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปฏิบัติสำหรับการจัดเก็บภาษีใหม่หมดจากระบบพื้นฐานเดิมที่เป็นแบบ Manual  ได้พัฒนากลายมาเป็นระบบ EDI (Electronic Data Interchange)  และในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นระบบไร้เอกสารที่เรียกว่า  ebXML พร้อมกันนี้ภาครัฐยังได้สนับสนุนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกร่วมมือกันพัฒนาเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันเช่นการขออนุมัติหรืออนุญาตหรือแม้หนังสือรับรองต่างๆ ทางอิเลกทรอนิกส์โดยใช้ระบบ NSW :  National Single Window  โดยมีศูนย์กลางคือกรมศุลกากร  ซึ่งเป็นการปฎิบัติงานที่ได้ผลดีโครงการนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดีทำให้เกิดความสะดวกในการปฏิบัติงาน อีกทั้งทุ่นเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำงานมากขึ้นเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของประเทศอย่างยิ่ง

 

หัวข้ออบรม

  1. ทำไมต้องเปิดเสรีทางการค้า
  2. FTA คืออะไร และมีกี่ประเภท ?
  3. FTA ช่วยผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและนำเข้าอย่างไร
  4. หลักเกณฑ์การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ FTA
  5. FTA ที่มีผลบังคับกับประเทศไทย และที่อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศไทย
  6. วิธีการตรวจสอบสิทธิพิเศษภายใต้ FTA
  • ทวิภาคี : JTEPA, TIFTA, TAFTA, TNZFTA, TPEFTA, TCHFTA, TPFTA, TTFTA, TSFTA, TEUFTA, T-EFTA
  • พหุภาคี : * WTO, ATIGA* ACFTA* AKFTA* AJFTA* AIFTA* AANZFTA* AHFTA* BIMSTEC* TCFTA*
  1. ใช้สิทธิลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรภายใต้ FTA ได้อย่างไร
  2. เอกสารการรับรองถิ่นกำเนิดมีอะไรบ้าง
  3. กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (RULE OF ORIGIN)
  • เกณฑ์สูงสุด WO,
  • เกณฑ์นำเข้าวัตถุดิบมาผลิต RVC, CTC, SP
  • เกณฑ์ร่วมกันผลิตในภาคีเดียวกัน
  1. ระเบียบปฏิบัติในการนำเข้าของไทยภายใต้ FTA
  2. การวางประกัน ด้วยเหตุแห่งความสงสัยว่าเอกสารจะผิดพลาด
  3. หลักเกณฑ์เงื่อนไขพิธีการศุลกากรในการนำเข้า
  4. สิทธิเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าแบบตรง (Direct Consignment & Transhipment)
  5. การใช้สิทธิโดยการซื้อขายผ่านประเทศที่สาม (3rd Party  Invoicing)
  6. การออกแบบหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดแทนกัน ( Back to Back)
  7. การออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดย้อนหลังทำอย่างไร
  8. การตรวจสอบหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดในการใช้สิทธิพิเศษ
  9. กรณีได้สิทธิโดยยกเว้นหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด
  10. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสาร และรับรองให้ออกเอกสารเองได้
  11. ถาม-ตอบ

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

โปรโมชั่น 

  • สมัครลงทะเบียน 1 ท่าน  ในราคาท่านละ 2,500 บาท ไม่รวม vat 7%
  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรม Novotel Bangkok  Sukhumvit 20 

โรงเเรม Novotel Bangkok Sukhumvit 20 ลง สถานี BTS อโศก  ทางออกประตู 6

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ลงทะเบียนOnline คลิ๊ก !!

  บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร การจัดการคลังสินค้า บริหารเเละควบคุมสต๊อกสมัยใหม่ อบรม 17 ตุลาคม 2567

ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร การจัดการคลังสินค้า บริหารเเละควบคุมสต๊อกสมัยใหม่ อบรม 17 ตุลาคม 2567

หลักการเเละเหตุผล

การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปทาน

การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Controlสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง  ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย

 

ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลง

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็วในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้า
  2. เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมาก
  3. เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
  4. เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
  5. เพื่อเพิ่มรอบการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า

 

เนื้อหาของหลักสูตร

เวลา 09.00-10.30 น.

  1. การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

– การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

– การจัดพื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การวางผังของคลังสินค้าและการจัดการการ

ไหล                –

– การวัดผลการปฏิบัติงานของคลังสินค้า

 การวัดอัตรารอบการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)

พัก 15 นาที เวลา 10.30-10.45 น.

เวลา 10.45-12.00 น.

  1. การควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ

                    – การจัดการและบริหารต้นทุนสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ

– Economic Order Quantity (EOQ) การสั่งซื้อที่ประหยัด

– การกำหนดค่า Safety Stock และจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point) ที่เหมาะสม

พัก 1 ชั่วโมง เวลา 12.00-13.00 น.

เวลา 13.00-14.30 น.

  1. การแบ่งกลุ่มสินค้าคงคลังแบบ ABC

– การตรวจนับสินค้าตามรอบระยะเวลา (Cycle Count inventory)

– วิธีการตรวจนับสินค้าด้วยระบบ Stock Card

– การแบ่งกลุ่มสินค้าตามหลักการ Pareto

– การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลัง Type A, B และ C

พัก 15 นาที เวลา 14.30-14.45 น.

เวลา 14.45-16.00 น.

  1. เครื่องมือและเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้า

– การใช้ Barcode & RFID ในการบ่งบอกสินค้า

– การใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System)

  1. กรณีศึกษา การลดต้นทุนการดำเนินงานคลังสินค้าอย่างได้ผล

– การใช้ระบบ Pick face เพื่อการหยิบสินค้า

 

วิธีการสัมมนา   การบรรยาย การฝึกปฏิบัติ  และร่วมอภิปราย

 

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  ผู้จัดการคลังสินค้า/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต วิศวกร

 

ระยะเวลา        1 วัน จำนวนวันละ  6 ชั่วโมง  เวลา 9.00 – 16.00 น.

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

– ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น

– ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain

Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

– อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี

ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต

– ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์

โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

คาหลักสูตรออนไลน์ รับวุฒิบัตรใบประกาศ

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

โปรโมชั่น 

  • สมัครลงทะเบียน 1 ท่าน  ในราคาท่านละ 2,500 บาท ไม่รวม vat 7%
  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

รูปเเบบที่ 2

จัดอบรม โรงเเรม สถานที่จัด โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก เดินทางสดวก

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

หลักสูตร การวิเคราะห์ข้อบกพร่องและผลกระทบ (FAILURE MODE AND EFFECTS ANALYSIS) (FMEA)(อบรม 16 ต.ค. 67)

หลักสูตร การวิเคราะห์ข้อบกพร่องและผลกระทบ (FAILURE MODE AND EFFECTS ANALYSIS) (FMEA)(อบรม 16 ต.ค. 67)

 

หลักการและเหตุผล

FMEA เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์และป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบให้ผลลัพธ์ของกระบวนการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงการออกแบบกระบวนการที่ป้องกันความเสี่ยงอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น FMEA จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้กับกระบวนการทุกประเภท ทั้งในระดับกระบวนการ กระบวนการย่อย หรือระดับผลิตภัณฑ์ โดยใช้ได้ทั้งกระบวนการผลิตสินค้า (Production) และการบริการ (Service)

เราจะใช้ FMEA เมื่อมีการออกแบบกระบวนการใหม่ (Design) หรือนำกระบวนการเดิมมาออกแบบใหม่ (Redesign) เพื่อให้มีประสิทธิผลมากขึ้นเพื่อตอบสนองการแปลงความต้องการของลูกค้า และให้เป็นไปกำหนดและมีคุณสมบัติของผลลัพธ์ตามที่ต้องการ รวมถึงใช้กับกระบวนการที่มีอยู่ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลบางประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงจาก 4 M (Man : คน) , (Machine : เครื่องจักร), (Material :วัตถุดิบ), (Method : วิธีการ) หรือการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

ยิ่งกว่านั้น เราสามารถใช้ FMEA ในกรณีที่หากมีการปรับหรือเพิ่มเป้าหมายของกระบวนการให้ดีและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย รวมถึงสามารถใช้วิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลว หรือข้อผิดพลาดของกระบวนการ และเมื่อต้องการทบทวนประสิทธิผลหรือเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการหลังจากที่ได้ดำเนินการสิ้นสุดไปแล้วร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

วัตถุประสงค์

1. เพื่อสามารถวิเคราะห์และป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบให้ผลลัพธ์ของกระบวนการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

2. เพื่อสามารถออกแบบกระบวนการใหม่หรือปรับกระบวนการเดิมให้เป็นไปตามที่ต้องการมากขึ้น

3. เพื่อสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการให้มีความยืดหยุ่นตามที่ลูกค้าต้องการได้มากขึ้น

4. เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลว หรือข้อผิดพลาดของกระบวนการ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการให้มากขึ้น

5. เพื่อสร้างส่วนหนึ่งของระบบมาตรฐานการจัดการคคุณภาพและมาตรฐานการบริหารความเสี่ยง

6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการให้อยู่ในขั้นดีเลิศ (The Best Practice Process)

7. เพื่อลดต้นทุน ลดของเสีย เพิ่มผลิตภาพ และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

8. เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในเรื่องการจัดการคุณภาพ และมาตรฐานการทำงานให้กับพนักงานในองค์กร

เนื้อหาของหลักสูตร

1. FMEA คืออะไร, กระบวนการพื้นฐานของ FMEA, การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Assessment), การพัฒนากระบวนการ (Process Improvement) ด้วย FMEA

2. การเริ่มต้นวิเคราะห์กระบวนการด้วย FMEA

3. ลักษณะสำคัญของการวิเคราะห์ด้วย FMEA

4. การวิเคราะห์และการคัดเลือกปัญหาด้วยเทคนิค FMEA

5. ประเภทของ FMEA

6. ขั้นตอนการทำ FMEA (รวบรวมข้อมูล, ระดมสมอง, ประเมินตัวเลขของปัจจัยต่างๆ, คำนวณค่าลำดับคะแนนความเสี่ยง (Risk Priority Number: RPN))

7. การเขียน Process Flow Chart, Process Trees, และสายธารแห่งคุณค่า (Value Stream Mapping)

8. การออกแบบ FMEA Worksheet

9. เกณฑ์การให้คะแนนในปัจจัยด้านความรุนแรงของปัญหา (Severity), ด้านโอกาสในการเกิดปัญหา (Occurrence) และ ด้านความสามารถในการตรวจจับ (Detection)

10. การวิเคราะห์สาเหตุ, การประเมินผลที่ได้จาก FMEA และการกำหนดวิธีการแก้ไขป้องกัน

11. การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการด้วยเครื่องมืออื่น เพื่อให้เกิด Excellence Process อย่างยั่งยืน

12. กรณีศึกษาการวิเคราะห์ปัญหาด้วย FMEA

หมายเหตุ หัวข้อสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความคิดเห็นของวิทยากร

 

วิธีการสัมมนา   การบรรยาย การให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติการ ระดมสมองและร่วมอภิปราย

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต ฝ่ายซ่อมบำรุง ฝ่ายควบคุมคุณภาพ วิศวกร และฝ่ายอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง

ระยะเวลา 1 วัน จำนวนวันละ  6 ชั่วโมง  เวลา 9.00 – 16.00 น.

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ 14 ตุลาคม 2667 อ.อนันต์

เปิดรับสมัคร หลักสูตร การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ  14 ตุลาคม 2667  อ.อนันต์

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

MRP (Material Requirements Planning) คือ แผนหรือตารางความต้องการวัตถุดิบ (Items) ในแต่ละวันของการผลิต และตามสูตรการผลิต (Bill of Material: BOM) ของสินค้าหนึ่ง ๆ ดังนั้น MRP จึงขึ้นอยู่กับความต้องการวัตถุดิบจากสูตรการผลิตและตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ (dependent demand) เช่น แผนความต้องการขวดเปล่าเพื่อบรรจุน้ำอัดลม หรือ ฝาขวด, ฉลากปิดขวด, น้ำตาล และแก๊ส รวมถึงแผนความต้องการน้ำดิบบริสุทธิ์เพื่อนำไปกรองและผสมตามสูตรการผลิต โดยสามารถบรรจุขวดและวางลงในกล่องหีบห่อได้อย่างเพียงพอ โดยตารางความต้องการวัตถุดิบหรือ MRP มีหัวข้อที่สำคัญคือ

  1. Gross Requirements คือ จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  2. Scheduled Receipts คือ ตารางการรับวัสดุที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  3. Projected Stock Balance คือ จำนวนวัตถุดิบที่คาดหวังว่าต้องมีให้พร้อมเพื่อรองรับการผลิตในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  4. Net Requirements คือ จำนวนวัตถุดิบที่ต้องการสุทธิทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  5. Planned Order Receipts คือ แผนการรับวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  6. Planned Order Releases คือ แผนการสั่งวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

            หัวข้อต่าง ๆเหล่านี้ล้วนนำมาใช้ในการสร้างตาราง MRP ให้เกิดความสมบูรณ์ โดยมีข้อมูลประกอบเพิ่มเติมคือ Lead time ของการจัดส่งสินค้าของแต่ละ Supplier และ ปริมาณสินค้าคงคลังที่นับได้ล่าสุดอีกด้วย

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อสามารถผลิตสินค้าและส่งมอบได้ทันตามที่ลูกค้ากำหนด
  2. เพื่อลดเวลาการรอคอยวัตถุดิบจาก Supplier ที่มี Lead time การส่งมอบที่ยาวนานได้
  3. ลดเวลาการ Downtime ของเครื่องจักรที่เกิดจากการป้อนวัตถุดิบไม่ทันหรือไม่เพียงพอ
  4. ลดปริมาณและต้นทุนสินค้าคงคลังทั้งวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป และสินค้าสำเร็จรูปลงได้
  5. ลดต้นทุนการผลิตสินค้าจากการผลิตแบบ Just in time (JIT)
  6. ลดต้นทุนการจัดซื้อ จัดหา
  7. ลดความแปรปรวนของการผลิตและแผนการผลิตประจำวัน
  8. ลดปริมาณสินค้า Safety Stock
  9. ลดพื้นที่การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  10. สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

 

หัวข้อเนื้อหา   

  1. ระบบ MRP (Material Requirements Planning) คืออะไร วัตถุประสงค์และประโยชน์
  2. ระบบ MRP (Material Requirements Planning) และ S&OP (Sales and Operation Planning)
  3. การพยากรณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้า (Customer Demand Forecasting) กับการพยากรณ์การขาย (Sales Forecasting)
  4. การวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดขายสินค้า (Sales Predictive Analytics)
  5. ขั้นตอนของกระบวนการทำระบบ MRP
  6. ความแตกต่างระหว่าง MPS (Master Production Schedule) กับ MRP (Material Requirements Planning)
  7. การคำนวณตาราง MRP (Master Production Schedule)
  8. การตั้งสูตรการผลิตสินค้า (Bill of Material: BOM)
  9. การคำนวณตาราง MRP (Material Requirements Planning)
  10. MRP กับการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง
  11. ต้นทุนสินค้าคงคลัง (Cost of Inventory)
  12. ระบบ EOQ (Economic Order Quantity)
  13. การหาจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point: ROP)
  14. การกำหนดปริมาณสินค้าในคลังสินค้าเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock)
  15. กลยุทธ์การวางแผนการผลิตและการจัดซื้อแบบ Just in Time (JIT for Planning & Purchasing)

 

ระยะเวลาอบรม           1 วัน เวลาอบรมจำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  

 

วิทยากร          อาจารย์อนันต์  ดีโรจนวงศ์

 

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, อภิปรายเชิงปฏิบัติการ, ให้คำปรึกษา

 

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

                                      มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี     

                                      ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                                    – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์    

                                      โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร มาตรการการต่อต้านการก่อการร้าย เเละ ระดับมาตรฐานเออีโอ ที่ควรรู้ อบรม 11 ตุลาคม 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร มาตรการการต่อต้านการก่อการร้าย เเละ ระดับมาตรฐานเออีโอ ที่ควรรู้ อบรม  11 ตุลาคม  2567

 

ภัยคุกคามที่น่ากลัวในโลกยุคใหม่คือการก่อการร้ายที่อาจแฝงมาการทำการค้าในยุคนี้  เพราะในปัจจุบันเราทำงานในระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีความรวดเร็วเป็นเดิมพันในการทำธุรกิจ  การย่นเวลาการทำงานต้องอาศัยประสิทธภาพของงานจะไม่ปล่อ่ยให้เกิดช่องว่างในการสวมรอยของกิจการอื่นที่มิใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของงานเป็นเด็ดขาด  ฯ

มาตรการการต่อต้านการก่อการร้าย

  1. โครงการความร่วมมือระหว่างศุลกากรสหรัฐอเมริกากับภาคธุรกิจเอกชนเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย
  2. C-TPAT คืออะไร ?
  3. ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติตามมาตรฐาน C-TPAT
  4. ความปลอดภัยด้านบุคลากร
  5. ความปลอดภัยด้านกายภาพ
  6. ความปลอดภัยสถานประกอบการ
  7. ความปลอดภัยด้านการจัดการสินค้า
  8. การเตรียมความพร้อมรับมือภัยคุกคาม
  9. ระบบการเตรียมความพร้อมป้องกัน

 

  • ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)
  • ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง
  • ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท
  • ราคาดังกล่าว ฟรี1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)2) ใบประกาศผ่านการอบรม3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

 

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยันจัด หลักสูตร การบริหารจัดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ (Transportation Management 4.0) 11 ตุลาคม 2567

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยันจัด หลักสูตร การบริหารจัดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ (Transportation Management 4.0)  11 ตุลาคม 2567

หลักการเเละเหตุผล
ปัจจุบันการขนส่งมีบทบาทมากในวงการอุตสาหกรรมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ จากระบบการขนส่งในภาพรวมเริ่มจากการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า การวางแผนด้านการผลิตหรือบริการ การตรวจสอบ การบรรจุสินค้า และการจัดส่งหรือขนส่งไปยังลูกค้า ที่กล่าวมาเบื้องต้นในทุกๆขั้นตอนมีระบบการขนส่งที่มีรายละเอียดที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารการขนส่ง ที่กล่าวมาทั้งหมดยังแฝงไปด้วยรายละเอียดที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในด้านการขนส่งต่างๆที่เกิดขึ้นและที่สำคัญในเรื่องของการควบคุมคุณภาพในขั้นตอนการปฏิบัติงานด้านการขนส่ง ดังนั้นเราจะต้องเรียนรู้เทคนิคต่างๆ แนวคิดด้านการบริหารการขนส่ง การลดต้นทุนแต่ไม่ลดคุณภาพงานรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพงานในด้านการขนส่งเพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจมีกำไรและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดไป

วัตถุประสงค์
สามารถเข้าใจแนวคิดการบริหารงานขนส่ง
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารงานจัดส่งสินค้า
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิดพื้นฐานการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตระบบงานขนส่งสินค้า
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการหรือเครื่องมือไปใช้ในระบบงานขนส่งและสามารถวิเคราะห์ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงเทคนิคและวิธีการประยุกต์ใช้ที่ถูกต้องเหมาะสมในการปรับปรุงการปฏิบัติงานในงานขนส่งได้

หัวข้ออบรม
หลักแนวคิดการขนส่งกับกระบวนการโลจิสติกส์ในภาพรวม
หลักพื้นฐานในการบริหารงานขนส่งสินค้า
รูปแบบหลักการของการขนส่ง
การขนส่งสินค้าและข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ
พักเบรก
บรรยาย (ต่อ)
การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
ขั้นตอนการปฏิบัติงานในงานขนส่ง
การจัดเส้นทางและการจัดตารางการขนส่ง
โครงสร้างต้นทุนของการขนส่งสินค้า
พักกลางวัน
บรรยาย (ต่อ)
การจัดจ้างงานบริการขนส่งจากภายนอก
การควบคุมคุณภาพของการให้บริการด้านขนส่ง
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการงานขนส่งสินค้า
ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานด้านขนส่ง
พักเบรก
เทคนิคการจัดการเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
การขนส่งแบบ Home Delivery หรือ Last mile delivery
ที่กำลังได้รับความ นิยม
การส่งมอบสินค้าแบบทันเวลาพอดีหรือ JIT (Just In Time)
Transport 4.0 ระบบขนส่งในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
กรณีศึกษา
สรุปการเรียนรู้และถามตอบ

อัตราค่าลงทะเบียนอบรม
2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat) 09.00-16.00
พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM
หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

สามารถจัดรูปเเบบ In-house Training (การอบรมภายในสถานที่) การจัดอบรมที่ทางสถาบันจะเข้าไปทำการฝึกอบรมให้ที่บริษัทของลูกค้าเองได้ค่ะ

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

http://www.tesstraining.com

ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร. การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ 9 ตุลาคม 2567

ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร. การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ  9 ตุลาคม  2567

หลักการเเละเหตุผล

การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปทาน

การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Controlสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง  ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย

 

ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลง

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็วในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้า
  2. เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมาก
  3. เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
  4. เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
  5. เพื่อเพิ่มรอบการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า

 

เนื้อหาของหลักสูตร

เวลา 09.00-10.30 น.

  1. การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

– การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

– การจัดพื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การวางผังของคลังสินค้าและการจัดการการ

ไหล                –

– การวัดผลการปฏิบัติงานของคลังสินค้า

 การวัดอัตรารอบการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)

พัก 15 นาที เวลา 10.30-10.45 น.

เวลา 10.45-12.00 น.

  1. การควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ

                    – การจัดการและบริหารต้นทุนสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ

– Economic Order Quantity (EOQ) การสั่งซื้อที่ประหยัด

– การกำหนดค่า Safety Stock และจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point) ที่เหมาะสม

พัก 1 ชั่วโมง เวลา 12.00-13.00 น.

เวลา 13.00-14.30 น.

  1. การแบ่งกลุ่มสินค้าคงคลังแบบ ABC

– การตรวจนับสินค้าตามรอบระยะเวลา (Cycle Count inventory)

– วิธีการตรวจนับสินค้าด้วยระบบ Stock Card

– การแบ่งกลุ่มสินค้าตามหลักการ Pareto

– การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลัง Type A, B และ C

พัก 15 นาที เวลา 14.30-14.45 น.

เวลา 14.45-16.00 น.

  1. เครื่องมือและเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้า

– การใช้ Barcode & RFID ในการบ่งบอกสินค้า

– การใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System)

  1. กรณีศึกษา การลดต้นทุนการดำเนินงานคลังสินค้าอย่างได้ผล

– การใช้ระบบ Pick face เพื่อการหยิบสินค้า

 

วิธีการสัมมนา   การบรรยาย การฝึกปฏิบัติ  และร่วมอภิปราย

 

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  ผู้จัดการคลังสินค้า/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต วิศวกร

 

ระยะเวลา        1 วัน จำนวนวันละ  6 ชั่วโมง  เวลา 9.00 – 16.00 น.

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

– ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น

– ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain

Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

– อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี

ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต

– ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์

โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

คาหลักสูตรออนไลน์ รับวุฒิบัตรใบประกาศ

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

โปรโมชั่น 

  • สมัครลงทะเบียน 1 ท่าน  ในราคาท่านละ 2,500 บาท ไม่รวม vat 7%
  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

รูปเเบบที่ 2

จัดอบรม โรงเเรม สถานที่จัด โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก เดินทางสดวก

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยันจัด หลักสูตร การวางแผนและควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ (Production Planning &Control) อบรม 4 ตุลาคม 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยันจัด หลักสูตร การวางแผนและควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ 

(Production Planning &Control) อบรม 4 ตุลาคม 2567

 

โดย อ.บรรพต  เทพฤทธิ์

หลักการและแหตุผล

ในโลกการแข่งขันทางอุตสาหกรรมปัจจุบัน  องค์กรธุรกิจต่างมุ่งแสวงหาแนวทางการผลิต , การบริหารกระบวนการที่จะสามารถตอบโจทย์ทางด้านการแข่งขันได้  ทั้งเรื่องต้นทุนการผลิต และระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตจนถึงการส่งมอบ  ดังนั้นแนวคิด  และทฤษฎีด้านการบริหารจัดการการผลิตในอุตสาหกรรมจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นจำนวนมาก  และได้รับการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม  เช่นแนวคิดการผลิตแบบ Lean ที่มุ่งเน้นการกำจัดความสูญเปล่าด้านต่างๆในการผลิตออกไป  ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอีกทั้งยังเหมาะสมกับเฉพาะบางอุตสาหกรรมเท่านั้น

หลักสูตรนี้  จึงพัฒนาขึ้นเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของระบบการบริหารจัดการการผลิตแบบต่างๆ ที่มีอยู่  ,ข้อดีข้อเสีย และรายละเอียดลึกๆของการบริหารจัดการแต่ละแบบ  เพื่อมุ่งหวังให้ผู้เข้าอบรม  ได้เรียนรู้  และนำหลักการบางส่วนไปปรับปรุง , เปลี่ยนแปลงแก้ไข  กระบวนการผลิตที่ตนเองดูแลรับผิดชอบ  ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  และช่วยในการพัฒนาผลิตภาพด้านแรงงานให้สูงขึ้นอีกด้วย

 

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนและควบคุมการผลิต
    2. เพื่อทำให้ผู้อบรมสามารถเห็นภาพรวมของการวางแผนและควบคุมการผลิตทั้งหมด
    3. เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม

รายละเอียดเนื้อหาตามหลักสูตร

เข้าใจหลักพื้นฐานและความสัมพันธ์ของระบบการผลิต
• ปัจจัยการผลิต (input), กระบวนการผลิต, และผลผลิต (output)
2. การพยากรณ์ความต้องการ (Forecasting) อย่างมืออาชีพ
• ประเภทของการพยากรณ์
• ขั้นตอนและวิธีการพยากรณ์ ที่ช่วยในการคาดคะเนความต้องการของลูกค้า
• กลยุทธ์การพยากรณ์โดยใช้รูปแบบอนุกรมเวลาและรูปแบบเหตุผล
3. การวางแผนกำลังการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
• กำลังการผลิต และการวางแผนกำลังการผลิต
• การเลือกกำลังการผลิตที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
• การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน เพื่อช่วยในการตัดสินใจการลงทุนในด้านต่างๆ
4. การวางแผนการผลิตอย่างมีระบบ
• แผนการผลิตรวม (Aggregate Plan)
• ตารางการผลิตหลัก (Master Scheduling)
5. เทคนิคการวางแผนความต้องการวัสดุและทรัพยากรองค์กร
• ระบบของ MRP
• ขั้นตอนการวางแผน MRP อย่างมีประสิทธิภาพ
6. กลยุทธ์การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) ได้อย่างเหมาะสม
• เทคนิคการหาปริมาณการสั่งซื้อที่เหมาะสม (EOQ) ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต
• เทคนิคการหาปริมาณการผลิตที่เหมาะสม
7. กลยุทธ์การจัดตารางการผลิต และการกำหนดงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
• การจัดตารางการปฏิบัติการ, การกำหนดภาระงานและจัดลำดับงานให้กับหน่วยปฏิบัติการ
8. การประกอบและการจัดสมดุลของสายการผลิตด้วยระบบแบบทันเวลาพอดี (JIT) และระบบแบบลีน (Lean) ช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างไร

ระยะเวลาในการฝึกอบรม

ระยะเวลาในการฝึกอบรม 1 วัน

ผู้ควรได้รับการฝึกอบรม

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์โครงการ ทีมพัฒนาธุรกิจ ผู้จัดการ  หัวหน้างาน  Line Leader  พนักงานของบริษัทและผู้สนใจทั่วไป

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

PUBLIC TRAINING หลักสูตร : การลดความสูญเสียทั้ง 7 ประการ เพื่อลดต้นทุนการผลิต 7 Waste for cost reduction อ.อนันต์ ยืนยันจัด เปิด 4 ตุลาคม 2567

PUBLIC TRAINING หลักสูตร : การลดความสูญเสียทั้ง 7 ประการ เพื่อลดต้นทุนการผลิต

7 Waste for cost reduction  อ.อนันต์ ยืนยันจัด เปิด 4 ตุลาคม 2567  

ณ.โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก

 

หลักสูตรการลดความสูญเสีย ทั้ง 7 ประการนี้  จึงเป็นสิ่งสำคัญหนึ่งในระบบการผลิตและงานบริการ เป็นการกำจัดความสูญเสียและปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องในกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกิจกรรมหรืองานที่ดำเนินการให้ดีขึ้น

การลดต้นทุนเป็นเรื่องที่หลายองค์กรให้ความสนใจ เพราะมีผลต่อทั้งประสิทธิภาพในการผลิต ลดความสูญเสีย รวมถึงการทำกำไร นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงเรื่องคุณภาพของผลผลิต การปฏิบัติงานอีกด้วย

หากขาดซึ่งการพยายามปรับปรุงแก้ไขวิธีการทำงาน ให้ดีขึ้น ความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นตามมา อาจทำให้องค์กรต้องสูญเสียลูกค้าและกำไร การลดความสูญเสียถือเป็นหน้าที่ของพนักงานและผู้บริหารทุกคน ดังนั้น ทุกคนต้องมีความรู้ จิตสำนึก การสังเกต หาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขป้องกัน เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

สภาวะปัจจุบันที่มีการแข่งขันทางด้านธุรกิจกันอย่างรุ่นแรง ทั้งจากภายในและต่างประเทศ ทำให้สถานประกอบการต่าง ๆ ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตต้องการปรับตัวเป็นอย่างมาก การสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันโดยการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง(High Quality) ต้นทุนการผลิตที่ต่ำอย่างเหมาะสม (Low Cost) และส่งมอบสินค้าได้ตรงกำหนดเวลา (On Time Delivery) จึงมีความจำเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มศักยภาพบริหารการผลิตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบขององค์กร โดยนำแนวคิดการบริหารจัดการระบบ LEAN มาใช้เพื่อควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต 7 + 1 ประการสำคัญที่มีอยู่ในองค์กร ได้แก่ ความสูญเสียจากการผลิตมากเกินไป (Over Production Waste) ความสูญเสียจากการขนส่ง (Transportation Waste) ความสูญเสียจากการรอคอย (Waiting Waste) ความสูญเสียจากสินค้าคงคลัง (Inventory Waste) ความสูญเสียจากผลิตภัณฑ์บกพร่อง (Defects Waste) ความสูญเสียจากการเคลื่อนไหว (Motion Waste) และ ความสูญเสียจากกระบวนการมากเกินไป (Over processing Waste) และความสูญเสียจากการขาดความคิดสร้างสรรค์และใช้คนที่ไม่เหมาะสมกับงาน (Non-Utilized Talent)

LEAN คือ ปรัชญาในการผลิต ที่ถือว่าความสูญเปล่าเป็นตัวทำให้เวลาที่ใช้ในการผลิตยาวนานขึ้น และควรที่จะมีการนำเทคนิคต่าง ๆมาใช้ในการกำจัดความสูญเปล่าเหล่านั้นออกไป การผลิตแบบ Lean คือ การใช้หลักการชุดหนึ่งในการระบุและกำจัดความสูญเปล่า เพื่อส่งมอบสินค้าที่ลูกค้าต้องการทันเวลาที่ต้องการ Lean คือ แนวทางที่จะพัฒนา จังหวะ (RHYTM), การไหล (FLOW) และ สมดุล (BALANCE) ในกระบวนการผลิตใด ๆ และสามารถนำระบบ LEAN มาใช้เพื่อลดความสูญเปล่าโดยมีจุดประสงค์ในการลดต้นทุนการผลิตและสามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานให้ดี มีประสิทธิภาพ มีต้นทุนที่ต่ำอย่างเหมาะสม สร้างศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้องค์กรมีผลกำไรในการดำเนินธุรกิจได้เพิ่มขึ้น

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้เข้าใจถึงเหตุผล และความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการผลิต
  • เพื่อทราบถึงความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตและแนวทางในการลดความสูญเปล่าเหล่านั้น
  • เพื่อลดระยะเวลาการผลิตได้ตามที่ลูกค้าต้องการอย่างต่อเนื่อง
  • เพื่อได้รู้ถึงเทคนิคการลดต้นทุนการผลิตในธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม
  • เพื่อการวิเคราะห์เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เป็นเลิศ (The Best Practice)
  • เพื่อการปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง

รายละเอียดของหลักสูตร (Key Contents)

  • หลักการ LEAN (LEAN Principles)
  • การวิเคราะห์ผลิตภาพด้วยแผนภูมิสายธารแห่งคุณค่า (Value Stream Mapping)
  • การจัดสมดุลสายงาน (Line Balancing)
  • การผลิตอย่างต่อเนื่อง (Continuous Flow)
  • การลดความสูญเปล่า 7 + 1 ประการ (8 Wastes)
  • การทำงานอย่างเป็นมาตรฐาน (Standardized Works)
  • การปรับเปลี่ยนรุ่นการผลิต (Single Minute Exchange of Dies : SMED)
  • การควบคุมคุณภาพด้วยหลักการ QC 7 Tools
  • ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time)
  • กิจกรรม 5ส.
  • Kaizen (การปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง)
  • A3 form
  • Work Instruction
  • แนวความคิดหลักเกี่ยวกับความสูญเปล่าเปล่าและต้นทุน 7+1 Waste
  • การประยุกต์ใช้เครื่องมือ ไคเซ็น , Visual control และ Poka Yoke เพื่อลดความสูญเสีย
  • เทคนิคของการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องด้วยหลัก PDCA เพื่อลดความสูญเปล่าในการทำงาน
  • ตัวอย่างต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการลด Waste ขององค์กรอื่นๆ
  • Work Shop1 “ระดมสมองเพื่อวิเคราะห์ความสูญเสียในการทำงาน”
  • Work Shop2 “ใจเขาใจเรากับคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ”
  • Work Shop3 “มาสร้างเป้าหมายการทำงานร่วมกันด้วยการทำงานเป็นทีม”
  • แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถามตอบ

วิธีการสัมมนา   การบรรยาย การให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และถาม-ตอบ

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ ฝ่ายซ่อมบำรุง ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

ระยะเวลา        1 วัน จำนวนวันละ 6 ชั่วโมง  เวลา 9.00 – 16.00 น.

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร กระบวนการนำเข้า-ส่งออก ภาษีศุลกากร และข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อบรม 2-3 ตุลาคม 2567

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร กระบวนการนำเข้า-ส่งออก ภาษีศุลกากร และข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อบรม 2-3 ตุลาคม 2567

 

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

 

อบรมแบบ On-Site

ราคา โปรโมรชั่น 3,500 บาท/วัน อบรม 2 วัน 7,000 บาท/2 วัน

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

หลักการและเหตุผล 

          การส่งออกและนำเข้าสินค้าในปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของประเทศและของโลก ประกอบกับการค้าวิถีใหม่ NEW NORMAL  เป็นการค้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์  ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผู้ปฏิบัติต้องมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจอย่างชาญฉลาด ทันสมัย ตามการค้าของโลกที่เปลี่ยนไปเร็วมาก

สิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออก, นักธุรกิจ, ผู้ผลิต, ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ, นายหน้าหรือตัวแทนการค้า, รวมทั้งพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวและผู้สนใจทั่วไป จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของการค้ายุคใหม่ที่นำเอาระบบ Logistics & Supply Chain มาบริหารจัดการให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกและได้รับผลสำเร็จคุ้ม ค่ากับการลงทุน

 

วันที่ 1 (บรรยายโดย อ.วิรัตน์ บาหยัน)

เนื้อหาการอบรมมีดังนี้

– การเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจส่งออกและนำเข้าในระบบโลจิสติกส์ ภายใต้พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560

– หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้าตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

– ความรับผิดในการเสียค่าอากร การคำนวณค่าภาษีอากร

– อายุความในการประเมินอากรหลังการตรวจปล่อย (Post Clearance Audit)

– ความรู้ทางด้านการค้าระหว่างประเทศ (Import -Export Operations)

  1. สินค้าที่มีมาตรการนำเข้าและส่งออกตามพระราชบัญญัติ ฯ พ.ศ.2558
  • สินค้าต้องห้าม-ต้องกำกัด
  • สินค้าที่ห้ามนำผ่านและผ่านได้
  • สินค้าที่ต้องมีมาตรฐาน
  1. e-Import : การผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการนำเข้า
  2. หลักเกณฑ์ด้านพิกัดอัตราศุลกากร (HS Code) พิกัดอัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน (AHTN)
  3. หลักเกณฑ์ด้านราคาศุลกากร Gatt Valuation ในการประเมินภาษีอากรในการนำเข้า
  4. หลักเกณฑ์การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีอากรว่าด้วยการเปิดเสรีทางการค้า

– การยกเว้นหรือลดอัตราอากรสำหรับเขตการค้าเสรี (FTA)

–  การตรวจสอบสิทธิก่อนและหลังการนำสินค้าเข้า

–  การรับรองแหล่งกำเนิดด้วยตนเอง (Self Certification)

  1. e-Export: พิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสินค้าส่งออก
  2. การยกเว้นอากรสำหรับของส่งออกแล้วจะนำกับเข้ามาในภายหลัง (สุทธินำกลับ)
  3. การขอคืนอากรสำหรับสินค้าที่นำเข้ามาแล้วส่งกลับออกไป (Re-Export)
  4. การคืนอากรสำหรับของที่นำเข้ามาผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด(มาตรา 29)
  5. การใช้สิทธิประโยชน์ของคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) เขตปลอดอากร (Free Zone) เขตประกอบการเสรี (I-EAT Free Zone)
  6. การขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออก (Tax Coupon)
  7. ปัญหา ข้อควรระวัง และแนวทางในการแก้ไขข้อผิดพลาดการนำเข้า-ส่งออก
  8. การรับรองป้องกันภัยจากการก่อการร้ายจากมาตรฐานเออีโอ (AEO) and (C-TPAT)

ดูเเลให้คำปรึกษาหลังอบรมฟรี สำหรับลูกค้าอบรม

 

วันที่ 2 โดย อาจารย์ มนตรี ยุวชาติ

1 .ความหมายของการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

–  ขั้นตอนในการติดตามการทำการค้า และการส่งสินค้าระหว่างประเทศ

–  วงจรการชำระเงิน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการชำระเงินระหว่างประเทศ

–  เทคนิคในการพิจารณาผู้ซื้อ และผู้ขาย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียเปรียบในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ
2.  การเลือกใช้ข้อตกลงในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ International Commercial Terms  (Incoterms® 2020) ตามเกณฑ์ของ

สภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce)

– Any Mode : EXW, FCA, CPT, CIP, DAP, DPU, DDP

–  Water Mode: FAS, FOB, CFR, CIF.

  1. 3. รู้จักความหมายของผู้จัดทำเอกสารการค้าระหว่างประเทศ และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำเอกสารผิดพลาด

3.1  เอกสารทางการเงิน (Financial Document)

–  Draft or Bills of Exchange

–  Promissory Note (P/N)

3.2  เอกสารทางการขนส่ง (Transport Document)

–  Bills for Lading

–  Multimodal Transport Documents

–  Air Waybills

–  Railway Receipt

–  Truck Receipt

–  Courier Receipt

3.3  เอกสารการประกันภัย (Insurance Documents)

–   กรมธรรม์ประกันภัย (Insurance Policy)

–   ใบรับรองการประกันภัย (Insurance Certificate)

3.3  เอกสารทางการค้า (Commercial Document)

–  ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)

–   ใบบรรจุหีบห่อสินค้า (Packing List)

–    ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin)

–     ใบวิเคราะห์สินค้า (Certificate of Analysis) ฯลฯ

  1. กฎเกณฑ์ที่ควรเข้าใจก่อนการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ
  2. ข้อห้ามในการทำการค้าระหว่างประเทศกับประเทศที่มีความเสี่ยง (High Risks Countries) หรือประเทศต้องห้าม
  3. สิ่งที่ควรทราบถึงกฎเกณฑ์ภาครัฐในการนำเข้า ส่งออกสินค้านอกเหนือจากกฎเกณฑ์ของกรมศุลกากร
  4. กรณีศึกษาการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ผิดวิธี

 

วิทยากรผู้บรรยาย

ภาคแรก อาจารย์วิรัตน์ บาหยัน อาจารย์มนตรี ยุวชาติ

อดีตเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และการให้คำปรึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ  มีความชำนาญในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมามากกว่า 40 ปี อีกทั้งยังเป็นวิทยากรผู้บรรยายในหัวข้อการค้าระหว่างประเทศในภาครัฐ และเอกชนมามากกว่า 30 ปี

 

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท20 ติด BTS อโศก

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com