เปิดรับสมัคร หลักสูตร : เทคนิคการลดต้นทุนและกำจัดความสูญเปล่าด้วย 7 Wastes Finding technique and cost saving by 7 Waste อบรม 2 ก.พ.66

เปิดรับสมัคร หลักสูตร :เทคนิคการลดต้นทุนและกำจัดความสูญเปล่าด้วย 7 Wastes Finding technique and cost saving by 7 Waste อบรม 2 ก.พ.66

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

ราคาท่านละ 2,000 บาท (ไม่รวม VAT) สมัคร 3 ท่านขึ้นไป เข้าอบรมได้ 4 ท่าน

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

 

การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เป็นการแข่งขันในการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มคุณภาพให้กับสินค้า ทำให้สามารถได้กำไรในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งง่ายกว่าการขึ้นราคาสินค้ามาก เทคนิคการลดต้นทุนทั้งในและนอกกระบวนการผลิตมีอยู่หลายวิธี MUDA MURI MURA

เป็นเทคนิคแนวคิดของประเทศญี่ปุ่นในการบริหารงาน Muda หรือความสูญเปล่า อาจเกิดได้หลายลักษณะ เช่น ความสูญเปล่าที่เกิดจากการรอ การเคลื่อนย้าย การปรับเปลี่ยน การทำใหม่ การถกเถียง ความสูญเปล่าทั้ง 8 ประการ (7+1 wastes)

ความสูญเปล่าที่ 1 ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction)

ความสูญเปล่าที่ 2 ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตของเสีย (Defect)

ความสูญเปล่าที่ 3 ความสูญเสียที่เกิดจากการล่าช้าหรือการรอคอย (Delay or Waiting)

ความสูญเปล่าที่ 4 ความสูญเสียที่เกิดจากการมีวัสดุคงคลังที่ไม่จำเป็น (Inventory / workin-process)

ความสูญเปล่าที่ 5 ความสูญเสียที่เกิดจากการขนส่งหรือขนย้าย (Transport)

ความสูญเปล่าที่ 6 ความสูญเสียเกิดจากการกระบวนการผลิต (Process)

ความสูญเปล่าที่ 7 ความสูญเสียที่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Motion)

ตามทฤษฎีเดิม 7 wastes ได้มีเพิ่มความสูญเปล่าตัวที่ 8 (ความสูญเปล่า 7+1 ประการ)

ความสูญเปล่าที่ 8 การใช้คนไม่เป็น (Underutilized people)

 

 

Mura หรือความไม่สม่ำเสมอ งานที่มีความไม่สม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นในเรื่องปริมาณงาน ทำให้เกิดความไม่สม่ำเสมอของผลงานตามไปด้วย และความไม่มีมาตรฐานของการทำงาน

Muri หรือการฝืนทำ การฝืนทำสิ่งใดๆ ก็ตามมักทำให้เกิดผลกระทบบางอย่างในระยะยาว

สรุปคือ MUDA ความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น MURI ความยากลำบากความไม่เป็นธรรมชาติ และ MURA ความไม่สม่ำเสมอในการทำงาน ความหมายรวมคือการเปรียบเทียบระหว่าง จุดประสงค์ (สิ่งที่ต้องการ) กับวิธีการ (วิธีที่จะทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ) วิธีการต่างเกินไปน้อยเกินไปหรือไม่สม่ำเสมอก็จะทำให้เกิดความสูญเปล่าได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ว่าจะมีแนวทางป้องกันแก้ไขด้วยวิธีการง่ายๆ ได้อย่างไรและสามารถนำไปประยุกต์ปฏิบัติใช้ได้อย่างมีประสิทธิผลเกิดประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้น

 

หลักสูตรนี้จึงเป็นคำตอบที่ดีของการใช้เครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการทำงานได้อย่างเป็นระบบและเห็นผลได้อย่างแน่นอน เป็นการรวบรวมเครื่องมือที่ใช้แก้ไขปัญหากับพนักงานในระดับปฏิบัติการและการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเพื่อช่วยกันระดมสมอง ในการแก้ไขปัญหาด้วยหลักการ 3MU เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

วัตถุประสงค์

เพื่อสร้างแนวคิดในการเลือกใช้เครื่องมือในการลดความสูญเสียในการผลิต อย่างเป็นระบบ

เพื่อเสริมสร้างแนวคิดการป้องกันการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นมีรูปแบบ

เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานและบริษัทอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเชื่อมั่นและกล้าถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ ความชำนาญในการทำงานเป็นกลุ่ม
เพื่อสร้างกลุ่มคุณภาพ ให้เกิดขึ้นจากบุคคลากรภายในหลังการฝึกอบรม

เพื่อสร้างการทำงานเป็นทีม การยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง เกิดความสามัคคี

เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับผู้เข้ารับการอบรม

 

 

หัวข้อการอบรม

  1. หลักการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมและงานบริการในปัจจุบัน

  2. งานและการสร้างผลงาน คืออะไร

  3. “กำไร” ขององค์กรเกิดขึ้นจากสิ่งใด

  4. 4. ความหมายและความสำคัญของคำว่า “ต้นทุน”

    5. ความท้าทายที่จำเป็นต้องมุ่งเน้นที่ “ความสูญเสีย”

6.ความหมายของหลักการลดต้นทุนด้วย “การลดความสูญเปล่า’

  1. 6. แนวความคิดหลักเกี่ยวกับความสูญเปล่าเปล่าและต้นทุน

  2. ความเป็นมาและความหมายของ 7 Waste

        ความสูญเปล่าที่ 1 ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction)

ความสูญเปล่าที่ 2 ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตของเสีย (Defect)

ความสูญเปล่าที่ 3 ความสูญเสียที่เกิดจากการล่าช้าหรือการรอคอย (Delay or Waiting)

ความสูญเปล่าที่ 4 ความสูญเสียที่เกิดจากการมีวัสดุคงคลังที่ไม่จำเป็น (Inventory / workin-process)

ความสูญเปล่าที่ 5 ความสูญเสียที่เกิดจากการขนส่งหรือขนย้าย (Transport)

ความสูญเปล่าที่ 6 ความสูญเสียเกิดจากการกระบวนการผลิต (Process)

ความสูญเปล่าที่ 7 ความสูญเสียที่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Motion)

  1. การประยุกต์ใช้เครื่องมือ ไคเซ็น, Visual control และ ECRS เพื่อลดความสูญเสีย

  2. เทคนิคของการวิเคราะห์ความสูญเปล่าในการทำงานด้วย Process flow chart

  3. ตัวอย่างต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการลด Waste ขององค์กรอื่นๆ

Work Shop1 “ระดมสมองเพื่อวิเคราะห์ความสูญเสียในการทำงาน”

Work Shop2 “ใจเขาใจเรากับคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ”

Work Shop3 “มาสร้างเป้าหมายการทำงานร่วมกันด้วยการทำงานเป็นทีม”

-แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถามตอบ

 

กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน พนักงาน และผู้ที่สนใจทั่วไป

 

 

รูปแบบการสัมมนา

  1. การบรรยาย 50 %

  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 40%

  3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 10 %


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

        1.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้และเข้าใจหลักการวิเคราะห์ปัญหาอย่างถูกต้อง

        2.ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการขจัด 3 MU ไปประยุกต์ใช้กับงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        3.ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น

        4.ผู้เข้าอบรมมีจิตสำนึกเรื่องคุณภาพและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

        5.ผู้เข้าอบรมมีความรู้กับการทำกิจกรรมลดต้นทุนการผลิตในองค์กรมากขึ้น

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

Online Program Zoom เปิดรับสมัคร ทักษะการสอนงานขายของผู้จัดการอย่างมืออาชีพ อบรม 21 ก.ค.65

Online Program Zoom เปิดรับสมัคร ทักษะการสอนงานขายของผู้จัดการอย่างมืออาชีพ อบรม 21 ก.ค.65

 

 โดย อาจารย์รัชเดช  อติกนิษฐ (อาจารย์เอ)     

 

ราคาโปรโมรชั่น 2,500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

จ่ายชำระ 3 ท่าน  เข้าอบรมได้ 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

หลักการและเหตุผล

              ในปัจจุบันธุรกิจที่มีกิจกรรมการขายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายมักจะประสบปัญหาและอุปสรรคทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกขององค์กร ปัจจัยภายนอกองค์กรคือจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการเข้าถึงลูกค้าที่ง่ายขึ้นทั้งจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  และคู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามามากขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมการขายขององค์กรจำเป็นต้องขายเชิงรุกมากยิ่งขึ้นเพื่อจะได้แข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้  ซึ่งมีผลกระทบต่อต่อปัจจัยภายใน และหนึ่งในปัจจัยภายในองค์กรที่เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนยอดขายนั่นก็คือ “ฝ่ายขาย” ที่ต้องกระตือรือร้นมากขึ้นในการใช้ทักษะและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อตอบสนองเป้าหมายที่ได้รับ ส่งผลทำให้พนักงานขายเกิดความกดดันมากขึ้น ทำให้ยอดขายลดลง และการลาออกของพนักงานขายที่มีแนวโน้มมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อผู้บริหารเขต ที่บริหารทั้งภาพใหญ่ ที่จำเป็นต้องหาวิธีบริหารจัดการทีมงาน, กระตุ้นขวัญกำลังใจ, และทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับทีมงานทั้งเรื่อง ความรู้ในผลิตภัณฑ์, ทักษะการขาย และการบริหารเป้าหมายการขาย จากปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการนี้ เพื่อให้ผู้จัดการทีมขาย สามารถเป็นโค้ชให้กับพนักงานขาย เพื่อให้องค์กรมียอดขายเพิ่มมากขึ้นและลดอัตราการลาออกของพนักงานขายได้

วัตถุประสงค์

  1. ผู้เข้าอบรมจะได้รับแนวทางแก้ปัญหาและอุปสรรคของการบริหารการขายได้

  2. ผู้เข้าอบรมจะมีความรู้และความเข้าใจการโค้ชทีมงานฝ่ายขาย

  3. ผู้เข้าอบรมจะมีความรู้และความเข้าใจวิธีการโค้ชด้วยทฤษฎีการขาย KASH

  4. ผู้เข้าอบรมจะได้รับวิธีการโค้ชแบบการสร้างแรงจูงใจเชิงบวกให้กับพนักงานขายได้

  5. ผู้เข้าอบรมได้รับวิธีการโค้ชทบทวนผลิตภัณฑ์ที่มีและเข้าใจจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้ดูน่าสนใจได้

  6. ผู้เข้าอบรมได้รับวิธีการโค้ชขั้นตอนการขายโดยใช้บทการขาย และแนวทางการตอบข้อโต้แย้งที่ดี

  7. ผู้เข้าอบรมได้รับวิธีการโค้ชการบริหารเป้าหมายการขายอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนได้

เนื้อหาหลักสูตร

  1. คลินิกผู้บริหารฝ่ายขาย ค้นหาปัญหาและอุปสรรคของการบริหารการขาย

  2. การโค้ชทีมงานฝ่ายขาย ทำอย่างไร ?

  3. 3. การโค้ชทีมงานฝ่ายขายด้วยทฤษฎีการขาย KASH

  4. การโค้ช ความคิด และทัศนคติ (A : Attitude) ให้ทีมงานฝ่ายขาย

  5. 5. การโค้ชหลักการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ (K : Knowledge) ให้กับทีมงานฝ่ายขาย

  6. การโค้ชวิธีการฝึกฝนทักษะการขาย (S : Skill) และการตอบข้อโต้แย้งให้กับทีมงานฝ่ายขาย

  7. การโค้ชวิธีการบริหารเป้าหมาย (H : Habit) อย่างเป็นระบบ

หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร ?

ผู้จัดการทีมขาย, ผู้จัดการฝ่ายขาย,ผู้จัดการเขตขาย, หัวหน้าทีมขาย ทุกธุรกิจ

ลักษณะการจัดห้องอบรม   จัดที่นั่งเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม โดยใช้โต๊ะเป็นกลุ่ม ๆ หรือ โต๊ะเลคเชอร์ตั้งวงเข้าหากัน 4วงก็ได้

วิธีการอบรม              อบรมผ่าน Online หรือ Classroom ทั้งแบบ Public และ In-house training  การบรรยาย การทำ Workshop กิจกรรมปลดล็อคความคิด  Workshop บทการโค้ชทีมงาน

ระยะเวลาการอบรม      6 ชั่วโมง (Online In house&Online Public หรือ Classroom Public &In House )

บรรยายโดย อ.รัชเดช อติกนิษฐ ประสบการณ์การทำงาน  17 ปี ในธุรกิจประกันชีวิต

เคยเป็น ผจก.อาวุโส ฝ่ายฝึกอบรมพันธมิตรธุรกิจ  บมจ.พรูเด็นเชียลประกันชีวิต(ประเทศไทย) และ ผจก.อาวุโส ส่วนฝึกอบรมการขายธนาคารพาณิชย์ บมจ.ไทยประกันชีวิต มีประสบการณ์เป็นวิทยากรหลักสูตรการขายให้กับธนาคาร บริษัทสินเชื่อรถยนต์  บริษัทจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทโบรคเกอร์ประกันภัย

อดีตนักขายประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศ ธค.2547 และ มค.2548 ของช่องทางธนาคาร ของบมจ.กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

https://www.tesstraining.com

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร การบริหารความขัดแย้งและการจัดการงาน Conflict Management and Task Managementอบรม 9 พฤศจิกายน 2565

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร การบริหารความขัดแย้งและการจัดการงาน Conflict Management and Task Managementอบรม 9 พฤศจิกายน 2565

ราคา  2,500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

ที่มาของหลักสูตร

         ความขัดแย้ง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกๆที่ ทุกสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคลด้วยกันเองหรือเกิดจากมูลเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคลที่สามารถขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็วและสามารถก่อความรุนแรงของเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้หรือเรียกได้ว่าสถานการณ์ของความรุนแรงจากระดับง่ายไปสู่สถานการณ์ที่เป็นระดับที่ยากขึ้น จนกลายเป็นปัญหารุนแรงที่เป็นความยากลำบากในการบริหารจัดการให้ความขัดแย้งเบาบางลงหรือดีขึ้นมาได้ ความขัดแย้งเกิดขึ้นในทุกระดับของพนักงานที่อยู่ในองค์กร จึงมีความสำคัญ และความจำเป็นที่พนักงานทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารก็ตามจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในเรื่องของกลยุทธ์การบริหารความขัดแย้ง ถ้าสามารถบริหารจัดการได้ก็จะทำให้จัดการงานตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์บรรเทาและกลับคืนสภาพดีเหมือนเดิม หรืออาจจะถึงขั้นปรับเปลี่ยนสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสความสำเร็จได้ดีกว่าเดิมอีก มีความสัมพันธ์ การประสานงาน และการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้ข้าอบรม ได้สร้างแนวความคิดในการบริหารจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ผู้อื่น ทีมงาน และองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้มองเห็นสาเหตุของความขัดแย้ง และเทคนิคการเอาชนะหลุมพรางทางความคิดได้ด้วยตัวเอง

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรม สามารถสร้างกลยุทธ์และให้คำปรึกษากับพนักงานทั่วไปในการบริหารความขัดแย้งได้ด้วยตัวเอง

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์และเรียนรู้ที่มาสาเหตุและเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารจัดการความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ลดความขัดแย้งในการทำงาน

ระยะเวลาการฝึกอบรม   :       1 วัน  (09.00-16.00 น.)  

หัวข้อการฝึกอบรม

  • ทำความเข้าใจกับความขัดแย้ง

  • ประโยชน์ของความขัดแย้งที่เกิดจากแนวคิดเชิงสร้างสรรค์

  • สมมติฐานเบื้องต้นในการจัดการความขัดแย้งโดยภาพรวม

  • การจัดการอารมณ์ที่มีต่อผู้อื่นที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง

  • หลักการทั่วไปในการแก้ไขความขัดแย้ง

Workshop : Conflict Management Analysis    

                วิเคราะห์การแก้ไขความขัดแย้ง

  • การเอาชนะความขัดแย้งด้วยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

  • วิธีการลดหรือแก้ไขความขัดแย้ง – รูปแบบและกลยุทธ์

  • การจัดการความขัดแย้งระหว่างคุณกับคนอื่น

  • การจัดการความขัดแย้งของคนอื่น

  • การจัดการความขัดแย้งในทีมงาน

  • การบริหารความขัดแย้งแบบ Conflict Management Style

Workshop : Conflict Management Style – Case

  • แนวทางการบริหารงานสมัยใหม่ที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ

  • แนวคิดและแนวทางการบริหารคนให้ได้ใจ และได้งาน

  • เทคนิคการบริหารคนในการคัดเลือกพนักงานตามความสามารถ

(Put the Right Man into the Right Job)   

 

 รูปแบบการฝึกอบรม
   – บรรยายแบบ  Active Learning

   – อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สะท้อนแนวคิดร่วมกัน

    – สรุปและถาม-ตอบ เพื่อทดสอบความเข้าใจ

ผู้เข้าฝึกอบรม

หัวหน้างานและพนักงานทุกระดับในองค์กร

วิทยากร     :    อาจารย์ สุกิจ ตรียุทธวัฒนา

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

http://www.tesstraining.com

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร ศิลปะการครองใจหัวหน้าและผู้ร่วมงาน – แบบ win win อบรม 31 มี.ค.65

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร ศิลปะการครองใจหัวหน้าและผู้ร่วมงาน – แบบ win win อบรม 31 มี.ค.65

 

 

ราคา  1500  บาท บรรยาย 09.00-12.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

         พนักงานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

          การพัฒนาระดับความสามารถ ในด้านต่างๆ ของนักงานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นพนักงานมืออาชีพยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง เพราะตระหนักรู้ว่าถ้าเราไม่ยอมปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงยากที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานได้

 

          หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมเกิดความเข้าใจในคุณลักษณะ พฤติกรรมการแสดงออกทั้งของตนเองและของบุคคลอื่น ซึ่งจะนำไปสู่ การยอมรับตนเอง รับรู้ เข้าใจถึงความแตกต่างและความถนัดของบุคคลในแต่ละคุณลักษณะ เข้าใจถึงสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการแสดงออกของแต่ละคุณลักษณะบุคคล  สามารถนำเอาหลักการและความเข้าใจเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง ปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นและสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม เพิ่มทักษะในการพัฒนาขีดความสามารถของทีมงาน ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างบุคคล

         รวมทั้งสร้างแนวทางการครองใจสมาชิกในทีมและหัวหน้างาน ด้วยรูปแบบที่เหมาะสมของตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตนเอง และของทีมงานจากการที่ทุกคนในทีมมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน รู้แนวทางความถนัดของสมาชิกในทีม เกิดความสามัคคีร่วมมือร่วมใจ สร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่นได้อย่างสัมฤทธิ์ผล

 

 

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้เน้นความสัมพันธ์การสื่อสารระหว่างหัวหน้าและผู้ร่วมงานได้อย่างมีศิลปะแบบ win win

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้เรียนรู้การพัฒนาตนเองเพื่อความเป็นเลิศสามารถปรับตัว วิเคราะห์และแก้ปัญหากับทุกๆสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิผล

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและแก่องค์กร

  4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

 

ลักษณะของการอบรม

       เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ 70 : Work Shop กิจกรรม 30

  2. การใช้เครื่องมือทางด้าน OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น

  • Ai (Appreciative Inquiry)

  • Dialogue สุนทรียะสนทนา

  • เกมพฤติกรรม

  • Work Shop

  • การระดมความคิด

  • Clip VDO และอื่นๆ

 

 หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

  • การพัฒนาตนเองเพื่อความเป็นเลิศ

  • การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน

  • การสร้างความสมดุลธรรมชาติมนุษย์

  •  การเสริมสร้างทัศนคติ และ จิตสำนึกที่ดีในการปฏิบัติงาน

  •  การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง

  •  จุดประกายการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อเสริมสร้างคุณค่าการยอมรับ

  • การพัฒนาคน หรือ การพัฒนาตนเอง

  • เคล็ดลับการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน

    • จิตวิทยาการทำงานร่วมกัน

  • การวิเคราะห์และเรียนรู้พฤติกรรมของบุคคล

    • ทักษะการสื่อสารที่เกิดผล – พูด / ฟัง / เขียน / อ่าน

    • การบริหารทฤษฎีการจัดการ

    • กลไกการจัดการ กระตุ้น  ส่งเสริม และ รักษาทีมงาน

  • ศิลปะการครองใจ – แบบ Win Win

    • กระบวนการตัดสินใจ

    • ประเภทของการตัดสินใจ

    • การวิเคราะห์ปัญหา และ ตัดสินใจอย่างมีประสิทธิผล

    • การปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น และ สถานการณ์

    • การกำหนดยุทธวิธีให้สอดคล้องกับสถานการณ์

 

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม

  1. ผู้เข้าอบรม ได้เน้นความสัมพันธ์การสื่อสารระหว่างหัวหน้าและผู้ร่วมงานได้อย่างมีศิลปะแบบ win win

  2. ผู้เข้าอบรม ได้เรียนรู้การพัฒนาตนเองเพื่อความเป็นเลิศสามารถปรับตัว วิเคราะห์และแก้ปัญหากับทุกๆสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิผล

  3. ผู้เข้าอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและแก่องค์กร

  4. ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันได้แก่ การละลายพฤติกรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้อง

 

  • ประวัติ อาจารย์อนุภาพ  พันชำนาญ      

    การศึกษา

    • ปริญญาตรี วิศวอุตสาหกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (อสบ.) มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    • ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการการตลาด (MBA Marketing)

    มหาวิทยาลัยรามคำแหง

  • การทำงานในอดีตปัจจุบัน

    • อาจารย์สอนสมาธิ ที่สถาบันพลังจิตตานุภาพ

    • อดีตอาจารย์พิเศษที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สอนวิชาเลือก : เรื่องไร้สาระ แต่กลับมีสาระอย่างคาดไม่ถึง:  วิชาจีบ วิชาเคล็ดลับจับโกหก ร่วมกับ อ.ธนิช)

    • เป็นวิทยากรให้กับ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) [สสท.]

    • ที่ปรึกษาบริษัทเทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด สถาบันฝึกอบรม

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

http://www.tesstraining.com

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน (The Power of Motivation) อบรม 19 ส.ค.65 09.00-12.00

confirm ยืนยันจัด Online Zoom หลักสูตร การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน (The Power of Motivation) อบรม 19 ส.ค.65 09.00-12.00

 

ราคา  1500  บาท บรรยาย 09.00-12.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

 

หลักการและเหตุผล
เป้าหมายสูงสุดของการบริหารงานได้แก่ การจัดการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานเพื่อบรรลุตามจุดมุ่งหมาย สูงสุดขององค์กร ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่และภารกิจที่สำคัญ ที่สุดของผู้บริหารที่จะต้องเรียนรู้ศาสตร์ในการ บริหารบุคคล ที่เน้นเรื่องการศึกษาพฤติกรรมบุคคล กลุ่มและองค์การ ตลอดจนปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบ ต่อพฤติกรรมในองค์การ เพื่ออธิบาย ทำนายและควบคุมปรากฏการณ์ของการบริหารที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ความรู้ความเข้าใจแนวคิดเรื่องแรงจูงใจของบุคคล จะช่วยให้ผู้บริหารรู้ถึงความต้องการและ แรงจูงใจของผู้ใต้บังคับบัญชาและพร้อมที่จะสร้างแรงจูงใจในการทำงานเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดังกล่าว ทำงานอย่างที่เรียกว่า “งานก็ได้ผล คนก็เป็นสุข” ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในการ บริหารงาน

 

 

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และเตรียมพร้อมที่จะเป็นพนักงานที่องค์กรต้องการ

  1. 2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเกิดความรักความผูกพันองค์กร รู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน

  2. 3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการทำงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

  3. 4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้กับตนเองในการทำงานและการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

  4. 5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ข้อเด่น ข้อด้อยของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงาน,การใช้ชีวิต ให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข

  5. 6. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง และสามารถปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์

 

รายละเอียดหลักสูตร

  1. ความหมายของแรงจูงใจ

    • องค์ประกอบที่สำคัญของแรงจูงใจ ในการทำงานของพนักงาน

    • ปัจจัยหรือองค์ประกอบที่ทำให้เกิดแรงจูงใจ

    • บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ ของพนักงาน

    • การจูงใจ หรือแรงจูงใจ คืออะไร

    • ทฤษฎีการจูงใจ Theories of Motivation

– ทฤษฎีการจูงใจ ของ Maslow

– ทฤษฎีสองปัจจัย ของ Herzberg

– ทฤษฎี X ทฤษฎี Y ของ Mcgragor

  • เทคนิคการสร้างแรงจูงใจให้ตนเองและผู้อื่น (D-R-I-V-E)

– D = Develop yourself & others การพัฒนาตนเองและผู้อื่น

– R = Relationship การสร้างสัมพันธภาพที่ดีในการทำงาน

– I  = Individual Motivation การสร้างแรงจูงใจของปัจเจกบุคคล

– V = Verbal Communication ความสามารถในการสื่อสาร

– E = Engagement ความผูกพันต่อองค์กร จิตสำนึกรักองค์กร

  1. การสร้างขวัญแรงจูงใจ และวินัย ในสถานประกอบการ

    • วินัย และคุณธรรมในการทำงาน

    • ทัศนคติสำหรับพนักงาน (Employee Attitude)

    • การสร้างทัศนคติที่ดี (Attitude) ในการทำงาน

  2. จิตสำนึกในการทำงาน (Work Awareness) และจงรักภักดีต่อองค์กร

Workshop: ระดมความคิดสร้าง องค์กรในฝัน

  1. หลักในการทำงานและดำเนินชีวิตให้ประสบผลสำเร็จและมีความสุข

    • ความสำเร็จในการงาน และชีวิต

    • องค์ประกอบของความสำเร็จในชีวิตการงาน

    • ความปรารถนาของนายจ้างจากลูกจ้าง

    • เคล็ดลับดีๆในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง (รักษาโรคเบื่องาน)

    • วิธีทำงานอย่างมีความสุข

    • สร้างและมีมนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน

    • การสำรวจตัวเอง เพื่อดึงศักยภาพออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง

      – เทคนิคการส่งเสริมให้ใช้จินตนาการตนเอง

      – การสร้างแรงจูงใจด้วยตัวคุณเอง

      – วิธีการสร้างแนวคิดใหม่

      – เทคนิคการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน

      – เทคนิคการคิดและทำเพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

      – สัญญาณอันตราย! และตัวชี้วัดความสำเร็จ

 

Workshop: กิจกรรมกลุ่มทำงานอย่างไรให้มีสุข

 

ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมได้รับ
1. ผู้เข้าอบรมตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และเตรียมพร้อมที่จะเป็นพนักงานที่องค์กรต้องการ

  1. 2. ผู้เข้าอบรมเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเกิดความรักความผูกพันองค์กร รู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน

  2. 3. ผู้เข้าอบรมทราบถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการทำงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

  3. 4. ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้กับตนเองในการทำงานและการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

  4. 5. ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ข้อเด่น ข้อด้อยของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงาน,การใช้ชีวิต ให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข

  5. 6. ผู้เข้าอบรมสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง และสามารถปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์

 

 

แนวทางการการอบรม

  1. การอบรมมีทั้งการบรรยาย และทดลองปฏิบัติกรณีศึกษาเพื่อให้เห็นจริงในการทำ Coaching ทำให้การอบรม เป็นไปอย่างสนุกสนาน

  2. การฝึกอบรมเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่(Adult Learning) ซึ่งเน้นให้เกิดความคิด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเล็งเห็นประโยชน์ของเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  • ผู้บริหาร หัวหน้างาน

  • พนักงานทุกระดับ

 

 

  • ประวัติ อาจารย์อนุภาพ  พันชำนาญ      

    การศึกษา

    • ปริญญาตรี วิศวอุตสาหกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (อสบ.) มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    • ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการการตลาด (MBA Marketing)

    มหาวิทยาลัยรามคำแหง

  • การทำงานในอดีตปัจจุบัน

    • อาจารย์สอนสมาธิ ที่สถาบันพลังจิตตานุภาพ

    • อดีตอาจารย์พิเศษที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สอนวิชาเลือก : เรื่องไร้สาระ แต่กลับมีสาระอย่างคาดไม่ถึง:  วิชาจีบ วิชาเคล็ดลับจับโกหก ร่วมกับ อ.ธนิช)

    • เป็นวิทยากรให้กับ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) [สสท.]

    • ที่ปรึกษาบริษัทเทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด สถาบันฝึกอบรม

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

http://www.tesstraining.com

 

ยืนยันจัด Online Zoom  หลักสูตร การสื่อสารและประสานงานอย่างชาญฉลาดด้วย DISC (Smart Communication and Coordination with DISC) 23 พ.ย.65

ยืนยันจัด Online Zoom  หลักสูตร การสื่อสารและประสานงานอย่างชาญฉลาดด้วย DISC (Smart Communication and Coordination with DISC) 23 พ.ย.65

 

ราคา  2,500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศแบบออนไลน์

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

หลักการและเหตุผล (Introduction)

การสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบัน หากสื่อสารแล้วผู้อื่นเข้าใจหรือผู้รับสารยอมรับถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง แต่มนุษย์มีความแตกต่างกันในทุกด้าน อาทิ การรับรู้ การเข้าใจ การตัดสินใจ ดังนั้นหากเราต้องการเรียนรู้ว่าคนแต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไร เราจำเป็นต้องมีทักษะ และใช้วิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถสื่อสารอย่างเป็นระบบและสามารถเข้าถึงวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร

หลักสูตร การสื่อสารและประสานงานอย่างได้ผลด้วย DISC เป็นหลักสูตรที่เน้นเรียนรู้คนแต่ละประเภท เพื่อการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างวิธีการในการประสานงานให้ผลลัพธ์ของงานนั้นออกมาตามเป้าหมายของหน่วยงานและสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร โดยการเรียนรู้ผ่านทฤษฎี D-I-S-C เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการนำมาประยุกต์กับการสื่อสารและการประสานงานภายในองค์กร

วัตถุประสงค์  (Objective )

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้พฤติกรรมของคนแต่ละประเภทตามหลัก D-I-S-C

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ความจำเป็นของการสื่อสารและการประสานงาน

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง และฝึกฝนหลักการพูด หลักการฟัง หลักการตั้งคำถาม และนำไปพัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)

  • พนักงาน

  • หัวหน้างาน

  • ผู้จัดการ

  • รูปแบบการการอบรม (Methodology)

  • การบรรยาย 40%

  • กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ และการนำเสนอผลงานกลุ่ม 50%

  • กรณีศึกษา 10%

รายละเอียดการดำเนิน

  • 1 วัน ( 6 ชั่วโมง )

เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)

กิจกรรม สร้างประสบการณ์แรกพบ

  • คำถามทรงพลังเพื่อดึงศักยภาพ

  • เทคนิคการสร้างหลักการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

การสื่อสารโดยใช้หลัก SMCRF + 5W

กิจกรรม สร้างประสบการณ์แรกพบ

  • คำถามทรงพลังเพื่อดึงศักยภาพ

  • เทคนิคการสร้างหลักการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

การสื่อสารโดยใช้หลัก SMCRF + 5W

  • จิตวิทยาการสื่อสาร

  • ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสื่อสาร

  • การเสริมสร้างทักษะและบุคลิกภาพที่ดีในการสื่อสาร

  • ส่วนผสมในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

Workshop  ฝึกการใช้ส่วนผสมของการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ

วิทยากรบรรยาย

Workshop

ประสานงานเพื่อผลสำเร็จของงาน

  • หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ 360 องศา

  • เทคนิคการสร้างมนุษยสัมพันธ์ด้วย 6 STEP

  • การประสานงานโดยใช้หลัก 3 D

  • 5 เคล็ดลับเการประสานงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย

  • ไขกุญแจการสร้างสุดยอด TEAMWORK

Workshop  สาเหตุและวิธีแก้ไขการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์พฤติกรรมตนเองและผู้อื่น

  • การวิเคราะห์ตนเองโดยใช้ 4 WINDOW

  • เรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์ 4 TYPE

  • สร้าง Commitment เพื่อการทำงาน

  • ถาม-ตอบ

Workshop  วิเคราะห์ตนเองด้วยเครื่องมือ D I S C

 อาจารย์ กัณฑ์เอนก เอี่ยมปัญญาสกุล

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 31/155 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

http://www.tesstraining.com

Public Training หลักสูตร เทคนิคการปรับปรุงและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน (อบรม 25 ก.พ.65)

หลักสูตร เทคนิคการปรับปรุงและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน (อบรม 25 ก.พ.65)

เทคนิคการปรับปรุงและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

 “พบสารพัด เทคนิคในการลดข้อผิดพลาดในการทำงานที่ถูกใจนาย

โดนใจลูกค้า”

วิทยากร: ดร.ธธีร์ธร ธีรขวัญโรจน์

อดีต General Manager – บริหารสินค้า บริษัท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด

อดีตผู้จัดการและบริหารการขายอุตสาหกรรมนมไทย(นมตรามะลิ)

และผ่านงานด้านการขายและการตลาดจาก Marriott Royal Garden Resorts Group

รวมประสบการณ์การทำงานด้านการขาย การตลาดและการบริการมากกว่า 25 ปี

 

25 กุมภาพันธ์ 2565

09.00 – 16.00 น.

** โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)

*สถานที่จัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

หลักการและเหตุผล

ในปัจจุบัน ทุกชีวิตอยู่ในภาวะความเร่งรีบ งานมากขึ้นภายในกรอบของวันเวลาทำงานที่เท่าเดิม ทุกธุรกิจทุกองค์กรต่างมุ่งหวังให้พนักงานแต่ละคนทำงานได้มากขึ้น ดังนั้น การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบและปราศจากข้อผิดพลาดในการทำงาน บนพื้นฐานของความคิดที่เฉียบคม หยั่งลึกถึงแก่นของเนื้องาน (กึ๋น) ย่อมมีผลต่อความสำเร็จของงาน รวมถึงความประทับใจของลูกค้าและตรงตามความคาดหวังของผู้บริหารอย่างแน่นอน

หลักสูตรนี้จึงได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้พนักงานทุกฝ่ายงาน ได้เรียนรู้เทคนิคการลดความผิดพลาดในการทำงานรวมทั้งการพัฒนาตนเองให้ทำงานได้อย่างถูกใจนาย และ โดนใจลูกค้า จนสามารถพัฒนาจุดอ่อนและเสริมสร้างจุดแข็งของตน รวมทั้งเคล็ดลับอื่นๆ ที่จะทำให้ผู้อบรมได้เข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเองเมื่อปฏิบัติงานจริง

 

วัตถุประสงค์

1.เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องเทคนิคการลดข้อผิดพลาดและการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้ถูกใจนาย และ โดนใจลูกค้า

2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้เรื่องการลดข้อผิดพลาดและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

 

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา

Module 1: Concepts

1.หลักการ- แนวคิดเรื่องการลดข้อผิดพลาดในการทำงาน (คิด และ ทำ)

2.สูตร 3 A แห่งความสำเร็จในการทำงานเพื่อลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

3.เสริมทักษะการคิด เพื่อสร้างความสำเร็จในการทำงานและลดข้อผิดพลาด

– คิดบวก

– คิดภาพใหญ่ และ รายละเอียด

– คิดเชิงวิเคราะห์

– คิดสร้างสรรค์

– คิดต่อยอด

4.กระตุกวิญญาณแห่งการทำงาน ด้วยหลัก คิด

– คิดก่อนทำ

– คิดทางเลือก

– คิดทางออก

– คิดแก้ไข

– คิดพัฒนา

5.Success with Common Sense

– ความหมายของ Sense ในการทำงาน

– เทคนิคแยบยลในการใช้ Sense

– แนวทางการพัฒนา Sense

Module 2: Applications

6.พร้อมสรรพ ด้วยสารพัดเคล็ดลับ ในการลดข้อผิดพลาดและพัฒนาการทำงานที่ดี ไร้ที่ติ และถูกใจหัวหน้า

7.เทคนิคการส่งมอบงานสมบูรณ์แบบ……และมีกึ๋น ถูกใจลูกค้าและหัวหน้าอย่างแรง

8.กรณีศึกษา: เรียนรู้ความผิดพลาดอย่างเป็นบทเรียน

9.ลักษณะคนทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ

10.กิจกรรมการลดข้อผิดพลาดในการทำงานของตนเอง

11.แชร์ประสบการณ์: ทำงานอย่างไรไม่ให้ผิดพลาด

12.สรุป คำถามและคำตอบ

 

ประกาศนียบัตร: บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด

ราคาค่าอบรม (ต่อ 1 ท่าน)

ค่าอบรมสัมมนา

ท่านละ 3,500 บาท

สมัครอบรม 5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2900 เข้าอบรมได้ 6 ท่าน

 

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร อบรม การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 21 (Performance Appraisal : PMS Module 2) : 21 กุมภาพันธ์ 2565

Online Zoom เปิดรับสมัคร อบรม การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 21 (Performance Appraisal : PMS Module 2) : 21 กุมภาพันธ์ 2565

 

 

การประเมินผลยุคปัจจุบันเน้นเรื่อง Performance / Results และ Competency แต่ก็ยังประสบกับปัญหาเหล่านี้ ?

  • บุคลากรยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน  (Performance Management System)

  • เลือกไม่ถูกว่าจะประเมินผลด้วย OKR หรือ KPI ดี ???

  • ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators และ Performance Indicators ได้

  • ในการกำหนดหัวข้อประเมินผลไม่สามารถกำหนดได้ว่า อะไรคือ KPI (Key Performance Indicators) อะไรคือ PI (Performance Indicators) ?

  • แยกไม่ออกระหว่าง Performance กับ Competency

  • จะประเมิน Competency ก็มีแต่พฤติกรรมที่จับต้องได้ยาก จะมีการประเมิน Competency ที่ชัดเจนได้อย่างไร ?

  • ประเมินผลว่ายากแล้วแต่ Performance Feedback ยิ่งยากกว่า จะ Feedback อย่างไรให้เป็นธรรมและได้รับการยอมรับจากลูกน้อง ?

  • ประเมินผลแล้ว ไม่รู้จะนำผลการประเมินไปใช้เชื่อมโยงกับการพัฒนาบุลากรได้อย่างไร ?

หากองค์กรของท่านกำลังประสบกับปัญหาดังกล่าวข้างต้น จนก่อให้เกิดอาการอื่นๆ ของปัญหาการจัดการตามมา อาทิเช่น  การประเมินผลไม่เป็นธรรม พนักงานไม่ยอมรับผลการประเมิน หัวหน้ารู้สึกอัดอัดเวลาแจ้งผลงานลูกน้อง ขวัญกำลังใจพนักงานตกต่ำ พนักงานกลุ่ม Talent ทยอยลาออก ฯลฯ

หลักสูตรที่เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ และฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่ควรพลาด ท่านจะได้เรียนเทคนิค ขั้นตอนการประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่แบบครบวงจร ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของวิทยากรในการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง”

 

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

  1. สามารถอธิบายแนวคิด หลักการ กระบวนการบริหารผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Modern Performance Management Process) และ KPIs ได้

  2. สามารถแยกความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง KPIs กับ OKRs ได้

  3. สามารถกำหนด Key Performance Indicators (KPIs) ในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร และงานที่รับผิดชอบ

  4. สามารถอธิบายและแยกแยะความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators, Performance Indicators และ Competency  ได้อย่างชัดเจน

  5. สามารถกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีสมัยใหม่ ด้วย KPI และ Competency ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

  6. เสริมสร้างเทคนิคการให้ Performance Feedback อย่างมีประสิทธิภาพ

  7. สามารถนำผลการประเมินไปใช้ในการบริหารผลงานได้อย่างเป็นระบบ 

 

หัวข้อสำคัญที่ท่านจะได้เรียนรู้ : 

 

ส่วนที่  1  :  ปฐมบทเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Introduction to Modern Performance Appraisal)

  • ความเชื่อมโยงของการประเมินผลการปฏิบัติงานกับระระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System : PMS)

  • 6 ขั้นตอนสำคัญของระบบบริหารผลการปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Performance Management Process)

  • Key Performance Indicators และ Competency เครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมินผลยุคใหม่

  • แนวทางการกำหนดปัจจัยและค่าน้ำหนักความสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปียุคใหม่  

ส่วนที่  2  :  ความเหมือนที่แตกต่าง และความแตกต่างที่เหมือนกัน ของ KPIs (Key Performance Indicators) กับ OKRs (Objective and Key Results)

  • ความเหมือนที่แตกต่างของ KPIs กับ OKRs

  • ความแตกต่างที่เหมือนกันของ KPIs กับ OKRs

  • ถ้า OKRs ไม่นิยมใช้ประเมินผล แล้วองค์กรที่ใช้ OKRs ใช้เครื่องมือใดในการประเมินผล ???

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการกำหนด KPIs ในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ Vision และ Objective (KPIs for Performance Appraisal)

  • ประเภทของ KPI

  • การกำหนด Corporate KPIs ด้วย Balance Scorecard (BSC)  เพื่อวัดผลการดำเนินงานทางธุรกิจขององค์กร

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายขององค์กร (Corporate KPIs)

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานของแต่ละฝ่ายงาน (Functional KPIs) ให้เชื่อมโยงกับนโยบาย (Policy) วัตถุประสงค์ (Objective) และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

  • Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติกำหนด Functional KPIs ของฝ่ายงาน ให้เชื่อมโยงกับ Objective และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

  • แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายของตำแหน่งงาน (Position KPIs / Individual KPIs)

  • ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ Performance Indicators

  • แนวทางการออกแบบและเชื่อมโยง KPIs สู่การประเมินผลงาน

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติออกแบบประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย KPI ของแต่ละตำแหน่งงาน 

ส่วนที่  4  :  วิธีการกำหนดและเชื่อมโยง Competency สู่การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Competency for Performance Appraisal)

  • ประเภทของ Competency และเครื่องมือในการกำหนด Competency

  • ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ และ Competency

  • แนวทางการกำหนด Competency ในการประเมินขีดความสามารถจาก Job Description Version 4

  • แนวทางการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถประจำปีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร

  • ตัวอย่างการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร 

ส่วนที่  5  :  แนวทางในการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

  • แนวทางการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

  • กระบวนการในการประเมิน และ Feedback ผลการปฏิบัติงานลูกน้องอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  6  :  แนวทางการแจ้งผลการปฏิบัติงาน (Positive Feedback) ให้ได้ทั้งใจและได้ทั้งงานจากลูกน้อง

  • เทคนิคการแจ้งผลงาน (Positive Feedback) แบบได้ทั้งใจ และได้ทั้งผลงานจากลูกน้อง 

ส่วนที่  7  :  การนำผลการประเมินไปปรับใช้งานเชื่อมโยงกับ Human Resources System

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการปฏิบัติงานกับแผนพัฒนารายบุคคล (Performance Appraisal linked to Individual Development Plan : IDP)

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Training Road Map และ Career Path

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Succession Plan ด้วย Competency และ KPI

  • แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับการปรับค่าจ้างประจำปียุคใหม่ แบบอิงเกรด ไม่อิง Bell Curve  

รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ :

  • การบรรยาย ผ่าน Zoom แบบ Adult Learning

  • ประกอบการแชร์ประสบการณ์ตรง

  • การทำ Workshop ในการปฏิบัติจริง

  • การระดมความคิด นำเสนอผลงาน

  • การถามตอบ

 

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ :

เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และผู้สนใจทั่วไป

 

 

วิทยากร (Trainer)  :  อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)

  • กรรมการผู้จัดการสถาบันฝึกอบรม People Develop Center  

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 31 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

วันและเวลาอบรม (DATE AND TIME) :

รุ่นที่  21  วันที่  21  กุมภาพันธ์ 2565  ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

สถานที่อบรม (VENUE) : 

ค่าลงทะเบียนอบรม 

2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat)

พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

(ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน)

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Online Training เปิดรับสมัคร  ยืนยันจัด หลักสูตร เทคนิคการขาย เพื่อการเป็นมืออาชีพขั้นเทพ ปรับเเนวทางการขายยุคใหม่ อ.ประเสริฐ 16 มี.ค.66

Online Training เปิดรับสมัคร  ยืนยันจัด หลักสูตร เทคนิคการขาย เพื่อการเป็นมืออาชีพขั้นเทพ ปรับเเนวทางการขายยุคใหม่ อ.ประเสริฐ 16 มี.ค.66

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

 

การขายในยุคนี้เน้นความต่างมาเป็นอันดับแรก เพราะปัจจุบันนักขายมีความคล้ายเหมือนกันมากจนเกินไป กล่าวคือ พนักงานขายไม่ได้แสดงบทบาททางการขายที่สมบูรณ์ จึงมีให้เห็นบ่อยว่า พนักงานขายส่วนใหญ่จะเน้นแต่การนำเสนอขายเพียงอย่างเดียว แต่ไม่เข้าใจความต้องการ นำเสนอได้ไม่ตรงจุดหรือแม้แต่การขจัดข้อข้องใจหรือการจับประเด็นในการเจรจาต่อรอง อีกทั้ง ในยุคนี้ประเด็นใหม่ก็มาท้าทายพนักงาน คือ หากมัวแต่ค้นหาปัญหาลูกค้าจนลืมการเสนอไอเดียก็ถือว่าแนวทางการขายที่เก็บปัญหาด้านเดียวก็ถือว่าล้าหลัง ดังนั้น การขายขั้นเทพ หมายถึง คุณจะเป็นนักขายที่มีแนวทางในการเสนอไอเดียเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของคุณเอง

 

เหมาะสำหรับพนักงานขายทุกระดับ

 

วัตถุประสงค์

  • ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงกระบวนการขายอย่างนักขายมืออาชีพ

  • สามารถวิเคราะห์ลูกค้า เพื่อการนำเสนอการขายที่ตรงใจได้อย่างมืออาชีพ

  • เข้าใจแนวทางในการค้นหาความต้องการของลูกค้า

  • สามารถวิเคราะห์จุดเด่นของสินค้า และหาจุดขายของสินค้าที่เหนือคู่แข่งได้

  • พัฒนาเทคนิคการขจัดข้อข้องใจเพื่อนำลูกค้าไปสู่การปิดการขาย

  • เรียนรู้เทคนิคการติดตามลูกค้าอย่างมืออาชีพ

หัวข้ออบรมสัมมนา

​1) ศิลปะการขายสินค้าให้ได้ราคา

2) ล้วงลับ “กลลวงการขาย” ให้ได้ยอด

3) “ยอดขายทะลุเป้า” ต้องรู้หลักจิตวิทยา

4) “CUSTOMER’S RAT” ลูกค้าคือหนู ต้องจับหนูให้อยู่หมัด

การเข้าใจในการหาข้อมูลของลูกค้า ที่เราจะต้องรู้เท่าทันความต้องการ ความสงสัยรวมถึงปัญหาและคำถามของลูกค้า รวมไปถึงเราต้องได้ข้อมูลจำเป็น 4 ข้อในการสร้างโอกาสทางการขาย

5) 4 TOOLS การใช้ 4 อาวุธเพื่ออ่านเกมขายเพิ่มยอด

6) CUSTOMER INSIGHT เทคนิคการอ่านพฤติกรรมลูกค้าแบบ FBI

การอ่านความต้องการภายในที่มาจากคำพูด คำถาม การแสดงออกในขณะนำเสนอ ซึ่งหัวใจสำคัญในการขายคือ เข้าถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายในใจ เช่น สินค้าคุณราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว คำถามแบบนี้แสดงว่า ลูกค้ามีข้อมูลของตลาดพอสมควร รวมถึงอาจจะมีราคาที่ถูกในใจแล้ว จึงสามารถรู้ว่าราคาเราสูงหรืออีกนัยหนึ่งอาจจะเกินงบไปแล้วก็ได้

7) ปรับจุดยืนสร้างสัมพันธ์ก่อนซื้อขาย

8) เสกมนตร์ลับสร้างความต่างทางการขาย

9) BENEFIT วิเคราะห์จุดเด่นของสินค้าและสิ่งที่ลูกค้าสนใจ

10) “กระจก” สะท้อนข้อข้องใจขจัดข้อโต้แย้ง

11) การสวนกลับเชิงบวกพิชิตใจ

การเข้าใจในประเด็นของคำถามที่สร้างแง่ลบให้กับเรา เช่น ขอคิดดูก่อน เอาไว้ก่อน หรือแม้แต่การเงียบใส่ในขณะที่นำเสนอจบ ซึ้งนักขายที่ดีจะไม่เงียบตาม แต่จะนำคำเหล่านั้นมาสร้างเป็นเหตุจูงใจในการอาสาเพื่อช่วยเหลือหรือขจัดข้อสงสัย

12) เจรจาและปิดการขายทรงพลัง

13) CLOSE SELLING ปิด ตัด จบ 3 เทคนิคสร้างยอดขาย

14) ไพ่ 3 ใบ สู่การโน้มน้าวให้สำเร็จ

สิ่งที่ใช้ต่อรองในเกมการเจรจาต่อรอง ซึ่งมีด้วยกัน 3 อย่างที่ใช้ต่อรอง แต่ส่วนใหญ่นักขายมักใช้แค่ส่วนลด ซึ้งไม่ได้ก่อให้เกิดกำไร เพราะเล่นที่โปรโมชั่น ดังนั้น คำว่าไพ่ 3 ใบ คือ ข้อต่อรอง 3 เรื่องที่นักขายมักใช่แค่ใบเดียว จะให้ดีควรใช้อีก 2 ใบที่เหลือด้วย

15) กลยุทธ์สรุปการขายแบบนักขายขั้นเทพ

16) กลยุทธ “ด้ายแดงแห่งสัมพันธ์” CRM

สรุปบรรยาย

 

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) ใบประกาศผ่านการอบรม

2) ไฟล์ PDF การสอน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะเชิงรุกบุกเจาะลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสขาย 2023 (24 ก.พ. 65 /09.00-16.00น.) อ.ประเสริฐ

Online Zoom เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ทักษะเชิงรุกบุกเจาะลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสขาย 2023 (24 ก.พ. 65 /09.00-16.00น.) อ.ประเสริฐ

ราคา  2,500  บาท บรรยาย 09.00-16.00

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

 

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับใบประกาศ

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม Online Tesstraining

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

หลักการและเหตุผล

       หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมเทคนิคการบุกเข้าหาลูกค้า เพื่อให้นักขายมีทักษะในการบุกแบบเชิงปฎิบัติ ซึ่งจะช่วยนักขายให้สามารถสร้างโอกาสในการขายได้ ในยุคที่องค์กรไม่สามารถมองได้แค่ลูกค้าเดิม องค์กรอาจต้องเพิ่มเติมโอกาสในการขายให้กับตนเอง โดยการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยเจาะ ปรับโมเดลเพื่อให้เหมาะกับลูกค้าใหม่ เพราะโดยทั่วไปองค์กรส่วนใหญ่นั้นมักจะมีอัตราส่วนหาลูกค้าใหม่ค่อนข้างน้อย จึงเป็นเหตุผลที่ว่ากำไรขององค์กรลดลงและมีความเสี่ยงไม่รู้ตัว

 

ปัญหาและที่มาหลักสูตร

  • องค์กรส่วนใหญ่มีอัตราการเพิ่มลูกค้าใหม่เข้าฐานที่น้อย หากเปรียบเทียบกับลูกค้าเก่าที่ต่อราคาทุกปี จึงเป็นเหตุผลให้นักขายต้องมีส่วนในการเพิ่มฐานลูกค้าในอัตราที่สำเร็จมากขึ้น

  • การเข้าหาลูกค้าในปัจจุบันมีความยากเพราะถูกปิดกั้นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและการWORK FORM HOME การบุกลูกค้าในปัจจุบันจึงต้องอาศัยเครื่องมืออย่างอื่นมากกว่าการโทรนัดเพียงอย่างเดียว

  • การทำนัด ทำได้ยาก เพราะลูกค้าไม่รับนัดง่ายๆ ถ้าไม่จำเป็น เหตุผลที่ดีมากพอจึงเกิดการทำนัด

  • โอกาสการหาลูกค้าใหม่โตช้ายิ่งกว่าการเสียลูกค้าเก่าที่ต่อราคาลงทุกปี การได้ลูกค้าใหม่คือ ส่วนที่เป็นกำไรที่ช่วยเติมให้บริษัท

  • องค์กรอยากเพิ่มโอกาสขาย แต่เตรียมทักษะให้ทีมไม่ทัน การเตรียมให้แต่เนิ่นๆ จะทำให้ปรับตัวสอดคล้องได้ทันกับยุคที่แย่งลูกค้ากัน

 

 

เนื้อหาในการบรรยาย

การทำนัดลูกค้าที่ใช่และลูกค้าที่เกือบใช่

  • การวิเคราะห์ประเภทลูกค้าเพื่อปรับรูปแบบการเข้าไปนำเสนอ (MIND SET)

  • ขั้นตอนการสร้างSOLUTION ในการเข้าพบ

  • การทำนัดที่ไม่สำเร็จก่อผลเสียมากกว่าที่คิด

  • องค์ประกอบเครื่องมือในการทำนัดที่สำเร็จ (TOOLS SET)

  • CASE STUDY การเข้าพบลูกค้าพร้อมกับการนำเสนอ

  • WORKSHOP การสร้างองค์ประกอบการนำเสนอเพื่อลดการปฎิเสธ

HOW TO การทำนัด (SKILL SET)

  • รูปแบบการทำนัด (ทางโทรศัพท์,ทางEMAIL, การเข้าหาโดยตรง, การทำนัดทางออนไลน์)

  • เทคนิคและเงื่อนไขการทำนัดทางโทรศัพท์

  • CASE STUDY การทำนัดทางโทรศัพท์

  • เทคนิคและเงื่อนไขการทำนัดEMAIL

  • CASE STUDY การทำนัดทางโทรศัพท์

  • เทคนิคและเงื่อนไขการเข้าหาโดยตรง

  • CASE STUDY การทำนัดทางโทรศัพท์

  • เทคนิคและเงื่อนไขการทำนัดทางออนไลน์

  • CASE STUDY การทำนัดทางโทรศัพท์

  • WORKSHOP ฝึกทักษะการทำนัด

  • เสนอแนะ-จากวิทยากรเรื่องการทำนัด

  • สรุปการบรรยาย

หมายเหตุ ในการบรรยายนี้จะเป็นการฝึก MIND SET, SKILL SET จึงเรียนเนื้อหาแบบกระชับตัดเข้าส่วนที่สำคัญเท่านั้น

 

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 9.00-12.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

ราคาท่านละ 1,500 บาท (ไม่รวม VAT)

อบรมแบบพบอาจารย์ จัดอบรมที่ NOVOTEL สุุขุมวิท20

 

อบรมแบบพบอาจารย์ ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน 

ติดต่อสอบถามจัดหลักสูตร IN HOUSE & PUBLIC TRAINING

TEL : 02-577-5369, 099-162-9559

E-MAIL: CONTACT.TESSTR@GMAIL.COM

LINE ID : @TESSTRAINING

FACEBOOK : TESSTRAININGPAGE