Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การค้าระหว่างประเทศ นำเข้า-ส่งออก ทั้งระบบ 20 กันยายน 2567

Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การค้าระหว่างประเทศ นำเข้า-ส่งออก ทั้งระบบ 20 กันยายน 2567

 

หลักการเเละเหตุผล

การส่งออกและนำเข้าสินค้าในปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของประเทศและของโลก ประกอบกับการค้าวิถีใหม่ NEW NORMAL  เป็นการค้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์  ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผู้ปฏิบัติต้องมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจอย่างชาญฉลาด ทันสมัย ตามการค้าของโลกที่เปลี่ยนไปเร็วมาก

สิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออก, นักธุรกิจ, ผู้ผลิต, ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ, นายหน้าหรือตัวแทนการค้า, รวมทั้งพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวและผู้สนใจทั่วไป จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของการค้ายุคใหม่ที่นำเอาระบบ Logistics & Supply Chain มาบริหารจัดการให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกและได้รับผลสำเร็จคุ้ม ค่ากับการลงทุน

 

หัวข้อเนื้อหา

ความรู้ทางด้านการค้าระหว่างประเทศ (Import -Export Operations)
ความหมายของการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
วิธีการชำระเงิน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการชำระเงินระหว่างประเทศ
เอกสารที่ควรจัดเตรียมในการนำเข้าสินค้า
สำหรับพิธีการชำระอากร พิธีการวางประกัน พิธีการขนถ่ายข้างลำ
พิธีการคลัง สินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร ต้องมีเอกสาร
พักเบรก
ขั้นตอนในการส่งสินค้า และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องทางการค้าระหว่างประเทศ
เอกสารทางการเงิน (Financial Document)
เอกสารทางการขนส่ง (Transport Document)
เอกสารทางการค้า (Commercial Document)
พักรับประทานอาหารกลางวัน
การเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจส่งออกและนำเข้าในระบบโลจิสติกส์ ภายใต้พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560
– หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้าตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560
ความรับผิดในการเสียค่าอากร การคำนวณค่าภาษีอากร
อายุความในการประเมินอากรหลังการตรวจปล่อย (Post Clearance Audit)
สินค้าที่มีมาตรการนำเข้าและส่งออกตามพระราชบัญญัติ ฯ พ.ศ.2558
สินค้าต้องห้าม-ต้องกำกัด
สินค้าที่ห้ามนำผ่านและผ่านได้
สินค้าที่ต้องมีมาตรฐาน
e-Import : การผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการนำเข้า
หลักเกณฑ์ด้านพิกัดอัตราศุลกากร (HS Code) พิกัดอัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน (AHTN)
หลักเกณฑ์ด้านราคาศุลกากร Gatt Valuation ในการประเมินภาษีอากรในการนำเข้า
หลักเกณฑ์การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีอากรว่าด้วยการเปิดเสรีทางการค้า
การยกเว้นหรือลดอัตราอากรสำหรับเขตการค้าเสรี (FTA)
พักเบรก
การตรวจสอบสิทธิก่อนและหลังการนำสินค้าเข้า
การรับรองแหล่งกำเนิดด้วยตนเอง (Self Certification)
e-Export: พิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสินค้าส่งออก
การยกเว้นอากรสำหรับของส่งออกแล้วจะนำกับเข้ามาในภายหลัง (สุทธินำกลับ)
การขอคืนอากรสำหรับสินค้าที่นำเข้ามาแล้วส่งกลับออกไป (Re-Export)
การคืนอากรสำหรับของที่นำเข้ามาผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด(มาตรา 29)
การใช้สิทธิประโยชน์ของคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) เขตปลอดอากร (Free Zone) เขตประกอบการเสรี (I-EAT Free Zone)
การขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออก (Tax Coupon)
ปัญหา ข้อควรระวัง และแนวทางในการแก้ไขข้อผิดพลาดการนำเข้า-ส่งออก
การรับรองป้องกันภัยจากการก่อการร้ายจากมาตรฐานเออีโอ (AEO) and (C-TPAT)
สรุปการบรรยาย

 

วิทยากร อาจารย์ วิรัตน์ บราหยัน

 

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ข้อกำหนดมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 อบรม 19 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร ข้อกำหนดมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 อบรม  19 กันยายน 2567

 

หลักการและเหตุผล (Introduction)

ในการประกอบธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง รวมถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น การสิ่งมอบสินค้าหรือการบริการถือเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าจะให้ความเชื่อมั่นในอันดับต้นๆคือในเรื่องของคุณภาพ เพื่อความอยู่รอดของการประกอบธุรกิจในระยะยาว ระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) จะสามารถช่วยให้องค์กรเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันได้ในระยะยาวและเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ISO 9001 เป็นมาตรฐานที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ และยอมรับเพื่อสร้างความเป็นเลิศทางการแข่งขันด้านคุณภาพ รวมทั้งความมีประสิทธิภาพในแง่ของการดำเนินการภายในองค์กร

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)
 พนักงาน หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผน การดำเนินงานกำกับดูแลระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015

ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Expected of the result)
1. การระบุข้อกำหนดที่สำคัญ และการนำไปใช้ประโยชน์ของมาตรฐาน ISO 9001:2015
2. มีการจัดการคุณภาพที่ถูกต้องและการขับเคลื่อนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องรวมทั้งช่วยดึงดูดการรักษาลูกค้าโดยการทำตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้อง
3. ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น
4. มีการจัดการภายในอย่างเป็นระบบเป็นไปตามมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

เนื้อหาการบรรยาย (Key Contents)
o ความรู้ทั่วไปกับการปรับเปลี่ยนมาตรฐาน
o กำหนดขอบเขตธุรกิจและทิศทางของธุรกิจ
o การกำหนดโครงสร้างองค์กร และแผนการบริหารเชิงกระบวนการ
ข้อกำหนด ISO 9001 : 2015
1. ขอบข่าย (Scope)
2. มาตรฐานอ้างอิง (Normative references)
3. คำศัพท์และนิยาม (Terms and definitions)
4. บริษัทขององค์กร (Context of the organization)
4.1 ความเข้าใจองค์กร และบริบทขององค์กร
4.2 ความเข้าใจถึงความต้องการ และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4.3 การกำหนดขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
4.4 ระบบบริหารคุณภาพและกระบวนการ
5.ความเป็นผู้นำ (Leadership)
5.1 ความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่น
5.2 นโยบายคุณภาพ
5.3 บทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบและอำนาจหน้าที่ในองค์กร
6. การวางแผน
6.1 การปฏิบัติการเพื่อดำเนินการกับความเสี่ยงและโอกาส
6.2 วัตถุประสงค์คุณภาพ และการวางแผนงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์คุณภาพ
6.3 การวางแผนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
7.การสนับสนุน
7.1 ทรัพยากร
7.2 ความสามารถ
7.3 ความตระหนัก
7.4 การสื่อสาร
7.5 เอกสารสารสนเทศ
8. การดำเนินงาน
8.1 การวางแผนและการควบคุม การดำเนินงาน
8.2 ข้อกำหนดผลิตภัณฑ์และการบริการ
8.3 การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
8.4 การควบคุมกระบวนการจัดหาจากภายนอก ผลิตภัณฑ์และบริการ
8.5 ข้อกำหนดการผลิตและบริการ
8.6 การปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการ
8.7 การควบคุมผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
9.การประเมินสมรรถนะผลการดำเนินงาน
9.1 การติดตาม การวัด การวิเคราะห์ การประเมินผล
9.2 การตรวจประเมินภายใน
9.3 การทบทวนฝ่ายบริหาร
10. การปรับปรุง
10.1 ทั่วไป
10.2 สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและการปฏิบัติแก้ไข
10.3 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ระยะเวลาการฝึกอบรม (Time)
• 1 วัน

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร ข้อตกลงการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ Incoterms ®2020 วันที่ 18 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยันจัดอบรม หลักสูตร ข้อตกลงการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ Incoterms ®2020

วันที่  18 กันยายน 2567

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

 

หลักการเเละเหตุผล

ปัจจุบันการประกอบธุรกิจการส่งออก และนำเข้ามีการแข่งขันกันอย่างมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยี่การผลิต และสารสนเทศ ปัจจัยการลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจการส่งออก-นำเข้า เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

 

เงื่อนไขการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ ในแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์การส่งมอบที่มีการเรียกคล้ายคลึงกันแต่ความหมายของแต่ละเงื่อนไขมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง และมีความเข้าใจไม่ตรงกัน สภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce-ICC) จึงได้ออกกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าที่เรียกว่า Incoterms เพื่อเป็นมาตรฐานให้ผู้ประกอบการส่งออก และนำเข้าได้เข้าใจถึงภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ทุก 10 ปี และตั้งแต่ปี คศ.2020 สภาหอการค้านานาชาติ (ICC) ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าใหม่ โดยมีการกำหนดเรื่องการส่งมอบใบตราส่งสินค้าทางเรือ และเอกสารการประกันภัยให้กับคู่ค้า รวมทั้งภาระความรับผิดชอบในการส่งมอบสินค้าของผู้ขาย และการรับสินค้าของผู้ซื้อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อลดข้อโต้แย้ง และความไม่เข้าใจจากกฎเกณฑ์การส่งมอบสินค้าในปีเก่า ๆ ที่ผ่านมา

 

ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจส่งออก และนำเข้า รวมทั้งผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการทำข้อตกลงซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ จึงมีจำเป็นต้องมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการส่งมอบสินค้าฉบับปรับปรุงใหม่ดังกล่าว เพื่อให้สามารถรู้ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบของตนในการกำหนดราคาซื้อ/ขาย สินค้าได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล  และช่วยไม่ให้เกิดความเสียเปรียบในทางคดี หากเกิดการฟ้องร้องขึ้นในอนาคต

 

วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้เพื่อเป็นพื้นฐาน และแนวทางในการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจความหมาย ความเป็นมาและความสำคัญของข้อตกลงการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ (Incoterms ® 2020) ตามมาตรฐานสากลที่กำหนดโดยสภาหอการค้านานาชาติ
  3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงชนิดของเอกสารที่ต้องส่งมอบให้คู่สัญญาตามข้อกำหนดใน Incoterms ®2020
  4. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เข้าใจถึงวิธีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้รับการขนส่ง (Carrier) ผู้ขาย และผู้ซื้อ
  5. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจหลักการสำคัญของ Incoterms ® 2020 ที่ใช้ในปัจจุบัน รวมถึงประโยชน์และข้อควรระวังในการใช้ Incoterms 2020 ของแต่ละข้อตกลงดังกล่าว
  6. เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพ และการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักเกณฑ์การส่งมอบสินค้าที่เป็นมาตรฐานสากล ให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรในภายภาคหน้า

 

หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร

ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก และนำเข้า  ผู้ประกอบการตัวแทนออกของ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี  และบุคคลทั่วไปที่มีแนวคิดที่จะประกอบธุรกิจการนำเข้า- ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ และตัวแทนออกของ

 

หัวข้อการบรรยาย

  • สาระสำคัญของกฎเกณฑ์ข้อตกลงในการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศ
  • (International Commercial Terms – Incoterms ® 2020)
  • หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ซื้อ และผู้ขายในการส่งมอบสินค้า
  • การโอนความเสี่ยง และความรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายที่จุดรับมอบสินค้าในแต่ละเงื่อนไขของ Incoterms ®2020
  • ความสำคัญของจุดส่งมอบสินค้าของผู้ขาย
  • สาระสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงเทอมการส่งมอบสินค้า (Trade Terms)ตามกฎเกณฑ์ของ Incoterms ® 2020
  • เอกสารการค้าระหว่างประเทศ (Shipping Documents)  ที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ Incoterms®2020
  • เทคนิคการเลือกใช้ Incoterms ®2020 ให้เหมาะสมกับการเจรจาซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ
  • ประเด็นกฎหมายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดของ Incoterms
  • ข้อควรระวังข้อบังคับในแต่ละเทอมนั้นขัดต่อกฏระเบียบของศุลกากรหรือไม่อย่างไร
  • ภาระหน้าที่ ของผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้ง11เทอมที่ต้องรับผิดชอบ
  • ค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงที่สำคัญสุด ในแต่ละข้อตกลงจนครบทั้ง11เทอม
  • Critical Pointsและการเจรจาต่อรองเพื่อลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยง
  • กฏระเบียบและภาระพิธีการศุลกากร เกียวข้องกับINCOTERMS
  • ภาระความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ มูลค่าเอาประกัน ในเทอมCIFและCIP
  • การใช้INCOTERMS Rulesในเอกสารทางการค้าระหว่างประเทศ
  • ตัวอย่างกรณีศึกษา/คำพิพากษาที่เกี่ยวกับINCOTERMS
  • ถาม – ตอบ

 

วิทยากร อาจารย์ มนตรี ยุวชาติ

การศึกษา:  ปริญญาตรี  Bachelor of Business Administration  (Bangkok University)

ปริญญาโท   Master of Business Administration

ตำแหน่งงานที่ผ่านมา:  เจ้าหน้าที่บริหาร Asst. Vice President บมจ. ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

รับผิดชอบงาน

  • สำนักธุรกิจส่งออก-นำเข้า บมจ.ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
  • กำกับดูแล – ธุรกิจส่งออกและนำเข้า สำนักงานใหญ่
  • งานให้คำปรึกษาธุรกิจส่งออกและนำเข้า (Trade Advisory)

ตำแหน่งงานพิเศษ                ผู้ประนีประนอม

  • ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
  • ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
  • ศาลแพ่งพระโขนง
  • ศาลอาญาพระโขนง

ประสบการณ์การบรรยายมากกว่า 30 ปี

เคยเป็นผู้บรรยายพิเศษ

       –       จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรปริญญาโท คณะนิติศาสตร์)

  • สถาบันการบินพลเรือน (หลักสูตรปริญญาโท)
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • สถาบันเทคโนโลยี่ไทย-ญี่ปุ่น

เคยเป็นวิทยากรพิเศษ

–       บมจ. ธนาคารกรุงเทพ ได้รับรางวัลวิทยากรดีเด่นด้านความสามารถในการสอนดีเด่น

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

โปรโมชั่น พิเศษดังกล่าว สงวนสิทธิ์เฉพาะ

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เท่านั้น

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบำรุงรักษาตามแผนงาน (Planned Maintenance) อบรม 18 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การบำรุงรักษาตามแผนงาน (Planned Maintenance) อบรม 18 กันยายน 2567

       กิจกรรมการบำรุงรักษาเครื่องจักร ซึ่งมีแนวคิดในการสร้างระบบบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพ การวางแผนงานการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน Preventive Maintenanceใน แบบตลอดช่วงอายุของเครื่องจักร การบำรุงรักษาตามแผนงาน (Planned Maintenance) จำเป็นที่จะต้องดำเนินการควบคู่กับ การบำรุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance) พนักงานที่ควบคุมเครื่องจักร จะเป็นคนที่สามารถรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติของเครื่องจักรได้มากที่สุด ดังนั้นจุดตรวจสอบเครื่องจักรภายนอก จะถูกมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพนักงานที่ควบคุมเครื่องจักร เพื่อให้มีการตรวจสอบและสามารถจับสิ่งผิดปกติ ก่อนที่เครื่องจักรเกิดความเสียหายกะทันหัน (Breakdown Maintenance) รวมไปถึงการบำรุงรักษาตามคาบเวลา (Time Base Maintenance) และการบำรุงรักษาตามเงื่อนไข (Condition Base Maintenance)ที่สามารถบ่งบอกช่วงเวลาหรือเงื่อนไขต่าง ๆที่สำคัญในการวางแผนการบำรุงรักษาที่ทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเข้าใจหลักการและความสำคัญของการ บำรุงรักษาตามแผนงาน(Planned Maintenance) สามารถสร้างกำหนดแผนงานการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เพื่อป้องกันเครื่องจักรหยุดเดินกะทันหัน (Breakdown maintenance)
  • เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถเข้าใจการบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) กลับไปประยุกต์ใช้ได้ในองค์กรได้
  • ความสัมพันธ์ของการบำรุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance)กับการบำรุงรักษาตามแผนงาน (Planned Maintenance)
  • เพื่อลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักรการผลิต (Machine Downtime or Breakdown)
  • เพื่อลดต้นทุนการซ่อมบำรุงเครื่องจักรอย่างได้ผล
  • เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและลดของเสียลงได้

หัวข้ออบรม

  1. ความเป็นมาและแนวคิดของระบบการบำรุงรักษาตามแผนงาน
  2. ความสำคัญของระบบการบำรุงรักษาตามแผนงาน
  3. โครงสร้างและหน้าที่ของการบำรุงรักษาตามแผนงาน
  4. ตัวชี้วัดความสำเร็จของการบำรุงรักษา MTBF , MTTR
  5. การตั้งเป้าหมายการบำรุงรักษาตามแผนงาน
  6. 6 ขั้นตอนการทำ Planned Maintenance
  7. ประเมินสภาพเครื่องจักรและสำรวจสภาพปัจจุบัน
  8. ฟื้นฟูสภาพเสื่อมและปรับปรุงจุดอ่อนของเครื่องจักร
  9. การบริหารข้อมูลการบำรุงรักษา
  10. การบำรุงรักษาตามคาบเวลา (Time Base Maintenance : TBM)
  11. การบำรุงรักษาตามเงื่อนไข (Condition base maintenance : CBM)
  12. ประเมินผลการบำรุงรักษาตามแผน

ระยะเวลาอบรม           1 วัน เวลาอบรมจำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  

วิทยากร          อาจารย์อนันต์ ดีโรจนวงศ์

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, ให้คำปรึกษา แนะนำ, ตอบคำถาม, Workshop (Option)

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุง/ ผู้บริหารระดับสูง-กลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายซ่อมบำรุงเครื่องจักร ฝ่ายผลิต ฝ่ายวางแผนการผลิต วิศวกร และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

                                      มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี     

                                      ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                                    – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์    

                                      โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

ราคา โปรโมรชั่น  2,500 บาท

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

หลักสูตร ยืนยันจัดอบรม กระบวนการส่งออกและนำเข้าพร้อมด้วยพิธีการศุลกากร ทั้งระบบ 17 กันยายน 2567

หลักสูตร ยืนยันจัดอบรม กระบวนการส่งออกและนำเข้าพร้อมด้วยพิธีการศุลกากร ทั้งระบบ 17 กันยายน 2567

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

 หลักการและเหตุผล 

          การส่งออกและนำเข้าสินค้าในปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของประเทศและของโลก ประกอบกับการค้าวิถีใหม่ NEW NORMAL  เป็นการค้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์  ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผู้ปฏิบัติต้องมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจอย่างชาญฉลาด ทันสมัย ตามการค้าของโลกที่เปลี่ยนไปเร็วมาก

สิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออก, นักธุรกิจ, ผู้ผลิต, ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ, นายหน้าหรือตัวแทนการค้า, รวมทั้งพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวและผู้สนใจทั่วไป จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้ในเรื่องของการค้ายุคใหม่ที่นำเอาระบบ Logistics & Supply Chain มาบริหารจัดการให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกและได้รับผลสำเร็จคุ้มค่ากับการลงทุน

การประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันมีความแตกต่างจากอดีตมากมาย  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเพราะนโยบายการตอบรับของรัฐบาลไทยส่วนหนึ่งและเป็นการเปลี่ยนแปลงจากนานาชาติอีกส่วนหนึ่งนอกจากนั้นนโยบายการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับนานชาติก็ทำให้ระบบภาษีอากรลดลงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการค้าและก็ตามมาด้วยกฏระเบียบที่ต้องปฏิบัติที่เป็นกลไกให้การเปิดเสรีทางการค้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์

สำหรับประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปฏิบัติสำหรับการจัดเก็บภาษีใหม่หมดจากระบบพื้นฐานเดิมที่เป็นแบบ Manual  ได้พัฒนากลายมาเป็นระบบ EDI (Electronic Data Interchange)  และในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นระบบไร้เอกสารที่เรียกว่า  ebXML พร้อมกันนี้ภาครัฐยังได้สนับสนุนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกร่วมมือกันพัฒนาเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันเช่นการขออนุมัติหรืออนุญาตหรือแม้หนังสือรับรองต่างๆ ทางอิเลกทรอนิกส์โดยใช้ระบบ NSW :  National Single Window  โดยมีศูนย์กลางคือกรมศุลกากร  ซึ่งเป็นการปฎิบัติงานที่ได้ผลดีโครงการนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดีทำให้เกิดความสะดวกในการปฏิบัติงาน อีกทั้งทุ่นเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำงานมากขึ้นเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของประเทศอย่างยิ่ง

วัตถุประสงค์

เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการขั้นตอนพิธีการนำเข้าและส่งออก อีกทั้งกฎเกณฑ์ระเบียบปฎฺบัติรวมทั้งภาษีอากรซึ่งรวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างที่พึงได้รับจากการนำเข้าและส่งออกทั้งมวลเป็นผลให้การทำการค้าคล่องตัวมากขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ก็คือกฎระเบียบที่มีออกมาเรื่อย ๆ ก็คือ ข้อปฎิบัติที่เป็นอุปสรรคแต่ไม่ใช่ทางภาษีอากร (Non Tariff Barrier)  โดยเฉพาะการส่งออกต้องศึกษาให้ดี มิฉนั้นอาจพลาดได้  กฏระเบียบที่กล่าวมานี้จะเข้มงวดสับสนมากขึ้น ผู้นำเข้าส่งออกต้องหมั่นติดตามข่าวสารข้อมูลจากหน่วยงานการค้าระหว่างประเทศและอื่น ๆ ที่เกียวข้องกับการศุลกากรทั้งสองด้าน ปัจจุบันการติดตามข่าวสารข้อมูลจากระบบสารสนเทศเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด มี Website  มากมายให้เราสามารถค้นหาได้ และการอบรมสัมมนาก็เป็นทางเลือกหนึ่งให้เราได้ข้อมูลในสิ่งที่เราต้องการ สำหรับข้อมูลหลักที่ต้องปฏิบัติมีดังต่อไป

อนึ่ง การจัดสัมมนาของเราใช้วิธีการอบรมแบบ Teaching & Coaching พร้อมนำเทคนิคการทำงานจริงที่มีประสิทธภาพมาถ่ายทอดให้ผุ้เข้าอบรมและมีการสาธิตด้วยวิดิทัศน์ประกอบในบางขั้นตอนของการปฎิบัติงานจริงมาประกอบด้วย ผู้ผ่านการอบรมจะสามารถได้รับคำแนะนำ คำปรึกษา แนะแนวการทำงานตลอดไป

 

หัวข้ออบรม

  1. หัวข้ออบรมความรู้ทางด้านการค้าระหว่างประเทศ (Import -Export Operations)                                                                                         กระบวนการส่งออกและนำเข้า
    นโยบายส่งเสริมการค้าของไทย
    การเตรียมความพร้อมในการประกอบธุรกิจการค้า
    ความรู้เบื้องต้นกฎเกณฑ์การส่งออกและนำเข้า
    การเลือกปฏิบัติพิธีการศุลกากร
    ระบบการขนส่งที่เกี่ยวข้อกับศุลกากร
    สิ่งที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพิกัดอัตราศุลกากร                                                                                                                                         e-Import : การผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการนำเข้า
    การกำหนดราคาเกี่ยวข้องกับศุลกากรอย่างไร
    สิทธิพิเศษทางภาษีอากรกับการเปิดเสรีทางการค้า **
    เรื่องของการเสียภาษีอากรของไทยภายใต้ พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ.2560
    วิธีคิดและคำนวณภาษีอากร
    พิธีการศุลกากรระบบอิเล็กทรอนิกส์
    การจำแนกระบบภาษีอากรของไทย
    สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรของไทย ***
    การดำเนินพิธีการศุลกากรขาเข้าของไทย
    มีวิธีการตรวจสอบการปฏิบัติงานนำเข้าได้อย่างไร
    ภาพพิธีการส่งออกของไทย
    มีวิธีการตรวจสอบการปฏิบัติงานส่งออกได้อย่างไร
    ใครมีหน้าที่เก็บหลักฐานทางการค้าตามกฎหมายศุลกากร
    เทคนิคการแก้ปัญหาเมื่อเกิดความผิดพลาดทางกฎหมายศุลกากร
    ระบบความปลอดภัยทางการค้าของสากลเช่น C-TPAT & AEO

 

บรรยาย โดย อาจารย์ วิรัตน์ บราหยัน

 

จัดอบรม โรงเเรม สถานที่จัด โรงเเรม โนโวเทล สุขุมวิท 20 ติด BTS อโศก เดินทางสดวก

 

ลงทะเบียนOnline คลิ๊ก !!

  บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,500 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Online Zoom หลักสูตร การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ 17 กันยายน 2667 อ.อนันต์

Online Zoom หลักสูตร การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ 17 กันยายน 2667  อ.อนันต์

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

ราคา ท่านละ 2,500 บาท/ท่าน 09.00-16.00

สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

MRP (Material Requirements Planning) คือ แผนหรือตารางความต้องการวัตถุดิบ (Items) ในแต่ละวันของการผลิต และตามสูตรการผลิต (Bill of Material: BOM) ของสินค้าหนึ่ง ๆ ดังนั้น MRP จึงขึ้นอยู่กับความต้องการวัตถุดิบจากสูตรการผลิตและตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ (dependent demand) เช่น แผนความต้องการขวดเปล่าเพื่อบรรจุน้ำอัดลม หรือ ฝาขวด, ฉลากปิดขวด, น้ำตาล และแก๊ส รวมถึงแผนความต้องการน้ำดิบบริสุทธิ์เพื่อนำไปกรองและผสมตามสูตรการผลิต โดยสามารถบรรจุขวดและวางลงในกล่องหีบห่อได้อย่างเพียงพอ โดยตารางความต้องการวัตถุดิบหรือ MRP มีหัวข้อที่สำคัญคือ

  1. Gross Requirements คือ จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  2. Scheduled Receipts คือ ตารางการรับวัสดุที่ต้องการทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  3. Projected Stock Balance คือ จำนวนวัตถุดิบที่คาดหวังว่าต้องมีให้พร้อมเพื่อรองรับการผลิตในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  4. Net Requirements คือ จำนวนวัตถุดิบที่ต้องการสุทธิทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  5. Planned Order Receipts คือ แผนการรับวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน
  6. Planned Order Releases คือ แผนการสั่งวัตถุดิบในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละวัน

            หัวข้อต่าง ๆเหล่านี้ล้วนนำมาใช้ในการสร้างตาราง MRP ให้เกิดความสมบูรณ์ โดยมีข้อมูลประกอบเพิ่มเติมคือ Lead time ของการจัดส่งสินค้าของแต่ละ Supplier และ ปริมาณสินค้าคงคลังที่นับได้ล่าสุดอีกด้วย

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อสามารถผลิตสินค้าและส่งมอบได้ทันตามที่ลูกค้ากำหนด
  2. เพื่อลดเวลาการรอคอยวัตถุดิบจาก Supplier ที่มี Lead time การส่งมอบที่ยาวนานได้
  3. ลดเวลาการ Downtime ของเครื่องจักรที่เกิดจากการป้อนวัตถุดิบไม่ทันหรือไม่เพียงพอ
  4. ลดปริมาณและต้นทุนสินค้าคงคลังทั้งวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป และสินค้าสำเร็จรูปลงได้
  5. ลดต้นทุนการผลิตสินค้าจากการผลิตแบบ Just in time (JIT)
  6. ลดต้นทุนการจัดซื้อ จัดหา
  7. ลดความแปรปรวนของการผลิตและแผนการผลิตประจำวัน
  8. ลดปริมาณสินค้า Safety Stock
  9. ลดพื้นที่การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  10. สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

 

หัวข้อเนื้อหา   

  1. ระบบ MRP (Material Requirements Planning) คืออะไร วัตถุประสงค์และประโยชน์
  2. ระบบ MRP (Material Requirements Planning) และ S&OP (Sales and Operation Planning)
  3. การพยากรณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้า (Customer Demand Forecasting) กับการพยากรณ์การขาย (Sales Forecasting)
  4. การวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดขายสินค้า (Sales Predictive Analytics)
  5. ขั้นตอนของกระบวนการทำระบบ MRP
  6. ความแตกต่างระหว่าง MPS (Master Production Schedule) กับ MRP (Material Requirements Planning)
  7. การคำนวณตาราง MRP (Master Production Schedule)
  8. การตั้งสูตรการผลิตสินค้า (Bill of Material: BOM)
  9. การคำนวณตาราง MRP (Material Requirements Planning)
  10. MRP กับการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง
  11. ต้นทุนสินค้าคงคลัง (Cost of Inventory)
  12. ระบบ EOQ (Economic Order Quantity)
  13. การหาจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point: ROP)
  14. การกำหนดปริมาณสินค้าในคลังสินค้าเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock)
  15. กลยุทธ์การวางแผนการผลิตและการจัดซื้อแบบ Just in Time (JIT for Planning & Purchasing)

 

ระยะเวลาอบรม           1 วัน เวลาอบรมจำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  

 

วิทยากร          อาจารย์อนันต์  ดีโรจนวงศ์

 

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, อภิปรายเชิงปฏิบัติการ, ให้คำปรึกษา

 

กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหลัก ผู้จัดการโรงงาน/ ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายวางแผนการผลิต ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า วิศวกร

 

วิทยากร  อนันต์ ดีโรจนวงศ์ ตำแหน่ง – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics กรม

                                                ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

                                    – ที่ปรึกษาเครือข่าย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                    – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain  

                                      Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                                    – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์

                                      มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี     

                                      ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                                    – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นสาขาการจัดการโลจิสติกส์    

                                      โครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การควบคุมคุณภาพด้วยกิจกรรม QCC อบรม 13 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร การควบคุมคุณภาพด้วยกิจกรรม QCC อบรม 13 กันยายน 2567

โดย อ.บรรพต  เทพฤทธิ์

 

หลักการและแหตุผล

การทำกิจกรรมคุณภาพ QCC เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถจะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในหน้างานได้ การที่พนักงานมีความรู้แนวคิดในการค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น วิเคราะห์หาสาเหตุรวมถึงการ วางแผนในการปรับปรุงแก้ไข จะทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นลดลงได้ ทำให้ลดต้นทุนในการผลิตลง ทำให้งานบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างคุณภาพและมาตรฐาน การทำงานให้ดีขึ้นจึงจำเป็นที่สมาชิกกลุ่มคิวซี ผู้นำกลุ่มคิวซี ผู้มีหน้าที่ในการส่งเสริมและชี้แนะการทำกิจกรรมอย่างถูกต้อง สามารถกำหนดแผนในการดำเนินการ วิธีการปฏิบัติจริง การควบคุมการดำเนินงานและแก้ปัญหาในแต่ละขั้นตอนได้อย่างเหมาะสม

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

1.เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการเทคนิควิธีการ และขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรม QCC อย่างถูกต้อง

  1. ฝึกปฏิบัติให้เกิดทักษะในการนำไปประยุกต์ใช้ในการทำกิจกรรม QCC
  2. ปรับปรุงคุณภาพงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  3. เรียนรู้วิธีการเขียนและวิเคราะห์ปัญหา QC Story
  4. เรียนรู้การแก้ปัญหาและป้องกันปัญหา Corrective & Preventive Action

 

รายละเอียดเนื้อหาตามหลักสูตร

  • หลักการพื้นฐานและแนวคิดเกี่ยวกับองค์กรประกอบของธุรกิจ ต้นทุน กำไร และรายได้
  • ปรัชญาพื้นฐานและหลักการของการดำเนินกิจกรรม QCC
    • ประวัติความเป็นมา
    • หลักการพื้นฐานของ QCC
    • แนวความคิดในการควบคุมคุณภาพ
  • วงจร PDCA และ SDCA
  • การควบคุมและปรับปรุงในสถานที่ทำงาน
  • การทำกิจกรรมกลุ่มคิวซีเซอร์เคิล
  • วิธีดำเนินการกิจกรรมคิวซีเซอร์เคิล
  • กิจกรรมควบคุมและปรับปรุงสถานที่ทำงานเกี่ยวข้อง
  • การแก้ปัญหาโดยคิวซีสตอรี่(QC Story)
  • เครื่องมือการแก้ปัญหาคุณภาพในเชิงตัวเลขและเชิงคำพูด
  • 7 QC Tools และ NEW 7 QC Tools

7 QC Tools

  • แผ่นตรวจสอบ (Check Sheet)
  • แผนภูมิกราฟ (Graph)
  • แผนผังพาเรโต (Pareto Diagram)
  • แผนผังสาเหตุและผล
  • แผนผังการกระจาย (Scatter Diagram)
  • แผนภาพฮีสโตแกรม (Histogram)
  • แผนภูมิควบคุม

NEW 7 QC Tools

  • แผนภูมิการจัดกลุ่มความคิด (Affinity Diagram)
  • แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (Relation Diagram)
  • แผนภูมิต้นไม้ตัดสินใจ (Tree Diagram)
  • แผนภูมิเมตริกซ์ (Matrix Diagram)
  • แผนภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเมตริกซ์ (Matrix Data Analysis Chart)
  • แผนภาพทางเลือกตัดสินใจ เพื่อบริหารความเสี่ยง (Process Decision Program Chart)
  • แผนภูมิลูกศร (Arrow Diagram)
  • 7 ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมกลุ่ม QC ของ JUSE กับ JSA
    • การจัดตั้งกลุ่ม QCC และการจดทะเบียนกลุ่ม QCC
    • ค้นหาปัญหา/การเลือกหัวข้อปรับปรุง
    • นิยามปัญหา/ศึกษาสภาพปัจจุบันและตั้งเป้าหมาย
    • วางแผนกิจกรรมแบ่งบทบาทหน้าที่
    • วิเคราะห์สาเหตุ
    • พิจารณาและกำหนดมาตรการแก้ไขและแผนการดำเนินงาน/การดำเนินการตามมาตรการ
    • ติดตามผล/ตรวจสอบผลลัพธ์
    • กำหนดจัดทำเป็นมาตรฐาน
    • ค้นหาปัญหาใหม่(วงจร PDCA รอบใหม่ถัดไป)
    • กรณีศึกษา
  • ปัญหาและอุปสรรคในการทำ QCC
  • ตัวอย่างกิจกรรม QCC
  • Workshop กิจกรรมกลุ่ม QCC
  • สรุป และถาม ตอบ

 

ระยะเวลาในการฝึกอบรม

ระยะเวลาในการฝึกอบรม 1 วัน. (6 ชั่วโมง)

ผู้ควรได้รับการฝึกอบรม

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์โครงการ ทีมพัฒนาธุรกิจ ผู้จัดการ  หัวหน้างาน  Line Leader  พนักงานของบริษัทและผู้สนใจทั่วไป

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร 5 ส.และ ไคเซ็น เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 12 กันยายน 2567

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตร 5 ส.และ ไคเซ็น เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 12 กันยายน 2567

         Kaizen เป็นกิจกรรมเพื่อสร้างให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสำหรับองค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นกิจกรรมการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มของพนักงานที่ทำงานในองค์กรเดียวกันด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและหาได้ง่าย ประหยัด แต่ได้ผลคุ้มค่าในด้านของการมิติของ เวลา ลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ลดความผิดพลาด และลดความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น ด้วยการนำเอาหลักการที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ ในการทำ Kaizen ในทั่วทั้งองค์กรก็เพื่อให้เกิดการปฏิบัติงานอย่างดีเลิศได้อย่างต่อเนื่อง

        กิจกรรม Kaizen จึงเป็นสิ่งที่หลายอค์กรนิยมใช้กัน โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่และมีพนักงานจำนวนมาก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนด้วยสายตาและผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการทำงานเป็นทีม, พัฒนากระบวนการทำงานให้กระชับมากขึ้น, มีข้อมูลที่ถูกต้องและลดความผิดพลาดในแต่ละขั้นตอนทำงาน ซึ่งส่งผลถึงความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงผลประกอบการดีขึ้นและสร้างศักยภาพในการแข่งขันได้มากขึ้น

วัตถุประสงค

  1. เพื่อให้ทราบถึงแนวคิดและหลักการของไคเซ็นในองค์กร
  2. เพื่อทราบถึงขั้นตอนในการประยุกต์ใช้ไคเซ็นในองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
  3. 3. เพื่อให้สามารถที่จะปรับปรุงเพิ่มผลผลิต ลดความผิดพลาด ลดเวลาการทำงานในสำนักงาน และลด

   ต้นทุนขององค์กรโดยการใช้เทคนิคไคเซ็น

  1. เพื่อสามารถนำเอาหลักการอื่น ๆ มาประยุตก์ใช้กับหลักการไคเซ็นอย่างได้ผล
  2. 5. ผู้เข้าอบรมสามารถนำเอาความรู้เรื่องไคเซ็นไปร่วมกันดำเนินการจัดตั้งทีมงานภายในองค์กรได้อย่าง

   ถูกต้องและเหมาะสม

เนื้อหาของหลักสูตร

– การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย 5 ส

– การปรับปรุงพัฒนาด้วยหลักการ 5Ss หรือ 5ส.

  • สะสาง ความหมาย ตัวอย่าง ประโยชน์ที่ได้รับ
  • สะดวก ความหมาย ตัวอย่าง ประโยชน์ที่ได้รับ
  • สะอาด ความหมาย ตัวอย่าง ประโยชน์ที่ได้รับ
  • สร้างมาตรฐาน ความหมาย ตัวอย่าง ประโยชน์ที่ได้รับ
  • สร้างความยั่งยืน ความหมาย ตัวอย่าง ประโยชน์ที่ได้รับ

– กิจกรรม 5 ส.ภายในสำนักงาน หลักการ จุดประสงค์ ประโยชน์

– ความแตกต่างและความเหมือนของการทำกิจกรรม 5ส. ในโรงงานและสำนักงาน

– ขั้นตอนในการทำกิจกรรม  5ส

– หลักสการ Muda Mura Muri

– บทบาทหน้าที่ของพนักงานในการทำ 5ส.

– การนำกิจกรรม 5ส ไปดำเนินการในองค์กร และ องค์ประกอบของ 5ส

– เครื่องมืออุปกรณ์ที่ช่วยในการทำงาน 5ส.

– ตรวจประเมิน 5ส. อย่างไรให้มีประสิทธิภาพและยุติธรรม

– เครื่องมือ 5ส. สำหรับระบบความปลอดภัย

– ระบบการสำรวจ ตรวจตราพื้นที่ปฏิบัติงาน (Workplace Organization)

– การประเมินผล 5ส.ในโรงงานและสำนักงาน

– หลักการและเทคนิคของการทำ Kaizen

– เทคนิคการทำ Kaizen

– วิวัฒนาการพัฒนาแบบสามเหลี่ยม Kaizen ไปสู่ระบบ TQM

– แนวทางการปรับปรุง พัฒนางานด้วย Kaizen

– การวิเคราะห์กระบวนการ (การค้นหาปัญหาโดย 5 G)

– Kaizen และ กิจกรรมกลุ่มควบคุมคุณภาพและการจัดการคุณภาพโดยรวม

– หลักการ PDCA (Plan, Do, Check, Action) และ เทคนิคของ PDCA แต่ละขั้นตอน

– วิธีคิดเพื่อหาทางปรับปรุง 5 W 1 H

– เทคนิคการค้นหาและการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาที่รากเหง้าด้วย 5 Why Analysis

– หลักการ E C R S (Eliminate, Combine, Rearrange, Simplify)

– การทำงานอย่างเป็นมาตรฐาน (Standardized Works)

– การประยุกต์ใช้ Kaizen ในพื้นที่การทำงาน

– การพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการทำเอกสาร A3 ฟอร์ม

ระยะเวลาอบรม           1 วัน จำนวน  6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

วิทยากร          อาจารย์อนันต์  ดีโรจนวงศ์

รูปแบบการฝึกอบรม      การบรรยาย, การให้คำปรึกษา, กรณีศึกษา

กลุ่มเป้าหมาย    กลุ่มหลัก  หัวหน้างาน/ผู้บริหารระดับกลาง หรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ฝายปฏิบัติการผลิต วิศวกร และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

วิทยากร

  1. คุณ อนันต์ ดีโรจนวงศ์ – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมด้าน Lean Production & Logistics

                                   สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น 

                                 – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมและ Logistics & Supply Chain                     

                                    Management สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน

                            – อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์   

                              มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น, ม.ศรี    

                              ปทุม, ม.ธุรกิจบัณฑิต       

                            – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวง

                              อุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2557

 

อบรมแบบ ONLINE ผ่าน ZOOM

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

ราคา โปรโมรชั่น  2,500 บาท

โปรโมรชั่นสมัคร 3 ท่าน เเถม 1 ท่าน เข้าอบรม 4 ท่าน

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : 0988209929

Facebook : tesstrainingpage

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

หลักสูตร การบริหารจัดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ (TRANSPORTATION MANAGEMENT 4.0)


Public Training เปิดรับสมัคร ยืนยันจัด หลักสูตร การบริหารจัดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ (Transportation Management 4.0) 6 กันยายน 2567

หลักการเเละเหตุผล
ปัจจุบันการขนส่งมีบทบาทมากในวงการอุตสาหกรรมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ จากระบบการขนส่งในภาพรวมเริ่มจากการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า การวางแผนด้านการผลิตหรือบริการ การตรวจสอบ การบรรจุสินค้า และการจัดส่งหรือขนส่งไปยังลูกค้า ที่กล่าวมาเบื้องต้นในทุกๆขั้นตอนมีระบบการขนส่งที่มีรายละเอียดที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารการขนส่ง ที่กล่าวมาทั้งหมดยังแฝงไปด้วยรายละเอียดที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในด้านการขนส่งต่างๆที่เกิดขึ้นและที่สำคัญในเรื่องของการควบคุมคุณภาพในขั้นตอนการปฏิบัติงานด้านการขนส่ง ดังนั้นเราจะต้องเรียนรู้เทคนิคต่างๆ แนวคิดด้านการบริหารการขนส่ง การลดต้นทุนแต่ไม่ลดคุณภาพงานรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพงานในด้านการขนส่งเพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจมีกำไรและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดไป

วัตถุประสงค์
สามารถเข้าใจแนวคิดการบริหารงานขนส่ง
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารงานจัดส่งสินค้า
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิดพื้นฐานการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตระบบงานขนส่งสินค้า
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำหลักการหรือเครื่องมือไปใช้ในระบบงานขนส่งและสามารถวิเคราะห์ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงเทคนิคและวิธีการประยุกต์ใช้ที่ถูกต้องเหมาะสมในการปรับปรุงการปฏิบัติงานในงานขนส่งได้

หัวข้ออบรม
หลักแนวคิดการขนส่งกับกระบวนการโลจิสติกส์ในภาพรวม
หลักพื้นฐานในการบริหารงานขนส่งสินค้า
รูปแบบหลักการของการขนส่ง
การขนส่งสินค้าและข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ
พักเบรก
บรรยาย (ต่อ)
การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
ขั้นตอนการปฏิบัติงานในงานขนส่ง
การจัดเส้นทางและการจัดตารางการขนส่ง
โครงสร้างต้นทุนของการขนส่งสินค้า
พักกลางวัน
บรรยาย (ต่อ)
การจัดจ้างงานบริการขนส่งจากภายนอก
การควบคุมคุณภาพของการให้บริการด้านขนส่ง
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการงานขนส่งสินค้า
ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานด้านขนส่ง
พักเบรก
เทคนิคการจัดการเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
การขนส่งแบบ Home Delivery หรือ Last mile delivery
ที่กำลังได้รับความ นิยม
การส่งมอบสินค้าแบบทันเวลาพอดีหรือ JIT (Just In Time)
Transport 4.0 ระบบขนส่งในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
กรณีศึกษา
สรุปการเรียนรู้และถามตอบ

อัตราค่าลงทะเบียนอบรม
2,500 บาท/ท่าน (ไม่รวม Vat) 09.00-16.00
พิเศษลงทะเบียน 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM
หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

 

สามารถจัดรูปเเบบ In-house Training (การอบรมภายในสถานที่) การจัดอบรมที่ทางสถาบันจะเข้าไปทำการฝึกอบรมให้ที่บริษัทของลูกค้าเองได้ค่ะ

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

หลักสูตรสามารถเลือกจัดรูปเเบบ IN HOUSE  ในองค์กรเเจ้งได้ค่ะ

http://www.tesstraining.com

 

เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตรVDA 6.5การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ อบรม 28 กันยายน 2567

 เปิดรับสมัคร ยืนยัน หลักสูตรVDA 6.5การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ อบรม 28 กันยายน 2567

หลักการและเหตุผล

The Verband der Automobilindustrie (Automobile Industry Association -VDA)เป็นผู้จัดทำVDA 6.5 Product Auditซึ่งมีเป้าหมาย คือการพัฒนากระบวนตรวจสอบผลิตภัณฑ์ (Product Audit)ที่ให้การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเน้นการป้องกันข้อบกพร่องและการลดการผันแปรและของเสียในห่วงโซ่อุปทาน VDA 6.5มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แนวทางทั่วไปสำหรับระบบการจัดการการตรวจสอบ สำหรับองค์กรด้านการผลิตและบริการด้านยานยนต์

วัตถุประสงค์

 

    • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเห็นถึงความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศความน่าเชื่อถือและคุณภาพตลอดจนระดับการบริการสูงสุด

 

    • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเพิ่มผลผลิตผ่านการระบุพื้นที่ที่มีปัญหาในระหว่างการตรวจสอบซึ่งสามารถช่วยลดหรือกำจัดเวลาหยุดทำงานและลดการสูญเปล่าในระหว่างกระบวนการผลิต

 

    • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำเทคนิคต่างๆไปสร้างแนวทางเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

    •  

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants)

 

    • สำหรับผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบระบบ และบุคลากรในกิจกรรมการตรวจสอบวัดและทดสอบภายในองค์กรรวมทั้งผู้ตรวจสอบภายในที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน

หัวข้อเนื้อหา

 

Ø การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ (Product Audit)เป็นกระบวนทัศน์ใหม่ในเวทีการตรวจสอบ เป็นการตรวจสอบที่เชื่อมโยงระหว่างการตรวจสอบระบบและการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของกระบวนการในการผลิตผลิตภัณฑ์และการให้บริการØ พักเบรก

Ø หลักสูตรนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ บริษัท ที่กำลังมองหากระบวนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ หลักสูตรนี้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจถึงข้อกำหนดในการตรวจสอบแนวคิดและบทบาทของผู้ตรวจสอบภายในเกี่ยวกับ VDA 6.5

Ø พักรับประทานอาหารกลางวัน

Ø การประยุกต์ใช้งาน

Ø กระบวนการประเมินผลและการประยุกต์ใช้วิธีการกระบวนการในการตรวจสอบ (process approach to auditing)ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดของ IATF 16949: 2019

Ø สามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

Ø ลดการเกิด COPQ: Cost of Poor Quality

Ø พักเบรก

Ø การวางแผน (Planning), การถ่ายทอด (Deploy),การเข้าตรวจ (Conduct the Audit),การรายงานผลต่อที่ประชุมและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Top Management Review and Continuous Improvement)

Ø มีการปรับปรุงพัฒนากระบวนการทำงานภายใน

Ø สร้างขวัญและกำลังใจที่ดีต่อพนักงานในองค์กร

สรุปประเด็นการเรียนรู้

 

 

 

คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม (Target Participants) • สำหรับผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบระบบ และบุคลากรในกิจกรรมการตรวจสอบวัดและทดสอบภายในองค์กรรวมทั้งผู้ตรวจสอบภายในที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน

การบรรยาย การโค้ชชิ่งแบบSmall Groupการปภิปราย

 

บรรยาย อาจารย์ พลกฤต โสลาพากุล

โอนก่อนวันนี้ ราคาท่านละ 3,500 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

 

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 3,000 บาท

 

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

สถานที่อบรม: โรงแรมโกลด์ออร์คิด วิภาวดี

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี:0105557143661

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com