Public Training การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 24 (Performance Appraisal : PMS Module 2) 26 ธันวาคม 2565โรงแรม เซนต์ เจมส์สุขุมวิท 26

Public Training การประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ด้วย KPI และ Competency รุ่นที่ 24 (Performance Appraisal : PMS Module 2)

26 ธันวาคม 2565โรงแรม เซนต์ เจมส์สุขุมวิท 26

 

การประเมินผลยุคปัจจุบันเน้นเรื่อง Performance / Results และ Competency แต่ก็ยังประสบกับปัญหาเหล่านี้ ?

  • บุคลากรยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System)

  • เลือกไม่ถูกว่าจะประเมินผลด้วย OKR หรือ KPI ดี ???

  • ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างKey Performance Indicators และ Performance Indicators ได้

  • ในการกำหนดหัวข้อประเมินผลไม่สามารถกำหนดได้ว่า อะไรคือ KPI (Key Performance Indicators) อะไรคือ PI (Performance Indicators) ?

  • แยกไม่ออกระหว่าง Performance กับ Competency

  • จะประเมิน Competency ก็มีแต่พฤติกรรมที่จับต้องได้ยาก จะมีการประเมิน Competency ที่ชัดเจนได้อย่างไร ?

  • ประเมินผลว่ายากแล้วแต่ Performance Feedback ยิ่งยากกว่า จะ Feedback อย่างไรให้เป็นธรรมและได้รับการยอมรับจากลูกน้อง ?

  • ประเมินผลแล้ว ไม่รู้จะนำผลการประเมินไปใช้เชื่อมโยงกับการพัฒนาบุลากรได้อย่างไร ?

หากองค์กรของท่านกำลังประสบกับปัญหาดังกล่าวข้างต้น จนก่อให้เกิดอาการอื่นๆ ของปัญหาการจัดการตามมา อาทิเช่น  การประเมินผลไม่เป็นธรรม พนักงานไม่ยอมรับผลการประเมิน หัวหน้ารู้สึกอัดอัดเวลาแจ้งผลงานลูกน้อง ขวัญกำลังใจพนักงานตกต่ำ พนักงานกลุ่ม Talent ทยอยลาออก ฯลฯ

หลักสูตรที่เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ และฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่ควรพลาด ท่านจะได้เรียนเทคนิค ขั้นตอนการประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่แบบครบวงจร ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของวิทยากรในการเรียนรู้ที่ “กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง”

วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

สามารถอธิบายแนวคิด หลักการ กระบวนการบริหารผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Modern Performance Management Process) และ KPIs ได้

สามารถแยกความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง KPIs กับ OKRs ได้

สามารถกำหนด Key Performance Indicators (KPIs) ในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร และงานที่รับผิดชอบ

สามารถอธิบายและแยกแยะความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators, Performance Indicators และ Competency  ได้อย่างชัดเจน

สามารถกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีสมัยใหม่ ด้วย KPI และ Competency ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

เสริมสร้างเทคนิคการให้ Performance Feedback อย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถนำผลการประเมินไปใช้ในการบริหารผลงานได้อย่างเป็นระบบ

หัวข้อสำคัญที่ท่านจะได้เรียนรู้ :

ส่วนที่  1  :  ปฐมบทเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่ (Introduction to Modern Performance Appraisal)

ความเชื่อมโยงของการประเมินผลการปฏิบัติงานกับระระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System : PMS)

6 ขั้นตอนสำคัญของระบบบริหารผลการปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Performance Management Process)

Key Performance Indicators และ Competency เครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมินผลยุคใหม่

แนวทางการกำหนดปัจจัยและค่าน้ำหนักความสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปียุคใหม่

ส่วนที่  2  :  ความเหมือนที่แตกต่าง และความแตกต่างที่เหมือนกัน ของ KPIs (Key Performance Indicators) กับ OKRs (Objective and Key Results)

ความเหมือนที่แตกต่างของ KPIs กับ OKRs

ความแตกต่างที่เหมือนกันของ KPIs กับ OKRs

ถ้า OKRs ไม่นิยมใช้ประเมินผล แล้วองค์กรที่ใช้ OKRs ใช้เครื่องมือใดในการประเมินผล ???

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการกำหนด KPIs ในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ Vision และ Objective (KPIs for Performance Appraisal)

ประเภทของ KPI

การกำหนด Corporate KPIs ด้วย Balance Scorecard (BSC)  เพื่อวัดผลการดำเนินงานทางธุรกิจขององค์กร

แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายขององค์กร (Corporate KPIs)

แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดผลงานของแต่ละฝ่ายงาน (Functional KPIs) ให้เชื่อมโยงกับนโยบาย (Policy) วัตถุประสงค์ (Objective) และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติกำหนด Functional KPIs ของฝ่ายงาน ให้เชื่อมโยงกับ Objective และเป้าหมายองค์กร (Corporate KPIs)

แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายของตำแหน่งงาน (Position KPIs / Individual KPIs)

ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ Performance Indicators

แนวทางการออกแบบและเชื่อมโยง KPIs สู่การประเมินผลงาน

Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติออกแบบประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย KPI ของแต่ละตำแหน่งงาน

ส่วนที่  4  :  วิธีกำหนดและเชื่อมโยง Competency สู่การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Competency for Performance Appraisal)

ประเภทของ Competency และเครื่องมือในการกำหนด Competency

ความแตกต่างระหว่าง Key Performance Indicators กับ และ Competency

แนวทางการกำหนด Competency ในการประเมินขีดความสามารถจาก Job Description Version 4

แนวทางการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถประจำปีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร

ตัวอย่างการแปลง Competency จาก Training Road Map สู่การประเมินความสามารถที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร

ส่วนที่  5  :  แนวทางในการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

แนวทางการประเมินผลงานอย่างเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ

กระบวนการในการประเมิน และ Feedback ผลการปฏิบัติงานลูกน้องอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  6  :  แนวทางการแจ้งผลการปฏิบัติงาน (Positive Feedback) ให้ได้ทั้งใจและได้ทั้งงานจากลูกน้อง

เทคนิคการแจ้งผลงาน (Positive Feedback) แบบได้ทั้งใจ และได้ทั้งผลงานจากลูกน้อง

ส่วนที่  7  :  การนำผลการประเมินไปปรับใช้งานเชื่อมโยงกับ Human Resources System

แนวทางการเชื่อมโยงผลการปฏิบัติงานกับแผนพัฒนารายบุคคล (Performance Appraisal linked to Individual Development Plan : IDP)

แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Training Road Map และ Career Path

แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับ Succession Plan ด้วย Competency และ KPI

แนวทางการเชื่อมโยงผลการประเมินกับการปรับค่าจ้างประจำปียุคใหม่ แบบอิงเกรด ไม่อิง Bell Curve

รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ :

การบรรยาย  แบบ Adult Learning

ประกอบการแชร์ประสบการณ์ตรง

การทำ Workshop ในการปฏิบัติจริง

การระดมความคิด นำเสนอผลงาน

การถามตอบ

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ :

เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และผู้สนใจทั่วไป

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี และประสบการณ์ KPI Management 18 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

สถานที่อบรม โรงเเรม เซนต์ เจมส์ สุขุมวิท 26 ติด BTS อโศก

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

สมาชิก 3,500 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

 

Public Training หลักสูตร การกำหนดเป้าหมายการทำงานแบบ SMART Goal Setting ด้วย KPI และ Effective Action Plan รุ่น 19 (KPI & Effective Action Plan : PMS Module 1) : 24 พฤศจิกายน 2565

Public Training หลักสูตร การกำหนดเป้าหมายการทำงานแบบ SMART Goal Setting ด้วย KPI และ Effective Action Plan รุ่น 19 (KPI & Effective Action Plan : PMS Module 1) : 24 พฤศจิกายน 2565

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันอย่างรุนแรงในปัจจุบัน องค์การจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต้องมีเป้าหมายหรือ KPI ที่ชัดเจนเป็นเข็มทิศในการดำเนินงาน ต้องวางแผนกลยุทธ์ (Strategics Plan) และแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI อย่างเป็นระบบ  แต่ในการจัดทำและนำ KPI ไปใช้งานจริง หลายองค์กรมักจะพบกับประเด็นคำถามที่ว่า

  • KPI ก็กำหนดแล้ว แต่ไม่รู้จะเชื่อมโยงไปสู่กลยุทธ์ขององค์การอย่างไรดี ?

  • KPI ของฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต ก็ง่ายนะสิมีตัวเลขวัดได้ชัดเจน แล้วฝ่ายสำนักงานหรือสายสนับสนุน (Back Office) จะกำหนด KPI อย่างไรชัดเจนเป็นรูปธรรมให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรดีล่ะ ?

  • แล้ว KPIs ในระบบ ISO9001 / IATF16949 ที่มี จะเชื่อมโยงเป็นเป้าหมายขององค์กรได้ไหม ?

  • แล้วตัวชี้วัดและเป้าหมายรายบุคคลของแต่ละตำแหน่งงานล่ะ จะกำหนดจากอะไรดี ?

  • จะเชื่อมโยง KPI ไปสู่แผนปฏิบัติงานอย่างไรดี ?

หลักสูตรฝึกอบรมนี้มีคำตอบากประสบการณ์ตรงของวิทยากรและที่ปรึกษาด้าน KPI Management กว่า 18 ปี ที่ช่วยให้ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารและจัดการ KPI Management แบบครบวงจรทั้ง…การกำหนดเป้าหมายแบบมืออาชีพ…การกระจายเป้าหมายสู่หน่วยงานและตำแหน่ง…การจัดทำแผนงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI…การควบคุมและติดตาม KPI อย่างเป็นระบบ ทั้งแบบฟอร์มและตัวอย่าง รวมทั้ง Workshop ฝึกปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง  

สิ่งที่จะได้รับจากการอบรม 

  1. สามารถอธิบายหลักการ แนวคิด ขั้นตอน วิธีการ และเทคนิคการกำหนด KPI สมัยใหม่ได้

  2. เสริมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการนำ KPI ในการดำเนินงานขององค์กร

  3. จุดประกายความคิดในการมองเห็นความเชื่อมโยงของ KPI กับกลยุทธ์ขององค์กร

  4. เสริมสร้างเทคนิคในการกระจาย KPI ตามยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ สู่การกำหนด KPI ของหน่วยงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. สามารถกำหนด Functional KPIs ของหน่วยงานให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ Corporate KPIs ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

  6. ทราบถึงแนวทางการเชื่อมโยง KPI ของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานซึ่งกันและกัน

  7. สามารถกำหนด Position KPIs ของทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร

  8. สามารถจัดทำ Action Plan ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  9. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปออกแบบและจัดทำ KPI และ Action ได้อย่างเป็นรูปธรรมและเชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร 

 

หัวข้อสำคัญที่ท่านจะได้เรียนรู้ 

ส่วนที่  1  :  แนวคิดและหลักการของ Key Performance Indicators (KPI Introduction)

  • ศัพท์น่ารู้ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ KPI

  • KPI คือ อะไร ?

  • ความสำคัญและประโยชน์ของ KPI ในการนำไปใช้งานในการบริหารองค์กร

  • 4 หลักสำคัญในการออกแบบ KPI ให้มีประสิทธิผล เช่น SMART GOAL

  • KPIs ในองค์กรที่ดีควรมี 4 ระดับ

  • Workshop 1 : ปัญหาที่พบในการจัดทำ KPI และแนวทางป้องกัน/แก้ไข 

ส่วนที่  2  :  แนวทางการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับองค์การ (Corporate KPIs)

  • การกำหนด Corporate KPIs ด้วย Balance Scorecard เพื่อวัดผลการดำเนินงานทางธุรกิจขององค์กร

  • ตัวอย่างที่ 1 : แบบฟอร์มในการกำหนด Corporate KPIs ในการกำหนด Objective และ Key Performance / Key Result ขององค์กร

  • ตัวอย่างที่ 2 : ตัวชี้วัดระดับองค์กร (Corporate KPIs)

  • ขั้นตอนและวิธีการกำหนดและกระจายตัวชี้วัดระดับองค์กร (Corporate KPIs) สู่ตัวชี้วัดผลลัพธ์ระดับฝ่าย/แผนก (Functional KPIs) ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกันทั้งองค์กร

  • ตัวอย่างที่ 3 : แบบฟอร์มการกระจายเป้าหมายองค์กรสู่เป้าหมายหน่วยงาน 

ส่วนที่  3  :  เทคนิคการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับหน่วยงาน (Functional KPIs) แบบ SMART Goal ให้สอดคล้องกับ Corporate KPIs

  • วิธีการกำหนดตัวชี้วัดผลงานของแต่ละฝ่ายงาน (Functional KPIs) แบบ SMART Goal ให้เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ (Vision) วัตถุประสงค์ (Objective) และตัวชี้วัดขององค์กร (Corporate KPIs)

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติออกแบบและกำหนด Functional KPIs ของแต่ละหน่วยงาน แบบ SMART Goal  ให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับ KPI องค์กร

  • ตัวอย่างที่ 4 : แบบฟอร์มการกำหนดเป้าหมายหน่วยงาน ให้เชื่อมโยงกับ KPI องค์กร (Performance Agreement)

  • PQQCDSSMEEI ปัจจัยยอดนิยมในการกำหนด KPIs

  • ตัวอย่างที่ 5 : Functional KPIs ของหน่วยงานต่างๆ ในองค์กร 

ส่วนที่  4  :  เทคนิคการออกแบบและกำหนดตัวชี้วัดระดับตำแหน่งรายบุคคล (Position / Individual KPIs) 

  • 4 เครื่องมือในการวิเคราะห์และกำหนด Position KPIs

  • ขั้นตอนและวิธีการกำหนด Position KPIs ตามตำแหน่งจากใบกำหนดหน้าที่งานยุคใหม่ (Job Description)

  • ตัวอย่างที่ 6 : ใบกำหนดหน้าที่งานยุคใหม่ (Job Description Version 4) ที่มี KPI สอดคล้องกับงาน

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติออกแบบและกำหนด Position KPIs ให้สอดคล้องกับงานตาม Job Description Version 4   

ส่วนที่ 5  : เทคนิคการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Action Plan) ให้สอดคล้องกับ KPI

  • ความสัมพันธ์ของ KPI กับแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) กับแผนกลยุทธ์ (Strategic Plan)

  • กุญแจทองสำคัญ 3 ดอก ในการจัดทำแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ขั้นตอนการจัดทำแผนการปฏิบัติงานแบบ PDCA

  • ตัวอย่างที่ 7 : แบบฟอร์มแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) สมัยใหม่ที่มีทั้ง KPI และ PI 

  • Workshop 4 : ฝึกปฏิบัติจัดทำแผนปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับ KPI   

วิธีการ/รูปแบบในการเรียนรู้

การบรรยาย (Lecture)  ในรูปแบบการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Adult Learning) ที่มีความรู้และประสบการณ์ โดยมุ่งเน้นการกระตุ้น/ระดมความคิดแบบมีส่วนร่วมระหว่างฝึกอบรม (Participative Techniques)

o   การจัดทำ Workshop ฝึกปฏิบัติ และการนำเสนองาน

   -> ออกแบบและกำหนด Functional KPIs ของหน่วยงานให้เชื่อมโยงกับ KPI องค์กร

   -> ออกแบบ และจัดทำ Position KPIs ของตำแหน่งงาน

   -> เขียน Action Plan ให้เชื่อมโยงกับ KPI

o   การตอบข้อซักถาม 

 

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ

เจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง QMR ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก เจ้าหน้าที่ และผู้สนใจทั่วไป

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี และประสบการณ์ KPI Management 18 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

  • อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

สถานที่อบรม โรงเเรม เซนต์ เจมส์ สุขุมวิท 26 ติด BTS อโศก

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

สมาชิก 3,500 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Public Training หลักสูตร Mindset Change to success อบรม 22 พฤศจิกายน 2565

Public Training หลักสูตร Mindset Change to success อบรม 22 พฤศจิกายน 2565

วิทยากร: อาจารย์สุพจน์ กฤษฎาธาร
อดีต Business Unit Manager ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด
บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด จากสหรัฐอเมริกา
Senior Manager ฝ่ายขายและบริการ บริษัท เทเลคอมเอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
และ ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด จากเยอรมนี
จากประสบการณ์ตรงและจริงในวงการที่มากด้วยคุณภาพกว่า 30 ปี

22 พฤศจิกายน 2565
09.00 – 16.00 น.
** โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)
*สถานที่จัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

หลักการและเหตุผล

เป็นที่ทราบกันดีว่า ความคิดของคนเป็นไปได้ในหลากหลายแนวทางขึ้นกับลักษณะและพฤติกรรมของเจ้าของความคิดนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ความคิด (Mindset) ของคนมีผลอย่างยิ่งต่อผลงาน ยอดขาย การปฏิบัติงาน การกระทำ พฤติกรรม ความมุ่งมั่น ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล รวมถึงความสุขของชีวิต และความสุขในการทำงานด้วย
หลักสูตรนี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนมุมมองความคิด เรียนรู้วิธีการปรับเปลี่ยน DNA ของความคิด และ ตระหนักถึงผลที่เกิดจากความคิด ฝึกฝนการตื่นตัว การอ่าน Mindset ของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความสำเร็จในงาน ฝึกทำกิจกรรมระดมความคิดในเหตุการณ์ตามกรณีศึกษา เมื่อจบหลักสูตรนี้แล้วผู้เข้าอบรมสามารถเข้าใจและนำมาปรับประยุกต์ใช้กับตนเองเพื่อปรับมุมมอง เปลี่ยนความคิด สร้างความเก่งและกล้า นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้วิธีการปรับเปลี่ยนทัศนคติในมุมมองใหม่ ๆ ก่อให้เกิดผลดีต่อการทำงานของตนเองและทีมงาน
2. เพื่อพัฒนาความรู้สึกจิตใจความนึกคิดไปสู่พฤติกรรมที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงานและเกิดผลลัพธ์ที่ดีสู่องค์กร
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถปรับตัวเข้าหาบุคคลที่ “Mindset” ไม่เหมือนกันได้
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้วิธีการอ่าน Mindset ของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างผลสำเร็จในงาน
5. เพื่อตระหนักถึงผลดีต่อความคิดและยอมรับในการปรับพฤติกรรมของตนและผู้อื่น จนเกิดเป็นความมุ่งมั่นในการทำงาน ทำให้ผู้เข้าอบรมและองค์กรประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในที่สุด

หัวข้อการบรรยายและ Workshop

Module 1: Mindset Change
1. เจาะแก่นแท้ให้ถึงก้นบึ้งของ Mindset
2. ที่มาของ Mindset
3. ผลของ Mindset ต่อ ผลการปฏิบัติงานและสิ่งอื่นๆในชีวิต
4. กิจกรรม: Workshop “ล้วงลับ… Mindset ให้เป็นรูปธรรม”
Module 2: ปรับ Mindset
5. วิสัยทัศน์ใหม่….ของ Mindset
6. กรณีศึกษา แนวคิดของผู้บริหารชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ
7. วิธีการปรับ Mindset
8. กิจกรรม: กรณีศึกษา “Mindset Change”
Module 3: เปลี่ยน Mindset
9. ค้นหาจุดเปลี่ยน………….ด้วยตัวเอง
10. การปรับตัวเข้าหาบุคคลที่ “Mindset” ไม่เหมือนกัน
11. มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ ด้วยเทคนิค H I P O
12. กิจกรรม: “กระตุกวิญญาณ สร้าง Mindset ใหม่ให้ชีวิต”
Module 4: สู่การปฏิบัติ
13. การอ่าน Mindset ของบุคคลคนที่เกี่ยวข้อง
• หัวหน้า ทำความเข้าใจ Mindset ลูกน้อง เพื่อพัฒนาลูกน้องให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
• ลูกน้อง ทำความเข้าใจ Mindset หัวหน้า เพื่อทำงานให้ตรงใจหัวหน้า
• พนักงานขาย ทำความเข้าใจ Mindset ลูกค้า เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและสร้างโอกาสทางการขาย
14. Action Plan ปฏิบัติการเปลี่ยน Mindset
15. เทคนิค 5 ประการ…..ปกป้องการย้อนกลับไปที่เดิมของ Mindset
16. สรุปคำถามและคำตอบ

 

ราคา 3,900 บาท/ท่าน 09.00-16.00

โปรโมชั่น จ่าย 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

5 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท เข้าอบรมได้ 6 ท่าน

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

สามารถจัดอบรม In-house Training ได้ค่ะ

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Public Training หลักสูตร การแก้ปัญหาและตัดสินใจสำหรับหัวหน้างานอย่างมีชั้นเชิง อบรม 21 พฤศจิกายน 2565 

Public Training หลักสูตร การแก้ปัญหาและตัดสินใจสำหรับหัวหน้างานอย่างมีชั้นเชิง อบรม 21 พฤศจิกายน 2565

วิทยากร: อาจารย์สุพจน์ กฤษฎาธาร
อดีต Business Unit Manager ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด
บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด จากสหรัฐอเมริกา
Senior Manager ฝ่ายขายและบริการ บริษัท เทเลคอมเอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
และ ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด จากเยอรมนี
จากประสบการณ์ตรงและจริงในวงการที่มากด้วยคุณภาพมากกว่า 30 ปี

21 พฤศจิกายน 2565
09.00 – 16.00 น.
โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)

*สถานที่การจัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

หลักการและเหตุผล
ในยุคปัจจุบันการทำงาน หรือ การทำธุรกิจย่อม หนีไม่พ้นกับคำว่า “ ปัญหา ” เพียงแต่ว่าใครหรือองค์กรไหนจะมีปัญหามากหรือน้อย เร็วหรือช้า แตกต่างกันออกไป เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือการแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อองค์กร ผู้ทำหน้าที่ในการแก้ปัญหา จะต้องมีสติในการเลือกใช้เทคนิค และ วิธีการในการแก้ปัญหา เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดอาจหมายถึงความล้มเหลวที่องค์กรจะได้รับ ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจจึงต้องรวดเร็ว และ มีความถูกต้อง
หลักสูตรนี้ จึงได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และ ผู้ที่สนใจ ได้เรียนรู้เทคนิคการแก้ปัญหาและการตัดสินใจในการทำงานอย่างตรงจุดและถูกต้อง ภายในเวลาที่รวดเร็ว และ ฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาและตัดสินใจที่เข้มแข็ง โดยผู้เข้าอบรมจะได้ร่วมทำกิจกรรมด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจที่ประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้จริง เมื่อจบการอบรม ผู้เข้าสัมมนาจะสามารถประยุกต์และต่อยอดความรู้ในเรื่องนี้ได้ด้วยตนเอง

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้เทคนิคด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาและการตัดสินใจที่มีต่อตนเอง เพื่อนร่วมงานและองค์กร
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาและตัดสินใจที่เข้มแข็ง
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้งานได้จริงเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานและองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา
Module 1: บทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน กับ การแก้ปัญหาและตัดสินใจ
1. บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะ “ผู้ขับเคลื่อนองค์กร”
2. กฎแห่งการเป็น “ หัวหน้างานมือโปร ” เก่งคน เก่งงาน เก่งคิด เก่งพิชิตปัญหา เก่งตัดสินใจ
3. ลักษณะของหัวหน้างานที่เก่งแก้ปัญหาและตัดสินใจ
• มองและรับรู้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
• พุ่งชน !!! ปัญหา และ แก้ไขได้อย่างดีเยี่ยม
• กล้าตัดสินใจ กล้าลงมือแก้ปัญหา
• เป็นนักคาดการณ์ปัญหา
4. กิจกรรม Workshop วิเคราะห์ตนเอง…เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย
5. ปัญหาและอุปสรรคที่หัวหน้างานมักประสบ
• แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด…เสียเวลาแก้ไข ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก
• ตัดสินใจผิดพลาด…สร้างความเสียหายให้องค์กร
• อื่น ๆ
6. กิจกรรม Workshop ขจัดปัญหา และลดอุปสรรคในการแก้ปัญหา
Module 2 : สรรค์สร้างการแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างเหนือชั้น…สำหรับหัวหน้างานมืออาชีพ
7. เทคนิคการแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างมีกึ๋น….สำหรับหัวหน้างาน
• ระบุปัญหาและสาเหตุให้ชัดเจน
• หาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย
• วิเคราะห์ทางเลือก และ หาเกณฑ์การตัดสินใจเลือก
• ตัดสินใจเลือก และ ลงมือแก้ไขอย่างชาญฉลาด
• สื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง
8. การใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาอย่างเหนือชั้น
• 6 W’s 1 H
• เทคนิคการใช้แผนภาพ
• อื่น ๆ
9. กิจกรรม Workshop สร้างอาวุธที่เข้มแข็ง…ในการแก้ปัญหาและตัดสินใจ
10. การสร้างลูกน้องให้สามารถแก้ปัญหาและตัดสินใจเป็น
• การฝึกฝนให้ลูกน้องกล้าเผชิญกับปัญหา
• การสอนเทคนิควิธีการ ลูกล่อลูกชน ในการแก้ปัญหา
• การฝึกฝนให้ลูกน้องใช้ ปฏิภาณ ไหวพริบในการแก้ปัญหา อย่างถึงลูกถึงคน
11. กิจกรรม Workshop ถ่ายทอดวิธีการ สร้างนักแก้ปัญหาในองค์กร
12. ลดปัญหาด้วยการสื่อสาร และ ประสานงานอย่างได้ผล
13. Action Plan : ฝึกฝนตนเอง พัฒนาลูกน้องให้เป็นนักแก้ปัญหา
14. สรุปคำถามและคำตอบ

 

ราคาท่านละ 3,900 บาท/วัน (ไม่รวม VAT)

ราคาสุดพิเศษอย่างยิ่ง

ลงทะเบียน 2 ท่าน ท่านละ 3,500 บาท

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่าน ขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี

1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)

2) ใบประกาศผ่านการอบรม

3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์โรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Public Training หลักสูตร Service Excellence with E.Q พัฒนางานบริการให้เป็นเลิศด้วยความฉลาดทางอารมณ์ อบรม 23 พฤศจิกายน 2565

Public Training หลักสูตร Service Excellence with E.Q พัฒนางานบริการให้เป็นเลิศด้วยความฉลาดทางอารมณ์ อบรม 23 พฤศจิกายน 2565

วิทยากร: ดร.ธธีร์ธร ธีรขวัญโรจน์
อดีต General Manager – บริหารสินค้า บริษัท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด
อดีตผู้จัดการและบริหารการขายอุตสาหกรรมนมไทย(นมตรามะลิ)
ประสบการณ์ระดับงานบริหารและเป็นผู้เชี่ยวชาญการวางแผนงาน และพัฒนาระบบงาน
ที่ใคร ๆ ต้องถามถึงทั้งในวงการมากกว่า 25 ปี

23 พฤศจิกายน 2565
09.00 – 16.00 น.
** โรงแรม โกลด์ออร์คิด วิภาวดีฯ-สุทธิสาร กรุงเทพฯ

*สถานที่จัดอบรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันนี้การแข่งขันของธุรกิจไม่เพียงแต่การมุ่งที่สร้างหรือผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพสู่สายตาลูกค้าเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การพัฒนาทักษะด้านการบริการและการสร้างความประทับใจของพนักงานให้เกิดขึ้นในสายตาลูกค้าหรือให้ลูกค้ารู้สึกและสัมผัสได้ในการมาติดต่อแต่ละครั้ง เพราะสิ่งนี้ถือว่าเป็น เสน่ห์ หรือความสำคัญต่อการรับรู้ว่าองค์กรหรือธุรกิจนั้นให้ความสำคัญแก่ลูกค้ามากน้อยเพียงใด หลักสูตรนี้ ได้พัฒนาและออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้และฝึกฝนการปรับทัศนคติ การสร้างกำลังใจ ตลอดจนทักษะการบริการ การสนทนา การแนะนำสินค้า การวางตัวของพนักงานเพื่อให้เกิดความเกิดความเหมาะสมและที่สำคัญจะต้องการเกิดความ ประทับใจไม่รู้ลืม ของลูกค้า

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ตระหนักถึงความเป็นตัวแทนที่ดีของบริษัทในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในสายตาลูกค้า
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำ EQ และ IQ ไปประยุกต์ใช้ในงานบริการทั้งภายนอกและภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ไปพัฒนาตนเองและเสริมประสิทธิภาพของตนเองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

หัวข้อการบรรยาย
1. กิจกรรม Work shop
• พนักงานในดวงใจลูกค้าต้องเป็นอย่างไร
2. มุมมองพนักงานที่มีต่อลูกค้า
3. มุมมองที่ลูกค้ามีต่อพนักงาน
4. การบริการนั้นสำคัญไฉน
5. พฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้า
6. กิจกรรม บทบาทสมมติสถานการณ์จำลอง พนักงานกับการบริการมืออาชีพช่วงที่ 1
• ฝึกการปฏิบัติจากทักษะของพนักงานพร้อมคำแนะนำของผู้เข้าอบรมและวิทยากร
7. ขั้นตอนการบริการอย่างมืออาชีพ
• ก่อนการบริการ
• ขณะการบริการ
• หลังการบริการ
8. การวางตัวในขณะการบริการเพื่อความเหมาะสมกับลูกค้า
• การทักทาย ต้อนรับ
• กิริยาท่าทางการวางตัว
• การพูดและการสนทนา
• การพาลูกค้าชมสินค้าตัวอย่าง
• การสอบถามความเห็นลูกค้า
9. กิจกรรม บทบาทสมมติสถานการณ์จำลอง พนักงานกับการบริการมืออาชีพช่วงที่ 2
• ฝึกปฏิบัติทักษะพนักงานจากสิ่งที่วิทยากรได้แนะนำไปพร้อมการเสนอแนะความคิดเห็นของผู้เข้าอบรมและวิทยากรจากการแสดงบทบาทสมมติของผู้เข้าอบรม
10. บุคลิกภาพภายใน
• ทัศนคติ แนวคิด
• การพัฒนาอีคิว (EQ)
11. กระบวนการสร้างสรรค์การบริการแบบมืออาชีพ
12. การพัฒนามุมมองความคิดของนักบริการ
13. การสร้างเสน่ห์แห่งความจดจำของพนักงานที่มีต่อลูกค้า
14. สิ่งที่จะพัฒนาตนเองเพื่อการยกระดับการบริการให้แก่ลูกค้า
15. สรุป คำถาม และ คำตอบ

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

Public Training Power of Thinking (เสริมสร้างพลังความคิด….เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ) *** 5 ความคิด : คิดบวก / คิดสร้างสรรค์ / คิดเป็นระบบ / คิดวิเคราะห์ / คิดเชิงรุก*** อบรม 9 พ.ย.65

Public Training Power of Thinking (เสริมสร้างพลังความคิด….เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ) *** 5 ความคิด : คิดบวก / คิดสร้างสรรค์ / คิดเป็นระบบ / คิดวิเคราะห์ / คิดเชิงรุก*** อบรม 9 พ.ย.65

วิทยากร: พท.ดร.ธธีร์ธร ธีรขวัญโรจน์
อดีต General Manager – บริหารสินค้า บริษัท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด
อดีตผู้จัดการและบริหารการขายอุตสาหกรรมนมไทย(นมตรามะลิ)
และผ่านงานด้านการขายและการตลาดจาก Marriott Royal Garden Resorts Group
รวมประสบการณ์การทำงานด้านการขาย การตลาดและการบริการมากกว่า 25 ปี

9 พฤศจิกายน 2565
09.00 – 16.00
** โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)

*สถานที่จัดอบรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

U

หลักการและเหตุผล

“ความคิด” เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการใหญ่ของเราที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและการกระทำ ซึ่งเรานั้นต้องใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลาทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยความคิดสำคัญที่เราทุกคนจำเป็นต้องมีก็คือ คิดบวก คิดสร้างสรรค์ คิดเป็นระบบ คิดวิเคราะห์ คิดเชิงรุก ซึ่งมีคนอยู่ไม่มากนักที่จะสามารถมีทั้ง 5 ความคิดนี้อยู่ในตัว ดังนั้น 5 ความคิดนี้จึงถือสิ่งสำคัญที่เราจำเป็นต้องมอง และ ต้องจุดประกายความคิดทั้ง 5 เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ
หลักสูตรนี้ จึงได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้หัวหน้างาน พนักงาน ผู้ที่สนใจ ได้เรียนรู้เทคนิคในการพัฒนา “5 ความคิด” เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน สรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ พัฒนาการทำงานและแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแนวทางใหม่ๆ รวมทั้ง จะได้ร่วมทำกิจกรรมและเกมส์ด้านการพัฒนาความคิดที่ประยุกต์ขึ้นให้เหมาะสมกับผู้เข้าอบรมแต่ละกลุ่ม เมื่อจบการอบรม ผู้เข้าสัมมนาจะสามารถนำความรู้ไปต่อยอดได้ด้วยตนเอง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบถึงความสำคัญของการพัฒนาพลังแห่งความคิด เพื่อสร้างความสำเร็จให้องค์กร
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รู้เทคนิคในการพัฒนา 5 ความคิด คิดบวก คิดสร้างสรรค์ คิดเป็นระบบ คิดวิเคราะห์ คิดเชิงรุก อย่างได้ผล
3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำ 5 ความคิดมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
4. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา
Module 1: กระตุ้นต่อมความคิด….พิชิตความสำเร็จ
1. ความสำคัญของการพัฒนาพลังความคิด
2. เจาะลึก !!! 5 ความคิดหลากหลายรูปแบบ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ
• ความคิดที่ 1 คิดบวก (Positive Thinking)
• ความคิดที่ 2 คิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
• ความคิดที่ 3 คิดเป็นระบบ (Systematic Thinking)
• ความคิดที่ 4 คิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)
• ความคิดที่ 5 คิดเชิงรุก (Proactive Thinking)
3. กิจกรรม Workshop มองเห็น เข้าใจ รูปแบบความคิดสู่ความสำเร็จในองค์กร
4. ความคิดที่ 1 คิดบวก(Positive Thinking)
• กำแพงความคิด….ทำไมถึงไม่สามารถคิดได้อย่างเป็นรูปธรรม
• ปรับเปลี่ยนความคิดจากผู้ที่ไม่เคยคิด….ให้คิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. กิจกรรม Workshop : ทะลายกำแพงความคิดพิชิตความสำเร็จ….ในการทำงาน
6. ความคิดที่ 2 ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
• ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดความคิดในการทำงาน (Think Outside of the Box)
• ค้นหา เป้าหมาย ใหม่ๆ
7. กิจกรรม/เกมส์ : คิดอย่างสรรค์สร้างสู่การสร้างนวัตกรรมในการทำงาน
Module 2 พัฒนาความคิด….พิชิตความสำเร็จในการทำงาน
8. ความคิดที่ 3 คิดอย่างเป็นระบบ….เทคนิคการบริหารจัดการความคิดอย่างเป็นระบบ(Systematic Thinking) เพื่อแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างมีกึ๋น (Effective Problem Solving)
• ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
• คิดทางเลือกต่าง ๆ
• วิเคราะห์ข้อดี – ข้อเสีย ของทางเลือก
• ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างมีกึ๋น
9. กิจกรรม Workshop : การคิดอย่างเป็นระบบ ….เพื่อแก้ปัญหาและตัดสินใจในการทำงาน
10. ความคิดที่ 4 คิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)
• สรรค์สร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาการทำงานสู่ความสำเร็จ (Analytical Thinking to Success)
11. กิจกรรม/เกมส์ มหัศจรรย์….พลังของความคิดวิเคราะห์
12. ความคิดที่ 5 ความคิดเชิงรุก….ผสานความคิดสู่การพัฒนา ความคิดเชิงรุก อย่างได้ผล
• วิธีการนำความคิดเชิงรุกมาใช้ในการทำงาน
• โมเดลพัฒนาความคิดเชิงรุก
13. การประยุกต์ใช้ 5 ความคิดเพื่อพิชิตความสำเร็จในการทำงาน
14. กิจกรรม Workshop ประยุกต์… 5 ความคิด พิชิตความสำเร็จ
15. สรุป คำถาม และ คำตอบ

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

++!!!!ห้ามพลาด!!***เพื่อพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรของท่าน***

ติดตามหลักสูตรเด่นรับข่าวสารตารางอบรมปี 2565/2566

#บริการทุกระดับInhouseTraining ฝึกอบรมภายในองค์กร ด้วยวิทยากรมืออาชีพ

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Public Training หลักสูตร เทคนิคการเขียนจดหมายเชิงธุรกิจ (Effective Business Writing) อบรม 28 ตุลาคม 2565

Public Training หลักสูตร เทคนิคการเขียนจดหมายเชิงธุรกิจ (Effective Business Writing) อบรม 28 ตุลาคม 2565

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจความหมาย และความสำคัญของการเขียนจดหมาย/หนังสือธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ

  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมข้าใจหลักการพื้นฐานในการเขียนข้อความส่วนต่างๆ ของจดหมาย/หนังสือได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเขียนหนังสือ/จดหมายติดต่อธุรกิจแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ครอบคลุม กระทัดรัด และตรงวัตถุประสงค์

 

ประเด็นการสัมมนา

  1. เทคนิค 5 หลักการสำหรับการเขียนจดหมายเชิงธุรกิจฉบับมืออาชีพ

  2. หลักการเขียนหนังสือติดต่อธุรกิจ

        – การเขียนหัวเรื่อง เนื้อเรื่อง จุดประสงค์ของเรื่อง การเขียนท้ายเรื่อง

        – Workshop: ฝึกปฏิบัติการเขียนหนังสือราชการ/หนังสือธุรกิจ

  1. ศิลปะในการเขียนจดหมาย/หนังสือแต่ละชนิด และตัวอย่าง

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือการเริ่มสัมพันธ์ทางธุรกิจ

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือการยืนยันการนัดหมาย

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือการเจรจาธุรกิจ/ยกเลิกเจรจาทางธุรกิจ

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือตักเตือนหรือตำหนิ

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือตอบปฏิเสธ

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือขอร้อง

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือขอความร่วมมือ

        – การเขียนจดหมาย/หนังสือขอความช่วยเหลือ

        – Workshop: ฝึกปฏิบัติการเขียนจดหมาย/หนังสือติดต่อธุรกิจกับหน่วยงาน

        (ฝึกจากกรณีจดหมายที่ใช้จริงในงาน)

  1. หลักในการตรวจร่าง และการแก้ร่างหนังสือติดต่อธุรกิจ

  2. การทำบันทึกเสนอผู้บังคับบัญชาในรูปแบบง่าย

        – Workshop: ฝึกปฏิบัติการทำบันทึกเสนอผู้บังคับบัญชาในรูปแบบง่ายๆ

  1. เสริมทักษะในการเขียนหนังสือติดต่อราชการ /ธุรกิจ

  2. สรุปประเด็น/คำถามแลกเปลี่ยนประสบการณ์/ปิดการสัมมนา

 

วิธีการฝึกอบรม – สัมมนา

เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Dynamic & Workshop) เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน (Learning by Doing and Participating with Experiences) ซึ่งประกอบด้วย

{ การบรรยาย       { กิจกรรม และเกม    { การแสดงออก

{ กลุ่มสัมพันธ์       { การแสดงความคิด ถาม – ตอบ

 

 

วิทยากรนำการสัมมนา

ดร.พิพัฒน์พล  เพ็ชรเที่ยง (อ.ปีเตอร์/ดร.ปื๊ด)

  • Managing Director : PLAN AND WORK CENTER

  • ที่ปรึกษาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร : DE WISDOM Training Institute

  • ที่ปรึกษาอิสระพัฒนาพนักงานขายและพนักงานสัมพันธ์ลูกค้าด้วยกระบวนการ

Sales Consultant, Customer Service and Call Center Assessment or Development Center

  • ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบหลักสูตร และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาบุคลากรมากกว่า 10 ปี

อดีตที่ทำงาน

  • ที่ปรึกษาอาวุโสด้านพัฒนาบุคลากร Adecco Consulting Limited (Thailand)

  • ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาบุคลาการ Thailand Duty Free Shop Co., Ltd. (ททท.)

  • ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล King Power Duty Free Co., Ltd. (เอกชน)

  • ผู้จัดการฝ่ายบริการส่วนหน้า และผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรม Bangkapi Royal Rose Hotel

          Kasikorn Thai Bank, Ambassador Hotel Bangkok

การศึกษา

                   – ปริญญาเอก สาขาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

  (HUMAN RESOURCES DEVELOPMENT )  มหาวิทยาลัยรามคำแหง

   ชื่อเรื่องดุษฎีนิพนธ์ การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการสอนงานของหัวหน้างานในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ไทย

   A Development of the Coaching Training Curriculum for Supervisor in Thai Electronic Industries.

– ปริญญาโท สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

  (HUMAN RESOURCES DEVELOPMENT )  มหาวิทยาลัยรามคำแหง

                – ปริญญาตรี สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (ENGLISH COMMUNICATION ART)

                  มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

  ศิษย์เก่าดีเด่นปี พ.ศ. 2539 รางวัลนพรัตน์เชิดชูเกียรติ ประเภทผู้ให้บริการสังคม

  Certificated to Mini Master of Management (MMM) NIDA

  Certificated to Service Plus as Service Training for Trainer

                  DDI-Development Dimensions International (Thailand)

                  Certified to DJ Professional Training KPN MUSIC ACADEMY

 

รูปเเบบ Public Training

ราคา โปรโมรชั่น  3,900 บาท/วัน

ลงทะเบียน 3 ท่าน ท่านละ 3,200 บาท

ลงทะเบียน 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 2,900 บาท

ราคาดังกล่าว ฟรี
1) เอกสารประกอบการสัมมนา (เข้าเล่ม)
2) ใบประกาศผ่านการอบรม
3) อาหารเบรก 2 มื้อ อาหารกลางวันโรงแรม รับกระเป๋าผ้าสมุดปากกา หน้างาน

สถานที่จัดอบรม :  โรงเเรม Novotel Bangkok  Sukhumvit 20 

โรงเเรม Novotel Bangkok Sukhumvit 20 ลง สถานี BTS อโศก  ทางออกประตู 6

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

http://www.tesstraining.com

Public Training เทคนิคการออกแบบและกำหนด OKRs อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นที่ 7 (Effective Objective and Key Results) : 28 ตุลาคม 2565

Public Training เทคนิคการออกแบบและกำหนด OKRs อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นที่ 7 (Effective Objective and Key Results) : 28 ตุลาคม 2565

วัถตุประสงค์ของการอบรม : เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม

สามารถอธิบาย หลักการ แนวคิด ขั้นตอน และวิธีการนำ OKRs (Objective and Key Results) มาปรับใช้ในการบริหารจัดการองค์กรได้
สามารถอธิบายความเหมือน และความแตกต่างระหว่าง KPIs (Key Performance Indicators) และ OKRs ได้อย่างชัดเจน และประยุกต์ใช้ในการบริหารงานและคนตามได้บริบทที่เหมาะสม
สามารถกำหนด Key Results ที่ชัดเจนสามารถวัดผลลัพธ์ได้สอดคล้องกับ Objective และ OKRs ขององค์กรได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม
สามารถแปลง KPIs ที่องค์กรมีอยู่ให้เป็น OKRs ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
สามารถกำหนด Strategy หรือ Initiative ให้สอดคล้องกับ OKRs ในการดำเนินงานให้บรรลุผลลัพธ์ได้
สามารถนำความรู้ และเทคนิคที่ได้รับไปปรับใช้ต่อยอดในการกำหนด OKRs ให้สอดคล้องกับ OKRs ขององค์กรและผู้บริหารได้
หัวข้อสำคัญการอบรม :

ส่วนที่ 1 : หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับ OKRs (OKRs Introduction)

ความหมายของ OKRs
Concept ของ OKRs
ความเหมือนและความต่างระหว่าง KPIs กับ OKRs
ความเชื่อมโยงของ OKRs กับ Performance Management System (PMS)
5 ระดับของ OKRs : Company’s OKRs, Department’s OKRs, Section’s OKRs, Team’s OKRs, Position’s OKRs
ส่วนที่ 2 : แนวปฏิบัติในการกำหนด OKRs ให้สอดคล้องกับ Mission และ Vision ขององค์กร
การทบทวนวัตถุประสงค์ และผลลัพธ์หลักขององค์กร (Review Objective and Key Results)
แนวทางการสื่อสาร OKRs ด้วย Strategic Mapping (OKRs Alignment )
แนวทางการประยุกต์ใช้ Balance Scorecard ในการกำหนด Objective และ Key Results
ขั้นตอนการนำ OKRs ไปประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์กร (OKRs Process)
ส่วนที่ 3 : วิธีการ และเทคนิคการกำหนด OKRs (OKRs Techniques)
แนวทางการกำหนด Objective ที่ดีและมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการกำหนด Key Results ด้วยหลักการ SMART Goal Setting
แนวทางการกำหนด Key Results ให้สอดคล้องกับ Objective และสอดคล้องกันทั้งองค์กร
ตัวอย่าง : Department’s / Section’s OKR
Workshop 1 : ฝึกปฏิบัติจัดทำ Department’s OKRs /Section’s OKRs (Step 1 : Objective & Step 2 : Key Results)
ส่วนที่ 4 : ถ้าองค์กรมี KPIs อยู่ จำเป็นต้องยกเลิก แล้วใช้ OKRs แทนหรือไม่ ?
แนวทางการพัฒนาต่อยอด KPIs ให้กลายเป็น OKRs
Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติการประยุกต์ KPIs ให้กลายเป็น “OKRs”
ส่วนที่ 5 : แนวทางการกำหนดกลยุทธ์ หรือแนวคิดริเริ่มการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับ OKRs (Strategy or Initiative link to OKRs)
แนวทางการกำหนดกลยุทธ์ หรือแนวคิดริเริ่มการทำงานให้สอดคล้องกับ OKRs
Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติกำหนดกลยุทธ์ให้บรรลุ OKRs
แนวทางการแปลงกลยุทธ์สู่การปฏิบัติจริงด้วย Action Plan
การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตาม OKRs ด้วยบันทึกข้อตกลงผลการปฏิบัติงาน (OKRs Performance Agreement)
ส่วนที่ 6 : เทคนิคการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย OKRs
ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ (Modern Performance Management System)
เครื่องมือการประเมินผลการปฏิบัติงานยุคใหม่ด้วย OKRs และ Competency ที่สอดคล้องกับ OKRs องค์กร
แนวทางการนำ OKRs ไปใช้ประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Appraisal based on OKRs)
ตัวอย่าง : การประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย OKRs ที่สอดคล้องกับ Objective และ Company’s OKR
ส่วนที่ 7 : ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดทำ OKRs
Mindset ของ CEO และพนักงานในการจัดทำ OKRs
ข้อควรระวังในการจัดทำ OKR (Mistaken about OKR)
วิธีการ/รูปแบบในการเรียนรู้ :
การบรรยาย (Lecture) แบบ Adult Learning
การจัดทำ Workshop เชิงปฏิบัติการ และนำเสนอ
การตอบข้อซักถาม

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :
ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก นักบริหารทรัพยากรบุคคล และผู้สนใจทั่วไป

 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช ธานี (อ.ต้น)
วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี
วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY
วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
อดีตกรรมการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) 2 สมัย

โรงเเรม เซนต์เจมส์ สุขุมวิท 26 ติด BTS พร้อมพงษ์

Public /ONSITE

ราคาท่านละ 3,500 บาท (ไม่รวม VAT)

ฟรีเอกสารประกอบการอบรม อาหารว่าง มื้อ และอาหารกลางวัน

*สถานที่การจัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม 

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

 

บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เลขที่31/155หมู่ที่1ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี12110
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี: 0105557143661

Website: www.tesstraining.com

Website: www.INWtraining.com

 

 

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร 5 ส.และ ไคเซ็น เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อบรม 17 พฤศจิกายน 2565

Online Zoom เปิดรับสมัคร หลักสูตร 5 ส.และ ไคเซ็น เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อบรม 17 พฤศจิกายน 2565

 

ปัจจุบันองค์กรต้องเผชิญกับการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรงรวมทั้งอยู่ในสภาวะความถดถอยของเศรษฐกิจโลก กำไรเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้องค์กรสามารถดำรงอยู่ได้ องค์กรจะมีกำไรได้นั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลัก 2 ประการ คือ รายได้และค่าใช้จ่าย ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์อยู่เสมอเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีอันจะนำมาซึ่งโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตและกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้องค์กรจำเป็นต้องคำนึงถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและการเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) ไคเซ็น (Kaizen) ถือเป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเนื่องจากได้มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร (competitive advantage) และยังส่งเสริมพฤติกรรมการทำงาน (working behavior) ของผู้ปฏิบัติในทิศทางที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและตัวของผู้ปฏิบัติงานเองอย่างยั่งยืน

     แต่การจะใช้Kaizen ให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จำเป็นต้องเริ่มจากกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย 5ส ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานทุกระบบ ในหลักสูตรนี้จึงเป็นการบูรณาการเครื่องมือที่เป็นพื้นฐานง่ายๆ ทั้ง 2 อย่างนี้เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้อย่างแท้จริง

วัตถุประสงค์

  • เพื่อสร้างจิตสำนึกและการหาวิธีการทำกิจกรรม 5ส. ในการทำงาน

  • เพื่อสร้างความเข้าใจต่อต้นทุนการผลิต และสร้างผลกำไรให้กับบริษัท

  • เพื่อสร้างแนวคิดในการประยุกต์ใช้ 5ส.และไคเซ็น ในการสร้างคุณภาพต่องานที่ทำ

  • เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานและบริษัทอย่างต่อเนื่อง

    เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเชื่อมั่นและกล้าถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ ความชำนาญในการทำงานเป็นกลุ่ม

    เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับผู้เข้ารับการอบรม

หัวข้ออบรม

§  1.แนวคิดการเพิ่มผลผลิต

§   เนื้อหา โดยสรุป : อธิบายหลักการแนวคิดการเพิ่มผลผลิต ความจำเป็น ผลประโยชน์ต่อพนักงาน องค์กร และลูกค้าอย่างไร รวมทั้งขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมตามแนวคิด

§   2. 5ส.และไคเซ็นคืออะไร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?

§  เนื้อหา โดยสรุป :ให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงความสำคัญและความหมายของวิธีการปรับปรุงงานของเครื่องมือทั้งสอง

§   3.หลักการใช้ 5ส. และKAIZENในพื้นที่การทำงาน

§  เนื้อหาโดยสรุป :ให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงหลักการเบื้องต้นในการนำ 5ส.และไคเซ็นมาประยุกต์ใช้รวมถึงข้อเสนอแนะวิธีการปรับปรุงงานในพื้นที่การทำงาน

§  พักเบรก 15 นาที

§  .ขั้นตอนและการประยุกต์ใช้5ส. และKAIZEN ในพื้นที่การทำงาน

§  เนื้อหาโดยสรุป : เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงขั้นตอนในการปรับปรุงงานและการประยุกต์ใช้ที่ก่อให้เกิดการปรับปรุงงาน

§  เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงขั้นตอนในการปรับปรุงงานและการประยุกต์ใช้ที่ก่อให้เกิดการปรับปรุงงาน

§  พักรับประทานอาหารกลางวัน

§   5.เทคนิคในการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงงาน

§  เนื้อหา โดยสรุป :เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รู้ถึงสาเหตุของปัญหาในการจัดทำการปรับปรุงงานและสามารถวิเคราะห์ปัญหา พร้อมหาแนวทางในการแก้ไขที่เกิดขึ้นได้ตรงจุดโดยใช้ 5why, Visualization (การทำให้มองเห็น), ECRS (การจัดระเบียบใหม่), 7wastes analysis (การวิเคราะห์ความสูญเปล่า)

§  อธิบายทบทวนหลักการ 5ส&KAIZEN และขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมตามแผน โครงการที่องค์กรมีอยู่ด้วยหลักPDCA

§  เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงขั้นตอนในการปรับปรุงงานและการประยุกต์ใช้ที่ก่อให้เกิดการปรับปรุงงาน

§  พักเบรก 15 นาที

  การประยุกต์ใช้กิจกรรม 5ส และKAIZENในพื้นที่การทำงาน

   เนื้อหา โดยสรุป : อธิบายถึงหลักการจัดทำเอกสาร,การสร้างแบบฟอร์มต่างๆ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรม, การจัดทำมาตรฐาน 5ส ของหน่วยงาน และของบริษัท รวมถึงตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานจริงที่หน้างาน

  อธิบายถึงหลักการจัดทำเอกสาร,การสร้างแบบฟอร์มต่างๆ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรม, การจัดทำมาตรฐาน 5ส ของหน่วยงาน และของบริษัท รวมถึงตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานจริงที่หน้างาน

  สรุปตอบคำถาม

 

วิทยากร :  อาจารย์ อนันต์ ดีโรจนวงศ์

             – MBA Logistics Management

             – Lean Production Consultant

             – ที่ปรึกษาสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน (A.S.I.A.)

             – ที่ปรึกษาเครือข่าย Lean Production สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น

             – ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

             – อาจารย์พิเศษและวิทยากรด้านการผลิตและโลจิสติกส์ ม.รัฐฯและเอกชนหลายแห่ง

             – ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม

 

ราคาหลักสูตรออนไลน์ รับวุฒิบัตรใบประกาศ

สามารถเรียนได้ทางคอมเเละมือถือ อยู่ที่ไหน ก้อสามารถเรียนได้ ผ่านระบบโปรเเกรม ZOOM

หลักสูตรนี้มีคำตอบ ที่นี่ที่เดียว
สนใจสมัครเพื่อรับองค์ความรู้ได้ที่ คุณกุ้ง 0988209929 คุณกุ้ง

โปรโมชั่น 

  • สมัครลงทะเบียน 1 ท่าน  ในราคาท่านละ 2,500 บาท ไม่รวม vat 7%

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

 

 

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com

Online Zoom หลักสูตร เทคนิคการสื่อสารและประสานงานให้งานได้ผลคนก็ได้ใจ รุ่นที่ 4 (Effective Communication and Coordinate Techniques) : 2 พฤศจิกายน 2565

Online Zoom  หลักสูตร เทคนิคการสื่อสารและประสานงานให้งานได้ผลคนก็ได้ใจ รุ่นที่ 4 (Effective Communication and Coordinate Techniques) : 2 พฤศจิกายน 2565

เวลาอบรม 09.00-16.00 ได้รับใบประกาศนียบัตร

อย่าปักหมุดความคิดผิดคิดว่าการสื่อสารประสานงานเป็นแค่ Soft Skill    ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก หัวหน้างาน และบุคลากรทุกคน ในองค์กรต้องใช้ “ศาสตร์และศิลป์” ทั้ง “Soft Skill และ Hard Skill ในการสื่อสารประสานงาน” ที่สร้างบรรยากาศการสื่อสาร ประสาน โน้มน้าว และเจรจาต่อรองให้มีประสิทธิภาพด้วยการ “วิเคราะห์ผู้อื่นออก บอกผู้อื่นได้ ประสานและใช้ผู้อื่นเป็น” ให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย (KPIs/OKRs) ที่กำหนดไว้

สิ่งที่จะได้รับจากการเรียนรู้ 

  1. สามารถอธิบาย หลักการ ขั้นตอน เทคนิค และวิธีการ ในการสื่อสารให้งานได้ผลคนได้ใจ และ ประสานงานให้ผู้อื่นเข้าใจ ยอมรับ และปฏิบัติตามได้

  2. สามารถวิเคราะห์บุคลิกลักษณะและสไตล์การทำงานของผู้อื่น (DISC) และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ในการเตรียมการสื่อสารประสานงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. เสริมสร้างและพัฒนาเทคนิคการเข้าถึงผู้อื่นด้วยการยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นให้การสื่อสารประสานงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

  4. สามารถพัฒนาการสื่อสารและประสานงานให้เหมาะสมการทำงานกับบุคลิกลักษณะและสไตล์การทำงานของคนแต่ละประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน เป็นรูปธรรม

  5. สามารถเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุม ให้เหมาะกับสถานการณ์และสารที่จะสื่อ และบริหารการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน เป็นรูปธรรม

  6. เสริมสร้างและพัฒนาเทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวใจอย่างมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น

  7. เสริมสร้างและพัฒนากลยุทธการสื่อสารประสานงาน และเจรจาต่อรอง ให้งานบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  8. สามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับไปปรับใช้ในการสื่อสารและประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการอบรม

หัวข้อสำคัญของการเรียนรู้

ส่วนที่  1  :  สื่อสารอย่างไรให้งานได้ผลคนได้ใจ (Effective Communication)

  • หลักการการสื่อสารขั้นเทพ “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา”ที่ทำให้งานได้ผลคนได้ใจ

  • ช่องทางการติดต่อสื่อสาร (Channel of Communication)

  • ขั้นตอนสำคัญของการสื่อสาร (Communication Process) ให้งานสำเร็จดังใจหวัง

ส่วนที่  2  :  ประสานงานอย่างไรให้ผู้อื่น “เข้าใจ ยอมรับ และปฏิบัติตาม” (Effective Coordination)

  • 5 องค์ประกอบของการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เทคนิคการสร้างเครือข่ายการประสานงานภายในองค์กร

  • แนวทางและวิธีการสื่อสารประสานงานกับผู้บังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ

  • แนวทางและวิธีการการสื่อสารประสานงานกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ

  • แนวทางและวิธีการการสื่อสารประสานงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่  3  : เทคนิค “การเข้าใจผู้อื่น” ก่อนการสื่อสารประสานงาน ด้วยการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะ (DISC Personality Analysis)

  • การให้คุณค่าในความแตกต่างของคน (Value the Difference) เคล็ดของการสื่อสารที่ทรงอานุภาพ

  • แนวทางการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคน เพื่อมองคนให้ออก บอกคนให้ได้ และใช้คนเป็น ด้วย DISC Personality Analysis

  • ตัวอย่างที่ 1 : แบบฟอร์มการวิเคราะห์บุคลิกลักษณะคน

  • Workshop 1 : ฝึกวิเคราะห์บุคลิกลักษณะ และสไตล์การทำงานของตนเองและผู้อื่น

ส่วนที่  4  : เทคนิค “การเข้าถึงผู้อื่น” ด้วยการยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น

  • สื่อสารแบบ Positive Communication ให้ได้รับการยอมรับ และความร่วมมือในการทำงาน

  • 11 วิธีการสร้างบรรยากาศการสื่อสารดีๆ ด้วยตนเอง

  • 5 คำพูดที่ทรงพลังในการสื่อสารและประสานงาน เพื่อความสำเร็จในการทำงาน

ส่วนที่  5  : เทคนิค “การพัฒนาการสื่อสารและประสานงาน” ในการทำงานกับคนแต่ละประเภท (Communication & Coordination Development Techniques)

  • “ฟัง-คิด-สื่อสาร” หัวใจสำคัญของการสื่อสาร

  • เทคนิคการสื่อสารการทำงานให้เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะคนทั้ง 4 ประเภท (DISC)

  • เทคนิคการสื่อสารการทำงานให้เหมาะสมกับคนทั้ง 4 พฤติกรรมการทำงาน (STAR – NATO – NGO – DEAD WOOD)

  • ตัวอย่างที่ 2 : แบบฟอร์มวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการสื่อสารประสานงานกับผู้อื่น

  • Workshop 2 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสื่อสารประสานงานให้หมาะสมกับบุคลิกลักษณะ และสไตล์การทำงาน

ส่วนที่  6 :  เทคนิคการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการสื่อสารด้วยการประชุม ให้เหมาะกับ “สถานการณ์ และสารที่จะสื่อ” (Effective Meeting Management)

  • แนวทางที่ 1 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมให้ความรู้หรือข้อเท็จจริง

  • แนวทางที่ 2 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมโน้มน้าวใจ

  • แนวทางที่ 3 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมแก้ไขปัญาและตัดสินใจ

  • แนวทางที่ 4 การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ด้วยการประชุมแนะนำและชี้แนะเรื่องต่างๆ

  • ตัวอย่างที่ 3 : แบบฟอร์มการวิเคราะห์และเลือกใช้วิธีการประชุมให้เหมาะสมกับประเด็นและสถานการณ์ที่จะสื่อสาร

  • บริหารการประชุมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเราต้อง Lead การประชุม (Meeting Management)

  • Workshop 3 : ฝึกปฏิบัติกำหนดแนวทางการสื่อสารด้วยการประชุมให้เหมาะกับ สถานการณ์และสารที่จะสื่อ

ส่วนที่  7  :  เทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวอย่างมีประสิทธิผล (Effective Influencing Communication Techniques)

  • หลักการสื่อสารโน้มน้าวผู้อื่น

  • 5 เทคนิคการสื่อสารโน้มน้าวผู้อื่นอย่างมีประสิทธิผล

  • แนวทางการสื่อสารโน้มน้าวแบบเปิดใจ

ส่วนที่  8 :  กลยุทธการสื่อสารประสานงาน และเจรจาต่อรอง แก้ไขปัญหาการทำงานระหว่างหน่วยงานให้งานบรรลุเป้าหมาย

  • กลยุทธในการสื่อสารประสานงานให้งานมีประสิทธิผล

  • เคล็ด (ไม่) ลับการสื่อสาร สำหรับผู้จัดการและหัวหน้างานมืออาชีพที่ทีมงานคาดหวัง

  • หลักการเจรจาต่อรองในการสื่อสารประสานงานในองค์กร

  • กลยุทธ์การสื่อสารเจรจาต่อรองในการทำงานระหว่างหน่วยงาน

  • ตัวอย่างที่ 4 : แบบฟอร์ม MOU ในการเจรจาต่อรองแก้ไขปัญหาการทำงานระหว่างหน่วยงาน

หลักสูตรนี้เหมาะสมสำหรับ :

บุคลากรทุกคนที่ต้องสื่อสารและประสานงาน

รูปแบบ/วิธีการเรียนรู้ 

o  การบรรยาย (Lecture)   แบบ Adult Learning

o  การทำ Workshop เชิงปฏิบัติการ

o  การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Discussion) เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

o  การตอบข้อซักถาม : เพื่อเสริมสร้างความรู้เข้าใจที่ชัดเจน และกระตุ้นผู้เรียนรู้ให้คิดตาม 

วิทยากร : อาจารย์ ธนุเดช  ธานี (อ.ต้น)

  • กรรมการผู้จัดการสถาบันฝึกอบรม People Develop Center  

  • วิทยากรและที่ปรึกษาผู้ชำนาญการพิเศษด้าน HR จากประสบการณ์ 32 ปี

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD ของ SGS ACADEMY

  • วิทยากรพิเศษด้าน HRD คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

โปรโมชั่น 

  • สมัครลงทะเบียน 1 ท่าน  ในราคาท่านละ 2,500 บาท ไม่รวม vat 7%

  • สมัครเข้าอบรม 4 ท่าน ชำระเพียง 3 ท่าน

ติดต่อสอบถาม

Tel : 098-8209929 คุณกุ้ง

E-mail: inwtraining.sale@gmail.com

Line id : @Tesstraining

Facebook : tesstrainingpage

ทาง บริษัท เทสส์ เทรนนิ่ง จำกัด เป็นบริษัทฝึกอบรมสัมมนาครบวงจร

www.tesstraining.com

www.inwtraining.com